คาร์สบอลคาบ้าน! อังกฤษ แพ้ กรีซ หมดฟอร์ม ทดลอง3เบอร์10ล้มเหลว

แพ้ในบ้านก็ว่าแย่แล้ว เพราะอังกฤษยังไม่เคยแพ้กรีสบนแผ่นดินตัวเอง

แต่แพ้แบบ "หมอฟอร์ม" นี่แหละ....ที่โดนสื่อรุมแทะอย่างสนุกสนาน

ก่อนแข่งมีการยืนไว้อาลัยให้ จอร์ช บัลดอค อดีตนักเตะเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด

พึ่งเสียชีวิตที่กรีซเมื่อสองวันก่อน ซึ่งบังเอิญ บัลดอค เล่นกับพานาธิไนกอส และติดทีมชาติกรีซด้วย แม้เขาเกิดที่อังกฤษ แต่เชื้อสายทางฝั่งย่ายายเป็นกรีซ RIP

เกิดอะไรขึ้นบ้าง...ตามผมมา

1 คาร์สบอล คิดเยอะ

จะด้วยการขาด แฮร์รี เคน, คอบบี้ เมนู สองตัวหลัก ทำให้ ลี คาร์สลีย์ รักษาการผ.จ.ก. ออกแบบแทกติกมาในแบบมี "หน้าปลอม" หรือจะใช้คำว่า 3 เบอร์ 10 ก็ได้

เป็นบอลที่ไม่มีหน้าเป้า ทั้งที่ โอลลี วัตกิ้นส์ และ ดอม โซลันกี้ เป้าธรรมชาติพร้อมลงเล่นก็ตาม

รูปแบบเลยมาให้คนสับสนว่ายังไงดี 4-2-2-2 หรือ 4-1-4-1

ถ้าดู shape การยืนน่าจะเป็นแบบ 4-1-4-1 ที่สุด

พิคฟอร์ด เฝ้าเสา ส่วนแบ๊กโฟร์ จอห์น สโตน กัปตันทีม คู่ เลวี โคลวิลล์ แบ๊กขวา เทรนต์ เหมือนเดิม แบ๊กซ้ายดูท่าว่าติดใจ ริโก ลูอิส 

เดแคลน ไรซ์ ยืน1 หน้าแผงหลัง ขณะที่แผงมิดฟิลด์นั้นเป็นไดมอนด์ ด้านขวา บูกาโย่ ซาก้า ด้านซ้าย แอนโธนี่ กอร์ดอน โดยมี โคล พาลเมอร์ ยืนต่ำกว่า ฟิล โฟเด้น ที่เหมือนตัวสนับสนุน จูด เบลลิงแฮม ในฐานะ หน้าปลอม

นี่คือเกมแรกที่ จูด กลับมารับใช้ทีมชาติในยุค คาร์สบอล

และได้ร่วมเล่นพร้อมกันกับ โฟเด้น และ พาลเมอร์ สองตัวรุกเกรดเอของสิงโต

ทรงออกมาประมาณนี้ 

ส่วนกรีซ มี มาฟโรปานอส จากเวสต์แฮม, ซิโอปิส จาก คาร์ดิฟฟ์ และอดีตดาวยิงดัชท์ลีกของ อัล์คมาร์ วานเจลิส ฟาลิดิส ที่ย้ายไปเบนฟิก้าในซีซั่นนี้

2 กรีซตามแทกติก, พิคฟอร์ด ทะเล่อทะล่า

แน่นอน...โค้ชของกรีซ อีวาน โยวาโนวิช พึ่งคุมทีมพร้อมๆกับ คารสลีย์ แต่เขาก็รู้จักบอลกรีซดี ทำงานทั้งตอนเป็นนักเตะและโค้ช ก็มาตามสไตล์ทีมเยือนและชื่อชั้นเป็นรองคือเน้นเกมรับรอสวน มีบ้างบางจังหวะที่ขึ้นเพรสแดนบน แต่นับครั้งได้

เขาก็เล่นแบบนี้ในระบบ 4-5-1 อังกฤษเสียบอลเมื่อไหร่ โจมตีเร็วทันที 

แม้ว่าช่วงแรกจะมีเกือบโดน เบลลิงแฮม ปั่นเสียบมุม แต่พวกเขาก็น่าได้ประตูเช่นกัน 

น.9 จังหวะ พิคฟอร์ด ออกมาเล่นบอลนอกเขตโทษ แล้วทำบอลลั่น โดน บากาเซตัส กัปตันทีมตัวรุกจากพานาธิไนกอส ตัดบอลได้แล้วยิงไกลสวนทันที บอลนะเข้าเห็นๆ แต่ โคลวิลล์ วิ่งสปัดตามไปสกัดก่อนพ้นข้ามเส้นหวุดหวิด.....

ตลอดครึ่งแรกอังกฤษไม่ได้มีพิษสงอะไรเลย ดูมั่วๆชอบกล โดยเฉพาะการประสานงานเกมรุกระหว่าง เบลลิงแฮม, โฟเด้น และ พาลเมอร์ ที่เหมือนกันกับว่า 3 คนนี้ เล่นร่วมกันยาก 

เป็นไปได้ ควรจะต้องมี 1หรือ 2 คนมากกว่าแทนที่จะเสียดายให้ลงครบ จนไม่มีโคต้ากองหน้าตัวเป้าเหลือให้ 

ทีมเยือนเล่นได้ตามแทกติก สวนมาแต่ละดอก มีลุ้นดูดีกว่าเจ้าบ้าน

3 พาฟลิดิส โชว์

เริ่มครึ่งหลังได้ 3-4 นาที พาฟลิดิส ได้บอลในเขตโทษ ท่ามกลางวงล้อมนักเตะอังกฤษ ก่อนสับไกยิงเข้าเฉย!!!  

