โหมโรง โกปา อเมริกา! 5 ประเด็นก่อนเปิดศึกชิงจ้าวลูกหนังละติน

และนี่คือ 5 ประเด็นเจาะลึกให้ทุกคนรู้เรื่องมากขึ้นก่อนลงแข่งขันของจริง!

1. ไม่ได้แข่งในอเมริกาใต้

อย่างที่ทราบว่า โกปา อเมริกา คือศึกชิงจ้าวลูกหนังทวีปอเมริกาใต้ แต่ในปีนี้กลับจัดแข่งที่ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเอาเข้าจริงไม่ใช่ครั้งแรกที่มีเจ้าภาพอยู่นอกดินแดนละติน เพราะเคยมีมาแล้วบนแผ่นดินลุงแซมเช่นกันในฉบับ 2016 ฉลองครบรอบ 100 ปี

อย่างไรก็ดีมันมีข้อแตกต่างตรงที่ โกปา อเมริกา 2024 เพิ่มจำนวนเป็น 16 ทีมแข่งขัน โดย 6 ในนั้นมาจากทีมชาติในสมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาเหนือ, อเมริกากลาง และแคริบเบียน หรือที่รู้จักกันในนาม "คอนคาเคฟ" นั่นเอง

สาเหตุหลักที่ สหรัฐฯ ได้เป็นเจ้าภาพนั้นไม่ได้เป็นวาระพิเศษเหมือนเมื่อ 8 ปีก่อน หากแต่เปรียบเสมือนทัวร์นาเมนต์ชิงลาง เตรียมความพร้อมก่อนฟุตบอลโลก 2026 ที่ซึ่งแดนมะกันเป็นเจ้าภาพร่วมกับ แคนาดา และ เม็กซิโก

ลงรายละเอียดเมืองแข่งขันส่วนใหญ่อยู่ทางใต้ เช่น แคลิฟอร์เนีย, เท็กซัส และ ฟลอริดา ซึ่งเต็มไปด้วยประชากรเชื้อสายเม็กซิกัน หรือละติน แล้วก็แน่นอนว่านิยมชมชอบในเกมลูกหนัง มากกว่าตอนบนอย่าง นิว เจอร์ซี่, แคนซัส ซิตี้ ที่ใช้แข่งขันด้วยเช่นกัน

สำหรับ 6 ตัวแทนนอกทวีปอเมริกาใต้นั้นประกอบไปด้วย สหรัฐฯ ชาติเจ้าภาพ, เม็กซิโก, จาเมกา, แคนาดา, คอสตาริกา และ ปานามา โดยแต่ละทีมต่างเคยผ่านประสบการณ์เข้ารอบสุดท้าย เวิลด์คัพ มาแล้วทั้งสิ้น

ทั้งนี้นับจากปี 1993 โกปา อเมริกา มักจะมี 12 ทีมแข่งขันเพื่อให้ลงตัวกับการแบ่งกลุ่ม โดยอีก 2 ทีมจะเป็นชาติรับเชิญ เช่น ญี่ปุ่น และ กาตาร์ จากทวีปเอเชียมาร่วมด้วยเมื่อปี 2019 อย่างไรก็ดี ฉบับล่าสุด 2021 มีแค่ 10 ทีมละตินล้วนๆ

2. เวทีสุดท้ายชอง เมสซี่?

คาดหมายกันไว้ว่า โกปา อเมริกา 2024 อาจจะเป็นเวทีสุดท้ายระดับทีมชาติของ ลีโอเนล เมสซี่ สุดยอดนักเตะตลอดกาลเท่าที่โลกใบนี้เคยมีมา

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นที่พูดถึงมานานแล้วกับดาวยิงที่จะมีอายุ 39 เมื่อถึงฟุตบอลโลกในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยตัวของ เมสซี่ ได้กล่าวแบ่งรับแบ่งสู้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยทั้งด้านสภาพร่างกาย และจิตใจ

ที่สุดแล้ว เมสซี่ ยังคงมุ่งมั่นจะสวมปลอกแขนนำทัพ "ฟ้าขาว" ผงาดแชมป์ 3 รายการซ้อนต่อจาก โกปา อเมริกา 2021 และ 2022 หลังไม่เคยเชยชมโทรฟี่เมเจอร์ทีมชาติจนถึงวัยปาเข้าไป 34 ปี

เหนืออื่นใด นัดชิงโกปา อเมริกา หนนี้จะแข่งขันที่ ฮาร์ด ร็อค สเตเดี้ยม ใน ไมอามี่ ห่างไปเพียง 20 ไมล์จากเมือง ฟอร์ท เลาเดอร์เดล ที่ตั้งสโมสร อินเตอร์ ไมอามี่ ต้นสังกัดปัจจุบันของเขาอีกต่างหาก

ขณะเดียวกันถ้าป้องกันโทรฟี่สำเร็จ อาร์เจนตินา จะครองสถิติแชมป์โกปา อเมริกา สูงสุดทันที โดย ณ ตอนนี้ ได้ 15 สมัยเท่ากับ อุรุกวัย

3. บราซิลแชมป์แถม วินิ คว้าบัลลงดอร์?

