จอห์น โอบี มิเกล เปิดอก จากประสบการณ์ส่วนตัวนั้นตนมองว่า ลิโอเนล เมสซี่ เหนือกว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โดยบอกว่าสมัยที่เจอกับ เมสซี่ แทบจะทุกคนในทีม เชลซี ถึงขั้นต้องคอยไล่เตะ เมสซี่ เพื่อที่จะหยุดการเล่นของอีกฝ่าย
จอห์น โอบี มิเกล อดีตกองกลาวชาวไนจีเรีย กล่าวว่าส่วนตัวแล้วตนยกให้ ลิโอเนล เมสซี่ เก่งกว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นิดหน่อย โดยยกตัวอย่างด้วยว่าสมัยนั้นวิธีการที่ "สิงห์บลูส์" ใช้ในการรับมือทั้งคู่มันต่างกันเยอะ
ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาหนึ่งในหัวข้อที่แฟนบอลมักจะพูดถึงกันคือเรื่องที่ว่าระหว่าง เมสซี่ กับ โรนัลโด้ ใครเป็นคนที่เก่งกว่า โดย มิเกล ก็เคยดวลกับทั้ง 2 คนมาในระดับหนึ่ง หลังจากที่เขาเล่นให้ เชลซี อยู่หลายปี
มิเกล กล่าวระหว่างไปออกรายการของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ว่า "สมัยที่เราเจอกับ ยูไนเต็ด ในตอนที่ คริสเตียโน่ ยังอยู่ที่นั่นน่ะ เรารู้ดีว่า แอช (แอชลี่ย์ โคล) จะรับมือกับเขาได้ เขามีดีพอที่จะจัดการกับเขาได้ แต่ทุกครั้งที่เจอกับ บาร์เซโลน่า น่ะนะ ให้ตายเถอะ ตอนนั้นเราต้องซ้อมทั้งสัปดาห์เพื่อที่จะรับมือกับ เมสซี่ เลย"
"เราต้องให้นักเตะ 2-3 คนไปคอยประกบเขา คุณจะปล่อยให้กองหลังดวลตัวต่อตัวกับเขาไม่ได้เด็ดขาด มันเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าทำแบบนั้นคุณก็จะเสร็จแน่ๆ พวกเขามีแนวทางการเล่นที่เอื้อต่อเขา พวกเขาเคลื่อนบอลไปมาด้วยเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือส่งบอลไปถึงเขาให้ได้ ที่เขาทำมีเพียงการดูสถานการณ์เพื่อรอจังหวะเท่านั้น"
"ผมรู้ดีว่าเราชอบพูดกันว่าเขาเอาแต่เดินไปเดินมา แต่ที่จริงแล้วเขาทำไปเพื่อหาพื้นที่ว่าง เมื่อบอลไปถึงเขาแล้วนั้นนักเตะทุกคนของพวกเขา (บาร์เซโลน่า) ก็วิ่งกันอย่างเต็มที่ การดวลกับพวกเขามันทำได้ยากมากๆ แถมตัว เมสซี่ เองยังจับบอลได้ดีรวมถึงผ่านบอลได้เยี่ยมอีก"
"ผมรู้ดีว่ามันชอบเอาทั้งคู่มาเปรียบเทียบกัน ผมเองเคยดวลกับทั้งคู่มาแล้ว สำหรับผมแล้วผมคงจะเลือก เมสซี่ เมื่อวัดจากตอนที่เราเคยดวลกับพวกเขา แต่ผมไม่ได้จะบอกว่าทั้งคู่ห่างชั้นกันแบบไม่เห็นฝุ่นหรอกนะ เพราะว่าสิ่งที่ คริสเตียโน่ ทำได้มันก็ถือว่าดีเหมือนกัน แต่ผมมองว่ามันไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบกันเลย"
"ผมคิดว่า เมสซี่ เหมือนมาจากคนละโลก ผมคิดว่าเขาดีถึงขนาดนั้นนั่นแหละ แผนการเล่นของเราในตอนนั้นมีแค่การไล่เตะเขา เพราะเราไม่สามารถแย่งบอลจากเขาได้หรือเข้าใกล้เขาได้มากพอ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณคิดว่าเขาอยู่ตรงจุดหนึ่ง ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็จะหายไปทันที"
"คุณไปไล่ย้อนดูเกมที่เราเจอกับพวกเขาก็ได้ เจที (จอห์น เทอร์รี่) ต้องคอยเข้าสกัดใส่เขา แฟรงกี้ (แฟร้งค์ แลมพาร์ด) ก็ต้องทำแบบนั้นเหมือนกัน ผมเองก็ด้วย เราทุกคนพยายามจะเข้าสกัดเขาให้ได้ นั่นเป็นทางเดียวที่เราพอจะหยุดเขาได้"