ทายาท "มาราโดน่า" เฮลั่นชนะคดีทนายฮุบสิทธิ์เครื่องหมายการค้า

ดีเอโก้ มาราโดน่า  อดีตเพลย์เมกเกอร์ อาร์เจนติโนส จูเนียร์ส (1976-1981), โบคา จูเนียร์ส (1981-1982 และ 1995-1997), บาร์เซโลน่า (1982-1984), นาโปลี (1984-1991), เซบีย่า (1992-1993) และ นีเวลล์ส โอลด์ บอยส์ (1993-1994) ได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าของสหภาพยุโรป (อียู) สำหรับเสื้อผ้า, รองเท้า, อุตสาหกรรมบริการ (ธุรกิจโรงแรม, ภัตตาคาร และท่องเที่ยว) และบริการไอที ที่ใช้ชื่อตัวเองเมื่อปี 2008

ภายหลังการเสียชีวิตของ มาราโดน่า เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2020 ด้วยวัย 60 ปี ซัตวิก้า ยื่นคำร้องไปยังสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของสหภาพยุโรป (อียูไอพีโอ) เพื่อโอนกรรมสิทธิ์เครื่องหมายการค้าของ มาราโดน่า มายังบริษัทโดยอ้างอิงเอกสารเมื่อปี 2015 ที่ออกโดย มาราโดน่า ซึ่งอนุญาตให้ ซัตวิก้า ใช้เครื่องหมายการค้าของเขาในเชิงพาณิชย์ได้ตามอัธยาศัย ตลอดจนข้อตกลงอื่นๆ ที่ไม่ระบุวันที่อีกฉบับหนึ่ง

อย่างไรก็ดี ครอบครัวของ "เสือเตี้ย" ได้ยื่นคำร้องไปยัง อียูไอพีโอ เพื่อขอให้เพิกถอนการโอนกรรมสิทธิ์ดังกล่าวในสารบบขององค์กร ก่อนที่ อียูไอพีโอ จะชี้ขาดเมื่อปีที่แล้วว่า ซัตวิก้า ไม่ได้ยื่นเอกสารที่มีการยืนยันการโอนกรรมสิทธิ์เครื่องหมายการค้ามาให้แต่อย่างใด แต่ ซัตวิก้า ไม่ยอมง่ายๆ ยื่นฟ้องร้องต่อศาลทั่วไป (General Court) ในประเทศลักเซมเบิร์ก ซึ่งมีศักดิ์สูงสุดเป็นอันดับสองของยุโรป ในเวลาต่อมา  

คณะผู้พิพากษากล่าวว่า "เอกสารที่จัดทำโดยบริษัทแห่งนี้ไม่ได้เป็นการรับรองอย่างเป็นทางการถึงการโอนสิทธิ์เครื่องหมายการค้าสำหรับการนำมาใช้เพื่อประโยชน์ของตนภายใต้สัญญาที่ลงนามระหว่างทั้งสองฝ่าย (ซัตวิก้า กับ มาราโดน่า)" 

"ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจาก มาราโดน่า เสียชีวิตก่อนการยื่นคำร้องขอจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์ ซัตวิก้า จึงไม่สามารถแก้ไขความไม่ถูกต้องใดๆ ที่ตรวจพบได้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำเอกสารใดๆ เพิ่มเติมเข้ามาอีกก็ตาม"

ทั้งนี้ ซัตวิก้า ที่ก่อตั้งโดย มาติอัส มอร์ล่า อดีตทนายความของ มาราโดน่า เมื่อเดือนมกราคม 2021 เพื่อโอนกรรมสิทธิ์เครื่องหมายการค้าของดาวเตะแชมป์ฟุตบอลโลก 1986 มาเป็นของตนเอง ยังสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรป ซึ่งถือเป็นศาลสูงสุดของยุโรปต่อไปได้อีก

การลาโลกของ มาราโดน่า ก่อให้เกิดการต่อสู้ทางด้านกฎหมายตามมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ทีมพยาบาลโดนดำเนินคดีโทษฐานดูแลเขาไม่ดีพอ ในขณะที่ลูกๆ ของเขา 5 จาก 8 คน กำลังฟ้องร้องกันเป็นพัลวันเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในมรดก

ในช่วงที่มีข่าวคราวการเสียชีวิตของเขา หลากหลายแหล่งข้อมูลประเมินว่า มาราโดน่า มีทรัพย์สินทั้งหมดระหว่าง 75-100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2,625-3,500 ล้านบาท) เลยทีเดียว