วินาทีที่บอลจากเท้าของ อเลสซานโดร โจลินุชชี่ เข้าไปนอนในก้นตาข่าย ในนาทีที่ 61 บรรดานักเตะของ ซาน มารีโน่ ทั้งตัวจริงและตัวสำรองก็ดีใจกันสุดขีด บางคนถึงขั้นวิ่งจากฝั่งตรงข้ามของเส้นข้างสนามเพื่อที่จะไปฉลองกับดาวเตะวัย 29 ปีเลยด้วยซ้ำ
แน่นอน ส่วนหนึ่งที่พวกเขาดีใจมันเป็นเพราะนี่คือประตูที่ทำให้ ซาน มารีโน่ ตามตีเสมอ เดนมาร์ก 1-1 ในเกม ยูโร 2024 รอบคัดเลือกได้ ก่อนที่ ซาน มารีโน่ จะแพ้ 1-2 ในบั้นปลาย แต่ที่สำคัญมากกว่านั้นก็คือนี่ถือเป็น "ลูกแรก" ของทีมชาติ ซาน มารีโน่ ในระยะเวลาเกือบ 1 ปีเลยทีเดียว หลังจากก่อนหน้านี้พวกเขาเท้าบอดในเกมทีมชาตินาน 8 เกมติดต่อกัน โดยช่วงเวลาอันเลวร้ายของพวกเขามันเริ่มจากวันที่ 20 พฤศจิกายน ปี 2022
อย่างไรก็ตาม การเท้าบอดมานาน 8 นัดติดต่อกันยังไม่ใช่ประสบการณ์ที่เลวร้ายที่สุดของ ซาน มารีโน่ ซึ่งเป็นทีมอันดับสุดท้ายของโลกตามการจัดอันดับของ ฟีฟ่า ในตอนนี้ (อันดับที่ 207) และวันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังว่า 3 ช่วงที่พวกเขาเท้าบอดติดต่อกันนานสุด 3 ครั้งแรกนั้นเกิดขึ้นตอนไหนบ้าง
3. 11 นัดติดต่อกัน (2013-2015 และ 2019-2021)
ในวันที่ 11 ตุลาคม ปี 2013 ซาน มารีโน่ ออกไปแพ้ มอลโดว่า 0-3 ในเกม ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก และอีก 10 นัดต่อมาพวกเขาก็คลำหาประตูไม่เจอเหมือนกัน โดยเกมในช่วงนั้นมีอย่างเช่นวันที่แพ้ ยูเครน 0-8, ปราชัยต่อ อังกฤษ 0-5, โดน สโลวีเนีย ถล่มยับ 0-6 และแพ้ อังกฤษ อีกครั้งด้วยสกอร์ 0-6 เป็นต้น ก่อนที่พวกเขาจะกลับมาทำประตูได้ในวันที่ 8 กันยายน ปี 2015 โดยเป็นเกม ยูโร 2016 รอบคัดเลือก นัดแพ้ ลิทัวเนีย 1-2
ซาน มารีโน่ เจอประสบการณ์แบบเดียวกันในช่วงปี 2019-2021 เริ่มจากเกม ยูโร 2020 รอบคัดเลือก นัดที่แพ้ รัสเซีย 0-5 เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ปี 2019 ก่อนจะไปสิ้นสุดความทรมานในวันที่แพ้ โคโซโว 4-1 ในเกมอุ่นเครื่องเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ปี 2021 โดยก่อนจะถึงวันนั้นพวกเขาเคยแพ้ อังกฤษ 0-5 ในศึก ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก และพ่าย อิตาลี 0-7 ในเกมอุ่นเครื่องด้วย
2. 16 นัดติดต่อกัน (2017-2019)
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ปี 2017 ซาน มารีโน่ เปิดบ้านเจอ นอร์เวย์ ในเกม ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนฟันธงตั้งแต่ก่อนเริ่มเกมว่า นอร์เวย์ จะเก็บ 3 แต้มเต็มได้ แต่ก็ไม่มีใครที่คิดว่าเจ้าถิ่นจะแพ้แบบขาดลอยถึง 0-8 เหมือนกัน
หลังจากนั้น ซาน มารีโน่ ก็ยังอาการโคม่าจนถึงขนาดที่ว่านอกจากแพ้แล้วนั้นพวกเขาก็ยังทำประตูไม่ได้อีก อย่างเช่นเกมพ่าย มอลโดว่า 0-1, การปราชัยต่อ รัสเซีย 0-9, พ่าย เบลเยียม ด้วยสกอร์เดียวกัน และแพ้ สกอตแลนด์ 0-6 เป็นต้น ก่อนที่ ฟิลิปโป้ แบราดี้ จะทำประตูปลอบใจให้พวกเขาในเกม ยูโร 2020 รอบคัดเลือก นัดแพ้ คาซัคสถาน 1-3 เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ปี 2019 จนทำให้ ซาน มารีโน่ มีประตูติดตัวบ้างสักที
1. 20 เกมติดต่อกัน (2008-2011)
ซาน มารีโน่ มีคิวไปเยือน ไอร์แลนด์เหนือ ในศึก ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ปี 2008 ซึ่งเกมนั้นจบลงด้วยการแพ้ 0-4 ของอาคันตุกะ ส่วนนัดต่อมาที่เจอกับ สาธารณรัฐเช็ก ในเดือนพฤศจิกายนของปีเดียวกันพวกเขาก็พ่ายไป 0-3
พอถึงนัดแรกของปี 2009 ซาน มารีโน่ ก็ยังไม่ฟื้นไข้เพราะพวกเขาแพ้ ไอร์แลนด์เหนือ คาบ้าน 0-3 ก่อนจะออกไปเยือน โปแลนด์ และพ่ายแบบย่อยยับ 0-10 ซึ่งความทรมานของแฟนบอล ซาน มารีโน่ ก็เดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ อย่างเช่นการแพ้ ฮังการี 0-8, ถูก ฟินแลนด์ ถล่มด้วยสกอร์เดียวกัน และวันที่ปราชัยต่อ เนเธอร์แลนด์ส 0-11 เป็นต้น
ทั้งนี้ ในนัดแรกของปี 2012 ซาน มารีโน่ ได้โอกาสเปิดบ้านเจอกับ มอลต้า ในเกมอุ่นเครื่อง และช่วงเวลาอันเลวร้ายที่ลากยาวมาหลายปีก็สิ้นสุดลงเมื่อ มานูเอล มารานี่ ทำประตูขึ้นนำให้ทีมได้ในนาทีที่ 7 น่าเสียดายที่สุดท้ายเกมนั้น ซาน มารีโน่ แพ้ไป 2-3
- เด็กเกร็ดบอล -