ทีมเซเลเซา รั้งเต็งสองตาม อาร์เจนตินา หลังได้แชมป์หนล่าสุดสมัยที่ 19 ในบ้านตัวเองเมื่อปี 2019 และนับเป็นหนที่ 4 ในรอบทศวรรษปัจจุบัน

แน่นอนว่าตัวความหวังสูงสุดของ บราซิล คงหนีไม่พ้น 3 ประสานอนาคตไกลแห่ง เรอัล มาดริด ทั้ง วินิซิอุส จูเนียร์, โรดรีโก้ รวมถึง เอ็นดริค วันเดอร์คิดซึ่งรอย้ายทางการเมื่อครบ 18 ปีในเดือนก.ค.นี้

เฉพาะอย่างยิ่งในราย วินิ กำลังคั่วรางวัลบัลลงดอร์ หลังระเบิดฟอร์มเอกอุพาทีม "ราชันชุดขาว" ซิวแชมป์ลา ลีกา และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยมี จู๊ด เบลลิงแฮม สตาร์อิงลิชเพื่อนร่วมสังกัดมีลุ้นแย่งชิงด้วยเช่นกัน

หรือว่า โกปา อเมริกา และ ยูโร จะกลายเป็นเวทีตัดสินว่าใครจะได้ลูกบอลทองคำไปครอบครอง?

กระนั้นประเด็นน่ากังวลสำหรับทัพแซมบ้าอาจจะอยู่ที่ตัวกุนซือ โดริวัล จูเนียร์ จอมพเนจรวัย 62 เพิ่งมารั้งบังเหียนเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมานี้เอง

4. ถึงเวลา มาร์เซโล่ บีเอลซ่า?

อุรุกวัย อีกหนึ่งทีมเต็งอยู่ภายใต้บังเหียนของ มาร์เซโล่ บีเอลซ่า ปรมาจารย์โค้ชชาวอาร์เจนไตน์ ผู้ตั้งความหวังปลดล็อกเชยชมโทรฟี่จ้าวทวีปให้ได้บนวัย 68 ปี

ในอดีต บีเอลซ่า ทำได้ใกล้เคียงที่สุดเมื่อปี 2004 คุมทีมชาติบ้านเกิดเข้าชิงแล้วได้ เซซาร์ เดลกาโด้ ยิงนำ บราซิล 2-1 ในนาที 87 แต่มาโดน อาเดรียโน่ ตีเสมอช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ก่อนที่ทีมแซมบ้าชนะดวลจุดโทษ๋ในกรุงลิม่า ประเทศเปรู

นั่นคือครั้งล่าสุดที่ "เอล โลโก้" ร่วมศึกโกปา อเมริกา โดยหลังจากนั้นเคยคุม ชิลี นานเกือบ 4 ปี แต่จังหวะมันไม่ได้ เข้ามาทำงานหลังจบทัวร์นาเมนต์ปี 2007 และอำลาเพียงไม่กี่เดือนก่อนแช่งฉบับ 2011

5. รูปแบบการแข่งขัน

รอบแบ่งกลุ่มมี 4 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม โดย 2 ทีมอันดับดีที่สุดแต่ละกลุ่มจะได้ตีตั๋วสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ หรือรอบ 8 ทีมสุดท้าย

คู่เปิดม่านเป็น "แชมป์เก่า" อาร์เจนตินา ได้รับเกียรติ์ประเดิมพบ แคนาดา ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 21 มิ.ย. ตามเวลาเมืองไทย และปิดฉากด้วยนัดชิงชนะเลิศ เช้าวันจันทร์ที่ 15 ก.ค. หรือเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจบนัดชิงยูโรที่กรุงเบอร์ลิน

แต่ละกลุ่มมีทีมแข่งขันดังนี้...

กลุ่ม เอ - อาร์เจนตินา, เปรู, ชิลี, แคนาดา

กลุ่ม บี - เม็กซิโก, เอกวาดอร์, เวเนซุเอลา, จาเมกา

กลุ่ม ซี - สหรัฐฯ, อุรุกวัย, ปานามา, โบลิเวีย

กลุ่ม ดี - บราซิล, โคลอมเบีย, ปารากวัย, คอสตาริกา