หลังสร้างผลงานได้อย่างน่าประทับใจในสองเกมแรกกับสถานะกุนซือชั่วคราว ลี คาร์สลีย์ กุนซือทีมชาติ อังกฤษ ก็เสียชื่อคาบ้านจนได้ในเกม เนชั่นส์ ลีก นัดแพ้ให้กับ กรีซ คารัง 2-1 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 ต.ค.ซึ่งนอกจากเจ้าบ้านจะเล่นกันได้ไม่ดีพอแล้ว ต้องยอมรับว่าทีมเยือนมีฟอร์มที่น่าทึ่งถึงขนาดน่าจะกำชัยได้ด้วยสกอร์ที่ขาดลอยกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็สามารถมอบผลงานชิ้นโบแดงนี้อุทิศให้กับ จอร์จ บัลด็อก กองหลังทีมชาติ กรีซ ที่เพิ่งเสียชีวิตหมาดๆได้อย่างน่ายกย่อง
1. สิงโตวางหมากพิสดารไม่มีกองหน้า
ลี คาร์สลีย์ กุนซือชั่วคราวของทีมชาติ อังกฤษ จัดโผ 11 คนแรกโดยไม่ใส่กองหน้าอาชีพลงสนาม
แม้ แฮร์รี่ เคน กัปตันทีมจะบาดเจ็บเล็กน้อย และไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ทีม สิงโตคำราม จับทั้ง โดมินิค โซลันกี้ และ โอลลี่ วัตกิ้นส์ นั่งเป็นตัวสำรองโดยเลือกใช้ จู๊ด เบลลิ่งแฮม สวมบทกองหน้าตัวหลอก
ต่อประเด็นนี้ คาร์สลีย์ เผยว่าต้องการทำในสิ่งที่แตกต่างเนื่องจากเป็นโอกาสที่ดีหลังได้ลองซ้อมดูแล้ว
รวมแล้วเจ้าบ้านเปลี่ยนโผตัวจริงสี่รายจากเกมชนะ ฟินแลนด์ 2-0 โดยนอกจาก เคน และ แจ็ค กรีลิช ที่เจ็บก่อนเกมจนพลาดลงสนามแล้ว เอซรี่ คอนซ่า ก็เดี้ยง ขณะที่ อังเคล โกเมซ หลุดจากทีมเช่นกันโดยมี ฟิล โฟเด้น , เบลลิ่งแฮม , ลีวาย โคลวิลล์ และ โคล พาลเมอร์ ได้ออกสตาร์ต
2. อาคันตุกะเซอร์ไพรส์ไร้แข้งดังหงส์แดง
กรีซ ซึ่งชนะสองเกมรวดในรายการนี้เช่นเดียวกับทีมเจ้าบ้านทำเซอร์ไพรส์ไม่มี คอสตาส ซิมิคาส กองหลัง ลิเวอร์พูล ลงเล่นเกมนี้
อีวาน โยวาโนวิช นายใหญ่ทีมเยือนไม่ใส่ชื่อสตาร์ หงส์แดง ในโผตัวสำรองเช่นกัน แต่ คอนสแตนตินอส มาฟโรปานอส ปราการหลัง เวสต์แฮม อีกสโมสรใน พรีเมียร์ลีก ได้ลงเล่นเป็นตัวจริง
3. ถึงเวลาดร็อป พิคฟอร์ด?
มีข้อถกเถียงมานานแล้วว่าทีมชาติ อังกฤษ ไม่มีนายทวารมือหนึ่งที่ดีไปกว่า จอร์แดน พิคฟอร์ด อีกแล้วหรือ?
หลังก่อความผิดพลาดจนทีมเกือบเสียประตูให้ กรีซ ตั้งแต่ต้นเกมโดยที่ได้ โคลวิลล์ วิ่งกลับไปเตะสกัดบนเส้นประตูแบบเฉียดฉิวน่าจะทำให้ คาร์สลีย์ ทดลองใช้งานนายทวารคนอื่นสักทีในเกมหน้ากับ ฟินแลนด์ ในวันอาทิตย์นี้เหมือนที่เขาทดลองเล่นโดยไม่มีหน้าเป้า
จะว่าไป พิคฟอร์ด อาจกำลังมั่นใจในฝีมือของตัวเองเต็มเปี่ยมเนื่องจากเขาเพิ่งเซฟลูกโทษจาก แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ได้ในเกมที่ เอฟเวอร์ตัน เสมอกับ นิวคาสเซิ่ล 0-0 จึงทำให้เขาออกมาเล่นบอลนอกเขตโทษ และจ่ายพลาดจนเกือบเสียประตู
ฉะนั้นแล้วจึงไม่แน่ว่าเกมหน้า สิงโตคำราม อาจลองเปลี่ยนนายทวารดูบ้างไม่ว่าจะเป็น นิค โป๊ป หรือว่า ดีน เฮนเดอร์สัน ก็ตามที
4. คาร์สลีย์ เสียรังวัด
ในที่สุด คาร์สลีย์ ก็ตกม้าตายคารังจนได้เมื่อวางหมากพิสดารพันลึกไม่ส่งกองหน้าอาชีพลงเล่นจนส่งผลให้ทีมมีฟอร์มที่เลวร้าย และแพ้ กรีซ คารังในท้ายที่สุด
ปฏิเสธไม่ได้ว่าสองเกมแรกที่เขาพาทีมกำชัยในรายการนี้หลังเข้ามาคุมทีมชั่วคราวแทน แกเร็ธ เซาธ์เกต คาร์สลีย์ ได้รับคำชมอย่างล้นหลามโดยเฉพาะประเด็นคุมทีมเล่นเกมรุกกล้าได้กล้าเสียกว่านายใหญ่คนก่อนที่เน้นเซฟเป็นหลักจนทำให้รูปเกมน่าเบื่อแม้เขาเกือบพาทีมคว้าแชมป์ ยูโร ได้ทั้งสองหนก็ตาม
จากผลงานสองเกมแรกของผู้จัดการทีมชาติ อังกฤษ ชุดยู 21 ส่งผลให้สื่อมองว่าเขามีโอกาสได้รับการแต่งตั้งอย่างถาวรจาก เอฟเอ ขณะที่ร้านรับพนันยกให้เขาเป็นเต็งหนึ่งเช่นกันเนื่องจากถึงขณะนี้แทบไม่มีความเคลื่อนไหวเลยว่า เอฟเอ ทาบทามกุนซือคนไหนอย่างจริงจัง
กระนั้นก็ดี ความพ่ายแพ้ กรีซ หนแรก แถมเป็นการปราชัยคารังชนิดที่รูปเกมแย่หนักด้วยน่าจะทำให้ เอฟเอ ต้องประวิงเวลาว่าจะมอบงานช้างให้กับ คาร์สลีย์ หรือเปล่าเนื่องจากเขาทดลองระบบไร้กองหน้าตัวเป้า แต่ปรากฏว่าได้รับผลร้าย
ฉะนั้นแล้ว คาร์สลีย์ จะต้องแก้ตัวให้ได้ในเกมหน้ากับ ฟินแลนด์ วันอาทิตย์นี้หากเขายังหวังได้นั่งเก้าอี้ตัวสำคัญอย่างถาวร
5. โค้ช กรีซ ไม่ธรรมดา
จากรูปเกมในสนามนัดชนะ อังกฤษ 2-1 ต้องบอกว่า กรีซ ทีมนี้ไม่ธรรมดาจริงๆดังจะเห็นว่าพวกเขาสร้างปัญหาให้กับรองแชมป์ ยูโร 2024 ได้หลายต่อหลายครั้ง
ไม่เพียงจะเล่นเกมรับได้อย่างเหนียวแน่น พวกเขายังโต้กลับน่ากลัวจนหวิดได้สกอร์เพิ่มอีกหลายหน แต่เป็นลูกล้ำหน้าไปซะหมดโดยเฉพาะเห็นได้ชัดว่าพวกเขาประสานงานกันเป็นทีมเวิร์คได้อย่างดีเยี่ยม
อันที่จริง ก่อนบุกมาเยือน เวมบลีย์ กรีซ มีผลงานจากสองเกมแรกเหนือกว่า อังกฤษ ด้วยซ้ำจากการเก็บได้หกแต้มเต็มเช่นกัน แต่พวกเขายิงประตูได้มากกว่า 5 ประตู ขณะที่ สิงโตคำราม กระซวกตาข่ายได้ 4 ประตู
และในที่สุด กรีซ ก็แสดงถึงทีเด็ดในเกมสยบ สิงโตคำราม ที่ เวมบลีย์ ซึ่งทำให้ โยวาโนวิช กุนซือชาวเซอร์เบียคุมทีมชนะสามเกมรวดหลังเพิ่งเข้ามารับงานในรายการ เนชั่นส์ ลีก
ยิ่งไปกว่านั้น โค้ชวัย 62 ปีที่เคยกุมบังเหียน พานาธิไนกอส มาก่อนได้ชื่อว่าเป็นกุนซือคนแรกที่พา กรีซ กำราบ อังกฤษ ได้ด้วยเนื่องจากเก้าเกมก่อนหน้านี้ที่ทั้งสองทีมจะเอ๋กัน สิงโตคำราม ไม่เคยเพลี่ยงพล้ำเลยจากการชนะ 7 นัด และเสมอ 2 นัด
เท่านั้นไม่พอ วานเจลิส พาฟลิดิส ที่ยิงคนเดียวสองประตูในเกมนี้สร้างชื่อเป็นนักเตะ กรีซ คนแรกเช่นกันที่สอยตาข่าย ทรี ไลอ้อนส์ ได้ที่ เวมบลีย์ และไม่แค่ประตูเดียว แต่เขายังซัดให้ทีมเยือนชนะ อังกฤษ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติอีกต่างหาก