ไคล์ วอล์คเกอร์ ซัดประตูแรกในนามทีมชาติแม้ผลลัพธ์ออกมา อังกฤษ ตามตีเสมอ ยูเครน 1-1 สะดุดอดเก็บชัย 5 นัดรวดแต่สถานการณ์ลุ้นเข้ารอบสุดท้ายศึก ยูโร 2024 ถือว่าสดใสพอสมควร โดย "ทรี ไลอ้อนส์" มีคิวอุ่นเครื่องกับ สก๊อตแลนด์ ช่วงวันอังคารที่ 12 ก.ย.นี้
สนาม : ทาร์ซี่สกี้ อารีน่า (สนามกลาง,โปแลนด์)
ศึกฟุตบอลยูโร 2024 รอบคัดเลือก กลุ่ม ซี คืนวันเสาร์ที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา "สิงโตคำราม" อังกฤษ พกผลงานเฮรวด 4 นัดมี 12 คะแนนเต็มแถมสถิติระยะหลังไม่แพ้ ยูเครน 5 เกมติดทุกรายการโดยหนล่าสุดที่ปราชัยคือเมื่อปี 2009
เกมดำเนินถึงนาที 26 วิคตอร์ ซีกันคอฟ แทงบอลออกขวา ยุคไฮ โคโนปิย่า เติมสูงพร้อมปาดเรียดมาในเขตโทษ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ สปีดตามมาซัดบอลหนีตัวนายด่านสิงโตคำรามที่ล้มผิดทาง ยูเครน ออกนำ 1-0
แต่แล้วทรี นาที 41 แฮร์รี่ เคน ลงต่ำกกลางสนามหยอดขึ้นหน้า ไคล์ วอล์คเกอร์ ดอดเกี่ยวบอลเข้าเขตโทษด้านขวา ก่อนหวดตรงกรอบ 6 หลาพังประตูเม็ดในนามทีมชาติสำเร็จ
หมด 45 นาที เสมอกัน 1-1
ช่วงครึ่งหลังนาที 53 บูคาโย่ ซาก้า ได้บอลพร้อมไหลเร็วไปที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ตวัดบอลมาหน้ากรอบประตู จอร์จี้ บุชชาน ยื่นปัดหนแรกก่อนแนวรับเพื่อนร่วมชาติเคลียร์ทิ้ง
อีกหกนาที บูคาโย่ ซาก้า ปั่นบอลหน้ากรอบเขตโทษลอยชนคานอย่างจัง สิงโตคำราม ชวดโอกาสแซงนำน่าเสียดาย ก่อนที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต แก้หมากส่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ ฟิล โฟเด้น แทนที่ จู๊ด เบลลิงแฮม และ เจมส์ แมดดิสัน
ทีมเยือนเกือบนำนาที 72 แฮร์รี่ เคน โยนเตะมุมฝั่งขวาบอลย้อยมาหา แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กระโดดโหม่งบอลตรงกรอบ จอร์จี้ บุชชาน ยกมือตะครุบบอลไม่มีพลาด จบเกม อังกฤษ ตามตีเสมอ ยูเครน 1-1 สะดุดอดเก็บชัย 5 นัดรวดแต่สถานการณ์ลุ้นเข้ารอบสุดท้ายศึก ยูโร 2024 ถือว่าสดใสพอสมควร โดย "ทรี ไลอ้อนส์" มีคิวอุ่นเครื่องกับ สก๊อตแลนด์ ช่วงวันอังคารที่ 12 ก.ย.นี้
รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
ยูเครน (4-4-1-1): จอร์จี้ บุชชาน,ยุคไฮ โคโนปิย่า,อิลิย่า ซาบาร์นยี่,มิโคล่า มัตวิเลนโก้ (เซอร์เกย์ ครีซอฟ น.46),วิตาลี่ มีโคเลนโก้,วิคตอร์ ซีกันคอฟ,ทาราส สเตปาเน็นโก้,โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ (วิตาลี่ บูยาลสกี้ น.76),มิไคโล มูดริค (เยฮอร์ นาซาร์ย่า น.90),ฮีออร์ฮิ ซูดาคอฟ,โรมัน ยาเร็มชุค (อาร์เต็ม ดอฟบิค น.65)
อังกฤษ (4-3-3): จอร์แดน พิคฟอร์ด,ไคล์ วอล์คเกอร์,มาร์ค เกฮี,แฮร์รี่ แม็กไกวร์,เบน ชิลเวลล์,เจมส์ แมดดิสัน (ฟิล โฟเด้น น.66),เดแคลน ไรซ์,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน,บูคาโย่ ซาก้า (คอนอร์ กัลลาเกอร์ น.86),แฮร์รี่ เคน,จู๊ด เบลลิงแฮม (มาร์คัส แรชฟอร์ด น.66)