ทั้งเทรนต์, พาลเมอร์, สโตน,โคลวิลล์, ไรซ์, 5 คนนน ปล่อยให้ พาฟลิดิส สับไกยิงระยะ 10 หลา.... กรีซนำ 1-0  จังหวะพอดี ซากา เจ็บ เลยต้องเปลี่ยนตัวเอา นานี มาดูเอเก้ ลงมาแทน พอไม่ได้ดีขึ้น ส่ง วัตกิ้นส์ ลงมาแทน กอร์ดอน น.60 ก่อนที่จะทิ้งไพ่หน้าคู่ ส่ง โซลันกี้ ลงมาแทน โฟเด้น เท่ากับสลับตำแหน่งกันวุ่นวายในสนามกว่า 30 ชั่วโมง ก่อนตีเสมอท้ายเกมโดย เบลลิงแฮม วิ่งเข้ามายิงนอกเขต จากการประสานงานด้านขวา ระหว่าง เทรนต์ แทงบอลให้ วัตกิ้นส์ ถึงเส้นหลังแล้วตวัด มาแถวจุดโทษ เหมือนบอลโดนเท้า โซลันกี้ ก่อนเลยออกมานอกเขตแล้ว เบลลิงแฮม ยิงเข้าไป 1-1

เกมน่าจะจบเสมอนะ....

แต่แล้วความสับสนในการป้องกัน ทั้ง โคลวิลล์ ที่พลาดสกัดบอลไม่ขาด แถมไปชนกับ ลูอิส ในเขต บอลไหลเข้าทาง พาฟลิดิส ตวัดยิงง่ายๆเลย ตรงนั้นนักเตะอังกฤษ 4-5 คน....เสื้อสีขาว

ใช้คำว่าอย่างมั่วได้เลย... อังกฤษคาบ้าน 1-2 ครั้งแรกในยุค ลี คาร์สลีย์ 

ตารางคะแนนเนชั่นส์ ลีกใน3 เกมแรก

กรีซ ชนะรวด 3 นัด อังกฤษ ชนะ 2 

สิ่งที่สำคัญคือ....ตำแหน่ง "รักษาการ" โค้ชของ คาร์สลีย์ ที่ 2 เกมแรกได้รับคำชมว่า "คาร์สบอล" มิติใหม่เกมรุก คือเดินหน้ามากกว่าสมัย แกเรธ เซาธ์เกต แต่มาเสียท่าแค่เกมที่สอง

ถามว่า คิดมากมั้ยเกมนี้

1 กรีซ มาเล่น บอลสวนกลับอยู่แล้ว ดังนั้นลองใช้ 3 ตัวรุกลงพร้อมกันเพื่อเจาะเกมรับที่หนาแน่นของกรีซ

2 การไม่มีหน้าเป้าระดับ แฮร์รี เคน ที่ไม่ฟิต ก็ลองใช้รูปแบบนี้ดูบ้าง ที่สำคัญ จูด เบลลิงแฮม เล่นทีมชาติครั้งแรกยุค คาร์สลีย์ ซึ่งก็ให้เล่นยาวๆไม่เปลี่ยนเลยทั้ง จูด และ พาลเมอร์ 

ผลลัพท์ออกมาไม่สวยแบบนี้นัดหน้าเจอฟินแลนด์ คาร์สบอล จะวางแผนอย่างไร

ถ้าดูการจัดตัวถือว่ากล้าและบ้าบิ่นมาก ถ้าผลลัพท์ออกมาดี คาร์สบอล กระหึ่มเกาะแน่นอน แต่เมื่อออกมาแบบนี้ ต้องรับเสียงวิจารณ์ไป เพราะเล่นร่วมกันไม่ได้เลยเอาจริงๆ ทั้งสามตัวรุก

ข้อจำกัดคือสามคนนี้ไม่เคยเล่นด้วยกันทั้งในสโมสรและทีมชาติ เวลาซ้อมแทกติก คงไม่พอ นัดหน้าเจอฟินแลนด์ ไม่น่าจะจัดตัวแบบนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่แย่กว่าการที่มีตัวรุกสามคนแล้วร่วมกันไม่ได้คือ....

เกมรับทั้งส่วนตัวและส่วนรวม แบ๊กโฟร์ ที่เหนียวแน่นสองนัด เกมนี้ พลาดง่ายๆเฉยเลย ซึ่งทรงนี้ในยุคเซาธ์เกต ไม่มีแน่ๆที่กองหลังจะมาเสียประตูง่ายๆให้คู่แข่ง

ดูเหมือนว่า ช่วงเวลาฮันนีมูนของ คาร์สบอล หมดลงอย่างรวดเร็ว

ตำแหน่ง "รักษาการ" ถูกตั้งคำถาม หลังจากบันทึกชื่อว่าเป็นโค้ชอังกฤษคนแรกที่ทำทีมแพ้กรีซในบ้านตัวเอง....เรียบร้อย

ผลการทดลอง 3 เบอร์ 10 ล้มเหลว....สิ้นเชิง

JACKIE