เกร็ดการย้ายทีมค่าตัวกระฉูดทุบสถิติโลก อดีตจนถึงปัจจุบัน!

เกร็ดการย้ายทีมค่าตัวกระฉูดทุบสถิติโลก อดีตจนถึงปัจจุบัน!
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคปัจจุบันการย้ายทีมถือเป็นหนึ่งในประเด็นที่ได้รับความสนใจมากที่สุดของวงการลูกหนัง ยิ่งเป็นการย้ายทีมด้วยค่าตัวสูงๆ มันก็ถือเป็นสิ่งที่คนให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ และการย้ายทีมด้วย "ค่าตัวสูงเป็นสถิติโลก" ก็มักจะเป็นข่าวที่มีให้เห็นอยู่ในบางครั้ง

สำหรับปัจจุบัน เจ้าของสถิติการย้ายทีมด้วยค่าตัวสูงที่สุดของโลกคือ เนย์มาร์ ที่หอบข้าวของจาก บาร์เซโลน่า ไปอยู่กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยค่าตัว 198 ล้านปอนด์เมื่อตอนปี 2017 และวันนี้เราจะมาพูดถึงเกร็ดบางอย่างที่เกี่ยวกับการย้ายทีมที่เป็นสถิติโลกสักหน่อย

- อังกฤษ แชมป์ทุกด้าน

ด้วยความที่ อังกฤษ เป็นชาติแรกๆ ที่มีการเล่นฟุตบอลอาชีพอย่างจริงจัง ทำให้มันเป็นเรื่องปกติที่การย้ายทีมด้วยค่าตัวสูงเป็นสถิติโลกนั้นจะมีนักเตะสัญชาติอังกฤษเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยมากที่สุด ที่จำนวนถึง 16 คน ขณะที่อันดับสองคือแข้งชาวอิตาเลียนซึ่งอยูที่ 8 ราย

ทั้งนี้ สโมสรจากอังกฤษก็เป็นทีมที่ซื้อนักเตะด้วยค่าตัวสูงเป็นสถิติโลกมากที่สุดเช่นกัน ที่จำนวนถึง 19 ครั้ง เฉือนชนะ อิตาลี ไป 1 หน และทีมในเมืองผู้ดีก็เป็นทีมที่ขายนักเตะด้วยค่าตัวสูงเป็นสถิติโลกเยอะที่สุดเช่นกันที่จำนวน 20 ราย มากกว่า อิตาลี ซึ่งอยู่ที่ 14 ครั้ง

- คนแรกนอกสหราชอาณาจักร

ในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอล นักเตะที่ย้ายทีมด้วยค่าตัวสูงเป็นสถิติโลกคือ วิลลี่ โกรฟส์ ดาวเตะชาวสกอตต์ที่ย้ายจาก เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ไปอยู่ แอสตัน วิลล่า ด้วยค่าตัว 100 ปอนด์เมื่อปี 1893 (เทียบเท่ากับ 16,440 ปอนด์ในปัจจุบัน)

อย่างไรก็ตาม ถ้ามองถึงการย้ายทีมนอกสหราชอาณาจักรแล้วล่ะก็ นักเตะคนแรกที่ย้ายทีมด้วยค่าตัวสูงเป็นสถิติโลกคือ เบร์นาเบ้ เฟร์เรยร่า อดีตกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ที่เคยย้ายจาก ติเกร ไปอยู่กับ ริเวอร์ เพลท เมื่อปี 1932 ด้วยค่าตัว 23,000 ปอนด์ (เทียบเท่ากับ 2.05 ล้านปอนด์ในปัจจุบัน) ซึ่งมันก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าของ ริเวอร์ เพลท เพราะเขาทำประตูได้เยอะพอตัว พร้อมพาทีมได้แชมป์หลายรายการ อย่างเช่นแชมป์ลีก 4 สมัย เป็นต้น

- เบิ้ล

สำหรับนักเตะส่วนใหญ่นั้น แค่การได้ย้ายทีมด้วยค่าตัวสูงเป็นสถิติโลกสัก 1 ครั้งมันก็ถือว่าเกิดขึ้นได้ยากแล้ว แต่ในประวัติศาสตร์มีถึง 4 คนด้วยกันที่ได้ย้ายทีมด้วยค่าตัวสูงเป็นประวัติศาสตร์ของโลกลูกหนังอย่างต่ำ 2 หน

