ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าทีม อินเตอร์ ไมอามี่ จะสร้างสถิติใหม่ในฐานะพ่อค้าแข้งคนแรกของโลกที่ประสบความสำเร็จหากเขาสามารถคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ในปีนี้มาครองได้
เมสซี่ กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในลีกแยงกี้จากการพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ ลีกส์ คัพ อีกทั้งสอยตาข่ายไปแล้ว 11 เม็ด และถูกยกให้เป็นตัวเต็งที่จะคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ปี 2023 เป็นสมัยที่แปดของตัวเองหลังจากปีก่อนเขาไม่มีชื่อติดโผชิงรางวัล 30 คนสุดท้ายช่วงค้าแข้งกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง โดยที่ คาริม เบนเซม่า คว้าเกียรติยศชิ้นดังกล่าวไปเชยชม
สำหรับรางวัล บัลลงดอร์ ปีนี้ซึ่งจะมีการจัดงานในกรุงปารีสวันที่ 30 ต.ค. นิตยสาร ฟร้องซ์ ฟุตบอล จะมีการเผยรายชื่อนักเตะที่มีโอกาสได้คว้ารางวัลออกมาในวันพุธที่ 6 ก.ค. โดย เมสซี่ รั้งตำแหน่งเต็งจ๋าในฐานะที่พาทีมชาติ อาร์เจนติน่า คว้าตำแหน่ง แชมป์โลก ปี 2022 ได้สำเร็จ ขณะที่ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งคนสำคัญของดาวยิงเลือดฟ้าขาวเนื่องจากหัวหอกทีมชาติ นอรเวย์ ระเบิดฟอร์มตะบัน 52 ประตูในซีซั่นแรกกับ แมนฯ ซิตี้ พาทีมคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่
ทั้งนี้ รางวัล บัลลงดอร์ ปี 2023 จะพิจารณาผลงานของนักเตะระหว่างวันที่ 1 ส.ค.2022-31 ก.ค.2023 และแม้ปัจจุบัน เมสซี่ จะค้าแข้งอยู่นอกยุโรป แต่เขามีสิทธิ์ได้ร่วมชิงรางวัลด้วยเนื่องจากเป็นช่วงคาบเกี่ยวกับตอนที่เขายังเป็นขุนพลทีม เปแอสเช
ก่อนหน้านี้ รางวัล บัลลงดอร์ สงวนเอาไว้ให้กับนักเตะชาวยุโรปเท่านั้น กระทั่งปี 1995 มีการเปลี่ยนกฏมอบให้นักเตะจากทวีปอื่นๆที่ค้าแข้งในลีกยุโรปได้จึงทำให้สตาร์ดังอย่าง เปเล่ และ ดีเอโก้ มาราโดน่า ไม่เคยมีสิทธิ์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโดยรายหลังได้รับรางวัล "โกลเด้น" ประกาศเกียรติคุณแทนเมื่อ 28 ปีก่อน
ด้วยเหตุนี้ หาก เมสซี่ ได้รางวัล บัลลงดอร์ สมัยนี้ เขาจะสร้างสถิติใหม่ในฐานะเป็นพ่อค้าแข้งคนแรกของโลกที่เล่นอยู่นอกลีกยุโรป และคว้ารางวัลมาครองได้สำเร็จซึ่งไม่เคยมีนักเตะคนไหนทำได้มาก่อนในประวัติศาสตร์โดยก่อนหน้านี้มีดาวดัง 46 รายที่เคยได้ครองโทรฟี่ชิ้นนี้