ประธานาธิบดี โจโก วิโดโด้ แห่ง อินโดนีเซีย ประกาศตัดสินใจทุบทำลายสนามที่ก่อให้เกิดฝันร้ายครั้งใหญ่ในประเทศอย่างแน่นอนแล้วเพื่อก่อสร้างขึ้นมาใหม่หลังมีอันต้องสังเวยชีวิตแฟนบอลในประเทศมากถึง 131 รายจากเหตุวุ่นวายที่สร้างความสลดให้กับแฟนบอลทั่วโลก
บีบีซี รายงานเมื่อ 18 ต.ค.ว่าผู้นำ อินโดนีเซีย ประกาศทุบสนามฟุตบอล คันจูรูฮาน ในเมือง มาลัง อย่างแน่นอนแล้วหลังเกิดเหตุโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 2 ต.ค.เนื่องจากแฟนบอลเจ้าถิ่น อาเรม่า เอฟซี โกรธแค้นที่ทีมพ่ายให้กับ เปอร์เซบาย่า สุราบากัน 3-2 และพากันรุมทำร้ายสาวกทีมเยือน กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาระงับเหตุ และส่งผลให้มีการเหยียบกันตายเนื่องจากหลายคนพยายามแย่งกันออกจากสนามเพื่อเอาชีวิตรอด
ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ลีกลูกหนังของ อินโดนีเซีย ถูกประกาศให้เลื่อนออกไปโดยไม่มีการฟาดแข้งมาจนถึงขณะนี้ กระทั่งล่าสุดมีการยืนยันว่าสนามดังกล่าวจะถูกทำลายเพื่อสร้างขึ้นมาใหม่เนื่องจากไม่อยู่ในมาตรฐานความปลอดภัยที่ ฟีฟ่า กำหนดเอาไว้หลังจากประธานาธิบดี วิโดโด้ ได้พบกับ จานนี่ อินฟานติโน่ ประธาน ฟีฟ่า เมื่อวันอังคารที่ 18 ต.ค.โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อินโดนีเซีย จะเป็นเจ้าภาพ ฟุตบอลโลก ชุดยู 20 ในปี 2023 ด้วย
"นี่คือประเทศของฟุตบอล ประเทศที่ผู้คนเกินกว่า 100 ล้านคนคลั่งไคล้ฟุตบอล เราเป็นหนี้แฟนบอล และเมื่อพวกเขาเข้ามาดูเกม พวกเขาต้องได้รับความปลอดภัย" ประธาน ฟีฟ่า เผย
จากเหตุสลดดังกล่าว มีการตั้งข้อหาผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหกรายซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายจัดการแข่งขันด้วยโทษฐานประมาทเลินเล่อจนส่งผลให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่โดยความผิดในคดีที่มีผู้เสียชีวิตนับร้อยนี้อาจถึงขั้นได้รับโทษสูงสุดจำคุกห้าปี
ทั้งนี้ รายงานการสอบสวนเหตุการณ์ถูกเผยออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าเหตุร้ายเกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตายิงใส่อัฒจันทร์จนก่อให้เกิดความโกลาหลซึ่งเป็นมาตรการที่ ฟีฟ่า สั่งห้ามเด็ดขาด
ขณะเดียวกัน รายงานการสอบสวนยังเผยอีกว่าประตูทางออกในสนามถูกปิดเอาไว้ และส่งผลให้มีการเรียกร้องให้บอร์ดของสมาคมฟุตบอล อินโดนีเซีย ลาออกแบบยกชุดเพื่อแสดงความรับผิดชอบ
อย่างไรก็ดี อินฟานติโน่ ยืนยันชัดเจนว่า อินโดนีเซีย จะไม่ถูกริบสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพ ฟุตบอลโลก ชุดยู 20 ในปีหน้าแม้จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวก็ตามโดยในทัวร์นาเมนต์นี้จะมี 24 ชาติร่วมชิงชัยในหกเมืองของประเทศช่วงซัมเมอร์หน้า