คนแรกคือ อัล์ฟ คอมม่อน อดีตดาวเตะชาวอังกฤษที่ย้ายจาก เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ไปซบ ซันเดอร์แลนด์ เมื่อปี 1904 ด้วยค่าตัว 520 ปอนด์ (เทียบเท่ากับ 80,893 ปอนด์ในปัจจุบัน) ก่อนที่เขาจะบอกลา ซันเดอร์แลนด์ ไปอยู่กับ มิดเดิ้ลสโบรห์ ด้วยค่าตัว 1,000 ปอนด์ในปีเดียวกัน (เทียบเท่ากับ 155,564 ปอนด์)

คนที่สองได้แก่ เดวิด แจ็ค โดยตอนปี 1920 เขาบอกลา พลีมัธ อาร์ไกล์ เพื่อไปเล่นให้ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ด้วยค่าตัว 3,500 ปอนด์ (เทียบเท่ากับ 200,143 ปอนด์ในปัจจุบัน) และพอปี 1928 อาร์เซน่อล ก็ดึงเขาไปจาก โบลตัน วันเดอเรอร์ส ด้วยเงิน 10,890 ปอนด์ (เทียบเท่ากับ 875,284 ปอนด์ในปัจจุบัน)

สำหรับคนที่สาม เป็นคนที่หลายคนรู้จักดี นั่นคือ ดีเอโก้ มาราโดน่า เพราะเขาเคยย้ายจาก โบคา จูเนียร์ส ไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า เมื่อปี 1982 ด้วยค่าตัว 3 ล้านปอนด์ (เทียบเท่ากับ 13.54 ล้านปอนด์ในปัจจุบัน) ก่อนที่ราว 2 ปีต่อมา บาร์เซโลน่า จะขายเขาให้ นาโปลี ด้วยเงิน 5 ล้านปอนด์ (เทียบเท่ากับ 20.56 ล้านปอนด์ในปัจจุบัน)

คนที่สี่ ได้แก่ โรนัลโด้ อดีตยอดดาวยิงชาวบราซิเลียน เพราะเขาเคยย้ายจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า เมื่อปี 1996 ด้วยเงิน 13.2 ล้านปอนด์ (เทียบเท่ากับ 31.70 ล้านปอนด์ในปัจจุบัน) และในปีต่อมาเขาก็ย้ายจาก บาร์เซโลน่า ไปสวมเสื้อ อินเตอร์ มิลาน ด้วยค่าตัว 19.5 ล้านปอนด์ (เทียบเท่ากับ 45.40 ล้านปอนด์ในปัจจุบัน)

- ปีเงินสะพัด

อย่างที่รู้กันดีว่าปี 2017 คือครั้งล่าสุดที่เกิดการย้ายทีมในระดับที่มีค่าตัวสูงเป็นสถิติโลก นั่นหมายความว่ามันไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดกันได้ง่ายๆ แต่ปี 1992 ถือเป็นข้อยกเว้นที่ชัดเจนที่สุด เพราะมันเกิดการย้ายทีมแบบทำลายสถิติโลกถึง 3 ครั้งด้วยกัน

หนแรกเริ่มจากการที่ เอซี มิลาน ควักเงิน 10 ล้านปอนด์ (เทียบเท่ากับ 26.47 ล้านปอนด์ในปัจจุบัน) เพื่อเอา ฌอง-ปิแอร์ ปาแป็ง มาจาก โอลิมปิก มาร์กเซย แต่ทาง ยูเวนตุส ก็ตัดสินใจเอา จานลูก้า วิอัลลี่ มาจาก ซามพ์โดเรีย ด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์ (เทียบเท่ากับ 31.77 ล้านปอนด์ในปัจจุบัน) ก่อนที่ในเวลาต่อมา มิลาน จะดึง จานลุยจิ เลนตินี่ มาจาก โตริโน่ ด้วยเม็ดเงิน 13 ล้านปอนด์ (เทียบเท่ากับ 34.42 ล้านปอนด์ในปัจจุบัน)


- เด็กเกร็ดบอล -


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : เด็กเกร็ดบอล
เด็กเกร็ดบอล
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport