ในที่สุด อังกฤษ ก็เสียสถิติชนะรวดในเกม ยูโร 2024 รอบคัดเลือกจนได้เมื่อต้องเป็นฝ่ายบุกไปไล่ตีเสมอ ยูเครน 1-1 จากการฟาดแข้งเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ก.ย.โดยเกมนี้ถูกกำหนดให้ดวลกันที่ โปแลนด์ สนามเป็นกลาง
แม้จะทำแต้มหล่นเป็นแต้มแรก แต่แน่นอนว่าทีม สิงโตคำราม ยังอยู่บนเส้นทางสดใสต่อการทะยานเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายที่ เยอรมัน หลังทวงประตูคืนจาก ยูเครน ได้สำเร็จ และนี่คือห้าประเด็นที่น่าสนใจของเกมนี้
1. ยูเครน ส่งสี่แข้งจาก พรีเมียร์ลีก ออกสตาร์ต
เซร์เก เรบรอฟ กุนซือทีมชาติ ยูเครน ส่งดาวเตะที่หากินใน พรีเมียร์ลีก สี่รายลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมบู๊กับ อังกฤษ
รวมแล้วพวกเขาปรับทัพห้าตำแหน่งจากเกมเอาชนะ มอลต้า 1-0 เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
สำหรับนักเตะสี่รายดังกล่าวที่ค้าแข้งในลีกอิงลิชประกอบไปด้วย โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ , วิตาลี่ มิโคเลนโก้ , มิโคไล มูดริก และ อิลเลีย ซาบาร์นยี่
2. เฮนโด้-แม็กไกวร์ นำทัพสิงโต
เป็นไปตามคาดสำหรับ อังกฤษ ซึ่งยังเลือกใช้งาน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เป็นตัวจริงในเกมนี้แม้รายแรกจะย้ายไปเล่นในลีก ซาอุดิ อาระเบีย กับ อัล เอตติฟาค แล้ว ขณะที่รายหลังตกเป็นตัวสำรองอย่างถาวรของ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้นสังกัด
เทียบจากเกมยำใหญ่ นอร์ท มาซิโดเนีย 7-0 เมื่อเดือนมิ.ย.แกเร็ธ เซาธ์เกต ปรับทัพตัวจริงรวมสี่รายโดย มาร์ค เกฮี ได้จับคู่กับกองหลังทีม ผีแดง แทนที่ จอห์น สโตนส์ ขณะที่ เบน ชิลเวลล์ เสียบแทน ลุค ชอว์ ที่เดี้ยง
นอกจากนี้ จู๊ด เบลลิ่งแฮม ก็หวนกลับสู่ทีมทดแทน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ ฮาร์โนลด์ ในแดนกลางเช่นเดียวกับ เจมส์ แมดดิสัน ที่ได้ออกสตาร์ตหลังมีผลงานโดดเด่นกับ สเปอร์ส โดย มาร์คัส แรชฟอร์ด ถูกเขี่ยให้ตกไปนั่งข้างสนาม
3. 77 นัดที่รอคอย
หลังจากเกมดำเนินไป 26 นาที อังกฤษ ก็พลาดท่าให้ ยูเครน ก่อนโดยที่ ซินเชนโก้ กองหลัง อาร์เซน่อล ปราดเข้ามาซัดให้ทีมของเขาออกนำ และเป็นประตูแรกที่ สิงโตคำราม ตาข่ายขาดด้วยในเวลาห้าชั่วโมงครึ่งนับตั้งแต่พวกเขาเสียประตูครั้งล่าสุดในรายการเดียวกันนี้เกมบุกไปคว่ำ อิตาลี 2-1
ถึงกระนั้น ผ่านมาในช่วงท้ายครึ่งแรก แฮร์รี่ เคน จ่ายบอลให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ ทะลุไปส่องประตูคืนโดยไม่ล้ำหน้าเป็นการประสานงานกันของสองนักเตะซึ่งรายหลังเผยว่าเกือบย้ายจาก แมนฯ ซิตี้ ไปร่วมทีม บาเยิร์น มิวนิค เช่นกัน
พร้อมกันนี้ เป็นเรื่องน่าทึ่งไม่น้อยที่ วอล์คเกอร์ เพิ่งมายิงประตูแรกในนามทีมชาติได้จากการลงสนามเป็นนัดที่ 77 ในวัย 33 ปีพร้อมทั้งได้ชื่อว่าเป็นดาวเตะ ทรี ไลอ้อนส์ รายที่ 450 ที่ซัดประตูให้แผ่นดินเกิดได้ แต่เป็นนักเตะที่ใช้เวลาติดธงนานที่สุดกว่าจะเบิกสกอร์แรกกับทีมชาติได้
