คล้าย เอ็นเอฟแอล! ฟีฟ่า หวังทดสอบระบบชาลเลนจ์คำตัดสินมากขึ้น

คล้าย เอ็นเอฟแอล! ฟีฟ่า หวังทดสอบระบบชาลเลนจ์คำตัดสินมากขึ้น
เลกิ๊ป สื่อของฝรั่งเศส ระบุ ฟีฟ่า คิดที่จะขยายการทดสอบระบบชาลเลนจ์คำตัดสินแบบ เอ็นเอฟแอล หลังที่ผ่านมาทดลองในเกมรุ่นเยาวชนของผู้หญิงไปบ้าง

สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) กำลังพิจารณาที่จะใช้ระบบ ฟุตบอล วิดีโอ ซัพพอร์ต (เอฟวีเอส) ในเกมฟุตบอลระดับอื่นๆ โดยระบบที่ว่าจะอนุญาตให้กุนซือแต่ละทีมสามารถขอให้กรรมการตรวจการตัดสินระหว่างเกมได้อย่างน้อย 2 ครั้งต่อนัด ตามรายงานของ เลกิ๊ป สื่อชื่อดังของฝรั่งเศส

แม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาจะมีการใช้ระบบ วิดีโอ แอสซิสแตนต์ เรฟเฟอรี (วีเออาร์) อย่างแพร่หลายมากขึ้น แต่มันก็ยังมีหลายจังหวะที่ถกเถียงกันว่าทีมงานกรรมการตัดสินได้ถูกต้องจริงๆ หรือไม่ จนทำให้เกิดการแสดงความไม่พอใจอย่างมาก

ทั้งนี้ ระบบ เอฟวีเอส จะคล้ายกับในศึกอเมริกันฟุตบอล (เอ็นเอฟแอล) สหรัฐอเมริกา ที่เฮดโค้ชของแต่ละทีมสามารถ "ชาลเลนจ์" คำตัดสินด้วยการโยนธงในจังหวะที่ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของกรรมการเพื่อให้กรรมการไปเช็กภาพช้าที่ข้างสนาม 2 ครั้งต่อเกม ซึ่งหากชาลเลนจ์สำเร็จก็จะมีการเปลี่ยนคำตัดสิน แต่ถ้าไม่สำเร็จทีมนั้นๆ ก็จะโดนริบเวลานอกไป 1 ครั้ง จากจำนวนเวลานอกทั้งหมด 3 ครั้ง นอกจากนี้ หากชาลเลนจ์สำเร็จ 1 ครั้ง ทีมนั้นๆ ก็จะได้รับสิทธิ์ชาลเลนจ์เพิ่มอีก 1 หนด้วย

ที่จริง ฟีฟ่า ลองใช้ระบบ เอฟวีเอส มาก่อนแล้วในศึกฟุตบอลโลกหญิงรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีกับ 20 ปี และพวกเขาก็หวังที่จะทดสอบระบบนี้เพิ่มอีก โดยตอนนี้ ฟีฟ่า ต้องส่งรายงานการทดลองการใช้ให้คณะกรรมการสมาคมฟุตบอลนานาชาติ (ไอเอฟเอบี) ได้รับทราบ เพื่อที่จะได้ตัดสินว่าจะมีการทดลองใช้ระบบ เอฟวีเอส ต่อไปดีหรือไม่

สำหรับ ไอเอฟเอบี ถือเป็นหน่วยงานที่ตัดสินเรื่องการใช้กฎและแนวทางต่างๆ ในวงการฟุตบอล อย่างเช่นการเคยให้มีการเปลี่ยนตัวเพิ่มจากเกมละ 3 คน เป็นเกมละ 5 คน เป็นต้น ซึ่งว่ากันว่าหลายลีกสนใจที่จะช่วยทดลองระบบ เอฟวีเอส ด้วย

อย่างไรก็ตาม ปิแอร์ลุยจิ คอลลิน่า หัวหน้าฝ่ายกรรมการของ ฟีฟ่า เคยบอกเองว่าภาพช้าจากระบบ เอฟวีเอส จะต่างจากของ วีเออาร์ ด้วยปัจจัยที่ว่า เอฟวีเอส จะมีการใช้จำนวนกล้องน้อยกว่า


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport