ลิโอเนล เมสซี่ คนที่ 7 ! เปิดโผ 6 แข้งฟาดแชมป์โลก - บัลลง ดอร์ ปีเดียวกัน

ลิโอเนล เมสซี่ คนที่ 7 ! เปิดโผ 6 แข้งฟาดแชมป์โลก - บัลลง ดอร์ ปีเดียวกัน
สุดท้ายก็เป็นไปตามที่หลายคนคิดเมื่อ ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าซูเปอร์สตาร์ของ อินเตอร์ ไมอามี่ และทีมชาติอาร์เจนตินาได้รับเสียงโหวตส่วนใหญ่ให้เป็นเจ้าของรางวัล บัลลง ดอร์ 2023 จนส่งผลให้เขาได้รางวัลนี้เป็นสมัยที่ 8 เข้าไปแล้ว

แม้ว่าในฤดูกาล 2022-23 เออร์ลิง ฮาลันด์ จะทำผลงานในระดับสโมสรได้อย่างยอดเยี่ยมจนช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้แชมป์ทั้ง พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่หลายคนมองว่ามันยังเทียบกับตำแหน่งแชมป์ ฟุตบอลโลก 2022 ของ เมสซี่ ไม่ได้ และยกให้ เมสซี่ เป็นเต็ง 1 มาโดยตลอด

ทั้งนี้ ในประวัติศาสตร์ของการมอบรางวัล บัลลง ดอร์ นั้น เมสซี่ เป็นเพียงคนที่ 7 เท่านั้นที่ได้ทั้งแชมป์ ฟุตบอลโลก และรางวัล บัลลง ดอร์ ในการมอบรางวัลประจำปีเดียวกัน ลองไปดูกันสักหน่อยว่า 6 รุ่นพี่ของเขามีใครบ้าง

- ฟาบิโอ คันนาวาโร่ : 2006

ในศึก ฟุตบอลโลก 2006 มันมีไม่กี่คนที่เชื่อว่า อิตาลี จะได้แชมป์โลกที่ประเทศเยอรมนีไปครอง แต่กลับกลายเป็นว่าลูกทีมของ มาร์เชลโล่ ลิปปี้ ทำผลงานได้อย่างเหนือชั้นจนได้แชมป์ไปเชยชม ซึ่งแกนหลักในความสำเร็จชุดนั้นมีอยู่หลายคนด้วยกัน โดยที่ คันนาวาโร่ กับ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ได้รับคำชมมากที่สุด

ท้ายที่สุดแล้ว คันนาวาโร่ ก็ได้รับเสียงโหวตมากที่สุดด้วยคะแนนถึง 173 คะแนน ทิ้งห่าง บุฟฟ่อน เยอะพอตัวหลังจากนายด่านเพื่อนร่วมชาติได้คะแนน 124 แต้ม ซึ่งนั่นก็ทำให้ คันนาวาโร่ เป็นกองหลังคนสุดท้ายจนถึงตอนนี้ที่ได้รางวัลลูกฟุตบอลทองคำไปเชยชม

- โรนัลโด้ : 2002

8 ลูก คือจำนวนประตูที่ โรนัลโด้ ทำได้ในศึก ฟุตบอลโลก ที่ประเทศเกาหลีใต้กับญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพร่วมกัน โดยในจำนวนนั้นมี 2 ลูกที่เขาเหมาคนเดียวจนพา บราซิล เอาชนะ เยอรมนี 2-0 ในรอบชิงชนะเลิศด้วย และเขาก็ได้รางวัลดาวซัลโวสูงสุดของทัวร์นาเมนท์นั้นไปครอง

แม้ว่าในฤดูกาล 20001-02 โรนัลโด้ จะไม่ได้เล่นให้ อินเตอร์ มิลาน มากนัก แต่เขาก็ทำผลงานกับ เรอัล มาดริด ได้โดดเด่นในช่วงต้นๆ ซีซั่น 2002-03 ทำให้พอถึงเวลามอบรางวัล บัลลง ดอร์ 2002 ในช่วงเดือนธันวาคมของปีนั้น "โล้นทองคำ" ก็ได้รางวัล บัลลง ดอร์ เป็นสมัยที่ 2 ด้วยคะแนน 169 แต้ม ส่วนอันดับ 2 คือ โรแบร์โต้ คาร์ลอส แบ็กซ้ายเพื่อนร่วมชาติที่ได้ไป 145 คะแนน