สำหรับสถิติหลังจบครึ่งแรก แน่นอนว่า อังกฤษ เหนือกว่าเยอะในด้านการครองบอล 70:30% แต่เกมไม่สู้จะมีโอกาสส่องเป้ากันมากนักโดย ยูเครน ได้ยิงแค่ครั้งเดียวและเป็นประตู ขณะที่ สิงโตคำราม ได้ตะบันแค่ 3 ครั้งและเข้ากรอบ 1 ครั้ง
4. อังกฤษ เสียแต้มแรกจนได้
ครึ่งหลัง อังกฤษ กลับมาเร่งเกม และกดดัน ยูเครน ได้หนักกว่าในครึ่งแรก แต่สุดท้ายพวกเขาไม่อาจพังประตูชัยได้ และเสมอกับคู่แข่งไป 1-1 ซึ่งเป็นแต้มแรกที่ สิงโตคำราม ทำหลุดมือให้กับฝ่ายตรงข้ามในทัวร์นาเมนต์นี้
แม้ เซาธ์เกต จะพยายามปรับเกมด้วยการส่ง ฟิล โฟเด้น กับ แรชฟอร์ด ลงเล่นแทน เบลลิ่งแฮม กับ แมดดิสัน ในนาทีที่ 65 แต่ ยูเครน สามารถยันสกอร์ได้ พร้อมทั้งแชร์แต้มกับ อังกฤษ ได้สำเร็จ
จบ 90 นาที อังกฤษ เหนือกว่าทุกอย่างทั้งการครองบอล 68:32% โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทรี ไลอ้อนส์ หาโอกาสยิงประตูได้มากขึ้นรวมเป็น 11 ครั้ง และเข้ากรอบ 4 ครั้ง ส่วน ยูเครน ได้โอกาสในครึ่งหลังเพิ่มอีกแค่หนเดียว และไม่เข้ากรอบจากสถิติ 2:1
อย่างไรก็ดี รวมแล้ว อังกฤษ ไม่ได้มีเกมที่วิเศษเลิศเลออะไรโดยเฉพาะจังหวะเข้าทำซึ่งหาได้อย่างยากลำบากจึงเป็นที่เห็นพ้องกันว่าผลเสมอ 1-1 ยุติธรรมดีแล้วสำหรับทั้งสองฝ่าย
5. เคน ไม่ยิงก็จ่าย
ต้องบอกอย่างนั้นจริงๆสำหรับ เคน สตาร์ทีมชาติ อังกฤษ ซึ่งเกมนี้แม้จะหาโอกาสซัดประตูด้วยตัวเองไม่ได้ แต่ยังแผลงฤทธิ์จ่ายบอลให้ วอล์คเกอร์ หลุดไปเข่นตีเสมอพาทีมคว้าหนึ่งแต้มกลับบ้าน
ก่อนที่ สิงโตคำราม จะคลำเป้าได้สำเร็จ กองหน้าทีม บาเยิร์น มิวนิค มีโอกาสสัมผัสบอลเพียงไม่กี่สิบครั้งเท่านั้น และในที่สุดเขาก็ขยับลงต่ำมาวางบอลให้กองหลัง แมนฯ ซิตี้ ทะลุไปยิงประตูเหมือนที่เราได้เห็นกันจนชินตาเมื่อครั้งที่เขายังรับใช้ สเปอร์ส และลงไปล้วงบอลเปิดเกมยาวให้ ซน ฮึง มิน ระเบิดตาข่ายกระทั่งพ่อค้าแข้งทีมชาติ เกาหลีใต้ คว้ารางวัลดาวซัลโวของ พรีเมียร์ลีก มาแล้ว
สำหรับซีซั่นนี้ แม้ เคน จะตัดสินใจย้ายไปเล่นใน บุนเดสลีกา แต่อย่าลืมว่าเขาเคยเป็นเพื่อนร่วมทีมของ วอล์คเกอร์ มาก่อนตอนที่แบ็คขวาสายสปีดยังค้าแข้งกับ สเปอร์ส ฉะนั้นแล้วดาวเตะวัย 33 ปีจึงเปิดปากหลังเกมว่ารู้ใจกับ เคน เป็นอย่างดีว่าจะต้องวิ่งขึ้นหน้าไปรอเล่นบอลในตำแหน่งไหน
พร้อมกันนี้ เคน ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญอันดับหนึ่งของ สิงโตคำราม โดยเฉพาะในยามที่ บูคาโย่ ซาก้า หรือแม้แต่ตัวสำรองอย่าง ฟิล โฟเด้น เล่นไม่ออกพร้อมพลิกสถานการณ์ให้ทีมตลอดเวลาเช่นกันโดยจากการแอสซิสต์ของเขาในเกมนี้ทำให้กัปตัน ทรี ไลอ้อนส์ สร้างผลงานยิงแปดลูก และแอสซิสต์ห้าลูกเข้าไปแล้วจากการรับใช้ชาติ 11 นัดหลังในทุกรายการ