นับเป็นเรื่องที่น่าฮือฮาเลยทีเดียวกับการที่ ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้า อินเตอร์ ไมอามี่ ได้รางวัลนักฟุตบอลชายยอดเยี่ยมประจำปี 2023 ของ ฟีฟ่า จากงาน เดอะ เบสต์ ฟีฟ่า ฟุตบอล อวอร์ดส์ ไปครอง ทั้งที่เขามีคะแนนโดยรวม 48 แต้มเท่ากับ เออร์ลิง ฮาลันด์ ดาวยิง แมนชสเตอร์ ซิตี้ เป๊ะ
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ เมสซี่ ได้รางวัลในปีนี้ทั้งที่มีแต้มเท่ากับ ฮาลันด์ เป็นเพราะในการโหวตจากบรรดาคนที่เป็นกัปตันทีมชาตินั้น มีคนที่โหวตให้ เมสซี่ เป็นลำดับที่ 1 หรือเทียบเท่ากับการได้ 5 คะแนน มากกว่า และวันนี้เราจะมาย้อนดูตัวอย่างกันสักหน่อยว่าในการมอบรางวัลใหญ่ๆ อย่าง บัลลง ดอร์ หรือของ ฟีฟ่า นั้น เคยมีครั้งไหนบ้างที่แต้มออกมาสูสีกันสุดๆ
- เดอะ เบสต์ ฟีฟ่า ฟุตบอล อวอร์ดส์ 2021
ไม่กี่เดือนก่อนจะถึงพิธีมอบรางวัลดังกล่าว โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ อกหักครั้งใหญ่เมื่อเขาชวดรางวัล บัลลง ดอร์ 2021 จากการที่ตอนนั้น ลิโอเนล เมสซี่ ได้คะแนนไป 613 คะแนน ส่วนเขาได้ 580 แต้ม ทั้งที่ในฤดูกาล 2020-21 เขาทำลายสถิติดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลต่อ 1 ซีซั่นของ บุนเดสลีกา เยอรมัน ได้ จากการทำได้ถึง 41 ประตู รวมถึงทำประตูตลอดทั้งปี 2021 ได้ถึง 43 ลูก
อย่างไรก็ตาม พอถึงงานมอบรางวัลของ ฟีฟ่า ในช่วงเดือนมกราคม ปี 2022 เลวานดอฟสกี้ ก็เป็นฝ่ายสมหวังบ้าง เพราะเขาได้รางวัลไปครองหลังได้ 48 คะแนน โดยที่เฉือนชนะ เมสซี่ ไปแบบฉิวเฉียดหลังดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ได้ไป 44 แต้ม
- บัลลง ดอร์ 1956
นั่นคือปีแรกที่มีการมอบรางวัล บัลลง ดอร์ อย่างเป็นทางการ โดยคนแรกที่ได้สัมผัสกับรางวัลอันทรงเกียรติคือ เซอร์ สแตนลี่ย์ แม็ทธิวส์ ที่ตอนนั้นอยู่กับ แบล็คพูล จากการได้ไป 47 คะแนน แต่เขาก็ลุ้นเหนื่อยพอตัวเพราะเฉือนชนะ อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ ดาวเตะ เรอัล มาดริด ในตอนนั้นไปเพียง 3 แต้ม
- บัลลง ดอร์ 1977
ถ้าพูดถึงชื่อของ เควิน คีแกน, มิเชล พลาตินี่ และ โยฮัน ครัฟฟ์ แล้วนั้น แฟนบอลหลายคนในยุคนี้คงจะรู้จักกันดี และคงจะคิดว่าหนึ่งใน 3 คนนั้นคือคนที่ได้ บัลลง ดอร์ ในปี 1977 ไปครอง แต่ไม่ใช่เลย พวกเขาต้องพ่ายแพ้ให้กับชายที่ชื่อว่า อัลแลน ซิมอนเซ่น
ซิมอนเซ่น คืออดีตกองหน้าชาวเดนมาร์ก โดยในฤดูกาล 1976-77 กับช่วงหนึ่งของซีซั่น 1977-78 เขาทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำจนมีส่วนช่วยให้ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ได้แชมป์ บุนเดสลีกา ฤดูกาล 1976-77 ไปเชยชม ซึ่งนั่นก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สุดท้ายแล้วเขาได้รางวัล บัลลง ดอร์ ในปี 1977 โดยอันดับ 2 คือ คีแกน ที่ได้น้อยกว่าเขา 3 คะแนน
- บัลลง ดอร์ 1972
เยอรมัน ตะวันตก ได้แชมป์ ยูโร เป็นครั้งแรกกับการเล่นในปี 1972 หลังพวกเขาโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมตลอดทั้งทัวร์นาเมนท์ และในชุดนั้นก็มีหลายคนที่ถูกมองว่ามีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของทีมมากๆ อย่างเช่น ฟรานซ์ เบ็คเคนเบาเออร์, แกร์ด มุลเลอร์ และ กุนเทอร์ เน็ตเซอร์
สุดท้ายแล้วในปีนั้น 3 อันดับสุดท้ายของรางวัล บัลลง ดอร์ ก็เป็นแข้งจาก เยอรมัน ตะวันตก ทั้งหมด แต่คนเดียวที่สมหวังคือ "ไกเซอร์ ฟรานซ์" เพราะเขาได้รับคะแนนไป 81 แต้ม ขณะที่ มุลเลอร์ กับ เน็ตเซอร์ ได้ไป 79 คะแนนเท่ากัน
- บัลลง ดอร์ 1966
หลังจากรอคอยความสำเร็จมาอย่างยาวนาน อังกฤษ ก็ถึงฝั่งฝันในปี 1966 จากการที่พวกเขาได้แชมป์ ฟุตบอลโลก ในครั้งนั้นไปครอง แถมมันยังเป็นการเตะในบ้านของตัวเองอีกต่างหาก โดยหนึ่งในคีย์แมนของความสำเร็จครั้งนั้นก็คือ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน
ด้วยเหตุนี้ ดาวเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในตอนนั้นเลยได้รับคะแนนเสียงจากหลายคนจนทำให้เขาได้รางวัล บัลลง ดอร์ ปี 1966 จากการได้ไป 81 คะแนน แต่อันดับ 2 แพ้เขาไปแค่ 1 แต้มเท่านั้น ซึ่งนั่นก็คือ ยูเซบิโอ ที่เป็นดาวซัลโวสูงสุดของ ฟุตบอลโลก 1966 ด้วยผลงาน 9 ประตู
- บัลลง ดอร์ 1996
ตลอดทั้งปี 1996 โรนัลโด้ สร้างความฮือฮาให้กับโลกฟุตบอลจากการทำได้ถึง 50 ประตูตลอดทั้งปีนั้น นั่นเป็นผลงานที่ดูแล้วเหมาะสมทุกประการที่จะทำให้เขาได้จุมพิตกับรางวัลลูกฟุตบอลทองคำ...ถ้าไม่ใช่ว่าฟ้าส่ง มัทธีอัส ซามเมอร์ มาเป็นคู่แข่งของเขา
แม้ว่าจะเป็นกองหลัง หรืออย่างตำแหน่งที่สูงสุดคือการเล่นเป็นกองกลางตัวรับ แต่ว่าช่วงนั้น ซามเมอร์ ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมจนถือว่ามีความสำคัญพอๆ กับเหล่าแนวรุก หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ โดยเขาทำได้แบบนั้นไม่ว่าจะทั้งในระดับสโมสรกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ หรือกับทีมชาติเยอรมนี ซึ่งแชมป์ บุนเดสลีกา เยอรมันในสีเสื้อ ดอร์ทมุนด์ ซีซั่น 1995-96 และแชมป์ ยูโร 1996 กับทัพ "อินทรีเหล็ก" ถือเป็นตัวอย่างของเรื่องนั้น
นั่นทำให้สุดท้ายแล้ว ซามเมอร์ ได้รางวัล บัลลง ดอร์ 1996 จากการได้ไป 144 คะแนน ส่วน โรนัลโด้ ได้ไป 143 แต้ม
- เด็กเกร็ดบอล -