- ซีเนดีน ซีดาน : 1998

หลายคนถึงขั้นว่ากันว่าถ้าไม่ใช่เพราะ ซีเนดีน ซีดาน แล้วล่ะก็ ฝรั่งเศส ก็อาจจะไม่ได้สัมผัสกับแชมป์ ฟุตบอลโลก สมัยแรก ในตอนนั้นก็ได้ เพราะในรายการนั้น ซีดาน โชว์ฟอร์มได้เหนือชั้นมากๆ อย่างเช่นการทำ 2 ลูกในนัดชิงดำต่อหน้าแฟนบอลราว 75,000 ชีวิตใน สต๊าด เดอ ฟร้องซ์ จนทำให้ ฝรั่งเศส เอาชนะ บราซิล ไปได้ 3-0

ด้วยเหตุนี้ ซีดาน เลยถูกยกให้เป็นตัวเต็งที่จะได้รางวัล บัลลง ดอร์ 1998 แบบแทบจะนอนมา และผลสรุปก็เป็นอย่างงั้นจริงๆ เพราะเขาได้ไป 222 คะแนน ขณะที่อันดับ 2 อย่าง เปรแดร็ก มิยาโตวิช ดาวเตะ ยูโกสลาเวีย ได้ไปแค่ 68 แต้มเท่านั้น

- โลธาร์ มัทเธอุส : 1990

เยอรมัน ตะวันตก ได้แชมป์ ฟุตบอลโลก เป็นสมัยที่ 3 จากการเฉือนชนะ อาร์เจนตินา 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศ ซึ่งในรายการนั้น มัทเธอุส ทำได้ 4 ประตู ขณะที่ฟอร์มกับ อินเตอร์ มิลาน ในครึ่งหลังของฤดูกาล 1989-90 กับครึ่งแรกของซีซั่น 1990-91 มันก็โดดเด่นพอตัวเช่นกัน

ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจที่พอถึงตอนประกาศรางวัลนั้น มัทเธอุส จะได้คะแนนท่วมท้นถึง 137 คะแนน ส่วน ซัลวาตอเร่ สกิลาชี่ ดาวซัลโวสูงสุดของ ฟุตบอลโลก 1990 เข้าเส้นชัยเป็นเพียงที่ 2 จากการมีคนโหวตให้รวมแล้ว 84 แต้ม

- เปาโล รอสซี่ : 1982

ตลอดทั้งรายการนั้น รอสซี่ ทำประตูให้บ้านเกิดได้ 6 ลูก อย่างเช่นนัดชิงชนะเลิศที่ทัพ "อัซซูรี่" เอาชนะ เยอรมัน ตะวันตก 3-1 ส่งผลให้เขาถือเป็นฟันเฟืองสำคัญต่อการได้แชมป์โลกสมัยที่ 3 ของ อิตาลี โดยเขาได้ทั้งรางวัลดาวซัลโวสูงสุดเและนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนท์อีกต่างหาก

สุดท้ายแล้ว รอสซี่ ก็ได้รับคะแนนจากนักข่าวไปรวม 115 แต้ม ส่งผลให้เขากลายเป็นนักเตะชาวอิตาเลียน คนที่ 3 ที่ได้รางวัลลูกฟุตบอลทองคำไปเชยชม ส่วนที่ 2 ในปีนั้นคือ อแล็ง จีแรส อดีตกองกลางชาวฝรั่งเศสซึ่งได้ไป 64 คะแนน

- เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน : 1966

หลังจาก บัลลง ดอร์ เริ่มมอบรางวัลกันเป็นครั้งแรกในปี 1956 มันก็ใช้เวลา 10 ปีพอดีในการที่แชมป์โลกคนแรกได้รางวัลลูกฟุตบอลทองคำไปครองภายในปีเดียวกัน และมันก็เป็นการได้รางวัลที่สูสีสุดๆ อีก เพราะว่า เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ได้ไป 81 คะแนน เฉือนชนะ ยูเซบิโอ ที่ได้ 80 แต้มแบบฉิวเฉียด

ที่จริงแล้ว ยูเซบิโอ ทำผลงานได้สุดยอดในศึก ฟุตบอลโลก 1966 ด้วยการทำไป 9 ประตูจนเป็นดาวซัลโวสูงสุดของรายการ แต่ ชาร์ลตัน ก็เล่นให้ อังกฤษ ได้ดีเช่นกันจนเป็นกำลังหลักในการทำให้ "สิงโตคำราม" ได้แชมป์โลกเป็นสมัยแรก แถมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาก็โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นพอๆ กันด้วย ทำให้สุดท้ายแล้ว ชาร์ลตัน ได้รับการชูมือให้เป็นผู้ชนะในครั้งนั้น


- เด็กเกร็ดบอล -


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : เด็กเกร็ดบอล
เด็กเกร็ดบอล
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport