ควอน ซอง-ดอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ เกาหลีใต้ ระบุ ทีมชาติเกาหลีใต้ต้องตัดสินใจเด้ง เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ ได้แล้ว โดยบอกว่าเรื่องการชนะหรือแพ้มันไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่เป็นการที่ คลิ้นส์มันน์ ฝีมือไม่ถึงและไม่จริงจังกับการทำงานมากเท่าที่ควรต่างหาก
ควอน ซอง-ดอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของประเทศเกาหลีใต้ เรียกร้องให้สมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ (เคเอฟเอ) รีบปลด เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ พ้นจากการเป็นเทรนเนอร์ของทีมชาติเกาหลีใต้โดยเร็ว
คลิ้นส์มันน์ ได้รับการแต่งตั้งให้คุม เกาหลีใต้ เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ปีก่อน ด้วยสัญญาที่มีผลจนถึงจบศึก ฟุตบอลโลก 2026 แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาก็โดนแฟนบอลในแดนโสมขาวตำหนิหนักพอตัวจากการที่อดีตดาวเตะชาวเยอรมันไม่ค่อยเข้ามาทำงานใน เกาหลีใต้, ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับนักเตะที่เล่นอยู่ใน เค ลีก 1 หรือลีกสูงสุดของประเทศ ไปจนถึงการเรียกนักเตะติดทีมชาติ
ทั้งนี้ ศึกเอเชียน คัพ 2023 ถูกมองว่าเป็นรายการที่ คลิ้นส์มันน์ จะสร้างศรัทธาให้กับแฟนบอลเกาหลีใต้ได้ แต่เขาก็พาทีมไปถึงแค่รอบรองชนะเลิศจากการแพ้ จอร์แดน 0-2 และหลังจากนั้นเป็นต้นมากระแสเรียกร้องให้มีการปลดเขาก็รุนแรงอย่างมาก ซึ่งนักการเมืองหลายคนใน เกาหลีใต้ ก็ร่วมกระแสนี้ด้วย และล่าสุด ควอน ก็ทำแบบนั้นเช่นกัน โดยเขาเป็นนักการเมืองจากพรรคพลังประชาชนของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลชุดปัจจุบัน
ควอน เผยว่า "จากความผิดหวังอันซ้ำซากระหว่างศึก เอเชียน คัพ คลิ้นส์มันน์ ก็โดนตำหนิอย่างมากจากการที่เขาขาดแท็กติกที่ดี ที่จริงหลายคนกังวลตั้งแต่ตอนแรกที่มีการแต่งตั้งเขาเป็นกุนซือทีมชาติแล้ว และศึก เอเชียน คัพ รอบนี้ก็เปลี่ยนความกังวลที่ว่านั้นให้กลายเป็นความจริง"
"การที่คนทั้งชาติตำหนิเขาน่ะมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการที่เราชนะหรือแพ้ในรายการนี้ แต่เกี่ยวข้องกับการกังขาถึงความสามารถของเขาในฐานะกุนซือทีมชาติ และความละเลยที่เขามีต่องานของตัวเอง"
ด้าน เคเอฟเอ แถลงการณ์ว่าพวกเขาจะจัดการประชุมกันภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้บอกว่าจะเป็นการหารือถึงเรื่องอะไร แต่มันมีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นการตัดสินถึงอนาคตของ คลิ้นส์มันน์ โดยเป็นที่เชื่อกันว่าคณะกรรมการที่ทำงานเกี่ยวกับทีมชาติเกาหลีใต้จะได้ข้อสรุปถึงเรื่องของ คลิ้นส์มันน์ อย่างเร็วที่สุดภายในสุดสัปดาห์หน้า โดยเมื่อคณะกรรมการที่ทำงานเกี่ยวกับทีมชาติมีมติในเรื่องนี้แล้วนั้น มันก็จะต้องให้บอร์ดบริหารของสมาคมทำการตัดสินขั้นเด็ดขาดอีกที