อังกฤษน่าห่วง! เกร็ดจากเกมสิงโตคำรามเจ๊าอินทรีเหล็ก ที่ เวมบลีย์

ที่จริงเกมนี้มันไม่มีความหมายใดๆ กับทั้งคู่มากนักเพราะ เยอรมนี หมดสิทธิ์เป็นแชมป์กลุ่มอยู่แล้ว ขณะที่ อังกฤษ ก็จองตั๋วร่วงไปเล่นใน ลีก บี ได้ตั้งแต่นัดก่อนที่แพ้ อิตาลี 0-2 อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นในเกมนี้ก็ทำให้เกิดเกร็ดบางอย่างเช่นกัน

- เกมรับที่รั่วของ อังกฤษ

10 ลูก คือจำนวนประตูที่ อังกฤษ เสียไปตลอดการลงเล่น 6 นัดของ เนชั่นส์ ลีก ฤดูกาลนี้ ซึ่งนั่นต่างกับตอนฤดูกาล 2020-21 แบบฟ้ากับเหว เพราะตอนนั้นพวกเขาโดนยิงในรอบแบ่งกลุ่มเพียงแค่ 4 ประตูเท่านั้น

แน่นอนว่า เยอรมนี เป็นทีมที่แกร่ง แต่การเสีย 3 ลูกในบ้านของตัวเองถือว่าเป็นสิ่งที่น่าผิดหวัง และที่จริงนี่ก็ทำให้พวกเขาเสียอย่างน้อย 3 ประตูกับการเล่นในบ้าน 2 นัดติดต่อกันด้วย หลังจากเมื่อช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเคยแพ้ ฮังการี 0-4 จนส่งผลให้นี่นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน ปี 1995 ที่พวกเขาโดนยิงในบ้านอย่างต่ำ 3 ลูกเป็นจำนวน 2 เกมติด

สำหรับครั้งก่อนหน้านี้ที่เกมรับของพวกเขารั่วจนเสียประตูที่บ้านของตัวเองเยอะติดต่อกันแบบนี้นั้น เกิดขึ้นในรายการ อัมโบร คัพ หรือทัวร์นาเมนท์อุ่นเครื่องแบบพิเศษ โดยครั้งนั้นพวกเขาเสมอ สวีเดน 3-3 ก่อนจะแพ้ บราซิล 1-3

- ผลงานส่วนตัวที่น่าจดจำ

ถึงแม้ว่า เยอรมนี จะเป็นทีมที่แข็งแกร่งจนหลายคนไม่สามารถเจาะตาข่ายได้ แต่สำหรับ แฮร์รี่ เคน แล้วนั้น "อินทรีเหล็ก" นับเป็นทีมที่เขาถูกโฉลกด้วย เพราะตลอดการเล่นให้บ้านเกิดนั้นเขาได้ลงสนามเจอกับ เยอรมนี 4 ครั้ง และก็ทำประตูได้ครบทุกนัด แบ่งเป็นเกมละ 1 ประตู

ด้วยเหตุนี้ เคน เลยถือเป็นนักเตะคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์เท่านั้นที่สามารถทำประตูใส่ เยอรมนี ได้ถึง 4 นัดรวด โดยคนแรกคือ อิมเร่ ชโลสเซอร์ ที่เคยทำได้ 4 เกมติดเหมือนกันในช่วงปี 1909-1912

ทางฝั่ง เยอรมนี เองนั้น นี่ก็นับเป็นวันที่น่าจดจำของ ไค ฮาแวร์ทซ์ เพราะเขากลายเป็นคนแรกนับตั้งแต่ปี 1996 ที่ทำประตูให้กับ เยอรมนี ในการลงเล่นที่ เวมบลีย์ ได้ถึง 2 ลูกภายในเกมเดียว โดยตอนปี 1996 คนที่ทำอย่างนั้นได้คือ โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟฟ์ ที่ทำได้ในนัดชิงชนะเลิศของศึก ยูโร 1996 ในวันที่ เยอรมนี เอาชนะ สาธารณรัฐเช็ก 2-1 นั่นเอง

- การไร้ชัยต่อเนื่อง

ครั้งสุดท้ายก่อนหน้านี้ที่ อังกฤษ ไม่ชนะใครเลย 6 นัดติดต่อกันในทุกรายการนั้น ต้องย้อนไปถึงปี 1993 โดยตอนนั้นพวกเขาเสมอกับ ฮอลแลนด์ 2-2, เจ๊า โปแลนด์ 1-1, แพ้ นอร์เวย์ 0-2, พ่าย สหรัฐอเมริกา 0-2, เสมอ บราซิล 1-1 และพ่าย เยอรมนี 1-2 ซึ่งหากคิดเป็นช่วงเวลาก็อยู่ที่ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน จนถึงวันที่ 13 มิถุนายนของปี 1993 แถมกลายเป็นว่าตอนนี้พวกเขามีโอกาสทาบสถิติการไม่ชนะใครติดต่อกันในทุกรายการ 7 เกมรวดอีกต่างหาก โดยสถิติเลวร้ายที่ว่าเคยเกิดขึ้นในช่วงปี 1958

นอกจากนี้ นี่ก็นับเป็นการไร้ชัยติดต่อกันที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของ อังกฤษ หากนับเฉพาะช่วงก่อนถึงรายการสำคัญๆ ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องนี้น่าจะทำให้แฟนบอลของ อังกฤษ ต้องกลุ้มพอตัวก่อนที่ทีมของกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต จะประเดิมศึก ฟุตบอลโลก 2022 กับ อิหร่าน ในวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้

- เด็กเกร็ดบอล -