อังกฤษ ครึ่งหลัง เหนื่อยไม่น้อยแถม 10 นาทีสุดท้าย ชอว์ โดนใบแดงไล่ออกจากสนามแต่ยังรักษาสกอร์บุกเชือด อิตาลี แชมป์เก่า 2-1 จากผลงานของ เคน สังหารจุดโทษผงาดแซง รูนีย์ ขึ้นเป็นดาวซัลโวสูงสุดทัพ ทรี ไลอ้อนส์ ที่ 54 ประตูพาทีมเก็บ 3 แต้มประเดิมสนามคัด ยูโร
สนาม : สตาดิโอน ดีเอโก้ อาร์มันโด้ มาราโดน่า
ทัพอัซซูรี่ แชมป์เก่ารายการนี้ ลงสนามนัดล่าสุดพลาดท่าพ่ายต่อ ออสเตรีย ไป 0-2 ในเกมอุ่นเครื่องเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ส่วนทาง ทรี ไลอ้อนส์ ของกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต รองแชมป์เก่า ร่วงตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ หลังแพ้ให้กับ ฝรั่งเศส ไปแบบหวุดหวิด 1-2 เมื่อเดือนธันวาคม
เปิดฉากครึ่งแรก 3 นาที "อัซซูรี่" ทักทายก่อนจากจังหวะฟรีคิกทางฝั่งขวา โลเรนโซ เปลเลกรีนี ครอสบอลเข้าเขตโทษให้ ฟรานเชสโก้ อาแชร์บี้ สอดมาตวัดที่เสาแรกเสียดายโดนไม่เต็มหลุดออกหลัง
นาทีที่ 7 อังกฤษ ตอบโต้บ้าง บูคาโย่ ซาก้า เก็บบอลหน้ากรอบ 18 หลาฝั่งขวาพาแหวกเข้าเขตโทษได้ช่องล้มตัวซักก็ยังเบาไปตรงตัว จานลุยจิ ดอนนารุมม่า รับเอาไว้ได้ไม่พลาด
ต่อมานาทีที่ 12 จากจังหวะสวนกลับทางฝั่งขวา แจ็ค กรีลิช ฝากขึ้นมาให้ จู๊ด เบลลิ่งแฮม ลากจี้หาเขตโทษได้ช่องอัดเต็มข้อบอลติดปลายมือ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผวาปัดข้ามคาน
แต่แล้วจากจังหวะต่อเนื่อง "ทรี ไลอ้อนส์" ทะยานออกนำ 1-0 บูคาโย่ ซาก้า ครอสลูกเตะมุมทางฝั่งขวาโค้งเข้ากรอบ 6 หลาลึกมาเสาไกลถึง แฮร์รี่ เคน ซัดไปติดบล็อคเด้งเข้าทาง ดีแคลน ไรซ์ เก็บงานไม่พลาด
นาทีที่ 32 อิตาลี หวิดงานเข้า จอร์จินโญ่ เสียบอลหน้าพื้นที่อันตรายฝั่งซ้ายโดน คัลวิน ฟิลลิปส์ ฉกขึ้นมาเลือกหักข้อด้วยขวายัดเสาแรกพุ่งผ่านมือ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า หลุดออกไปนิดเดียว
ไม่หนำใจนาทีที่ 44 อังกฤษ ขยับหนีเป็น 2-0 จากจังหวะ แฮนด์บอล ของ โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ ผู้ตัดสิน ออกไปดู วีเออาร์ แล้วหันมาชี้เป็น จุดโทษ แฮร์รี่ เคน สังหารเข้าไปไม่พลาด
ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 45+1 แฮร์รี่ เคน พาบอลหลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวาเลือกถวายพานข้ามไปเสาไกลให้ แจ็ค กรีลิช หมูหกตั้งเท้าชาร์จแบบไร้ตัวประกบปลิ้นหลุดออกหลังเหลือเชื่อ
หมดครึ่งเวลาแรก อิตาลี 0 อังกฤษ 2
นาทีที่ 51 แชมป์เก่า พยายามเร่งเครื่อง มาร์โก แวร์รัตติ ยัดบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ มาร์โก แวร์รัตติ ตะบันยัดเสาแรกติดไซค์ก้อยปลิ้ยหลังเท้าหลุดออกไปไกล
5 นาทีต่อมา "อัซซูรี่" ไล่มา 1-2 แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เสียบอลหน้าประตูก่อนเป็น โลเรนโซ เปลเลกรีนี เก็บหน้ากรอบ 18 หลาฝั่งซ้ายหักข้อถวานพานเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ มาเตโอ เรเตกี สอดมาซัดผ่าน จอร์แดน พิคฟอร์ด ตุงตาข่าย
75 นาทีผ่าน "ทรี ไลอ้อนส์" อาการแย่ลงไปตั้งรับลึกต่อบอลขึ้นมาได้น้อย แกเร็ธ เซาธ์เกต พยายามแก้เกมแต่ไม่ดีขึ้นแถมยังไม่มีจังหวะซัดเพิ่มแม้แต่ครั้งเดียว
ต่อมานาทีที่ 80 อังกฤษ ต้องมาเหลือ 10 คนเป็น ลุค ชอว์ ผิดพลาดตัดฟาวล์ ผู้ตัดสิน ไม่มีทางเลือกชู ใบแดง ไล่ออกจากสนาม
หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม อิตาลี 1 อังกฤษ 2
รายชื่อนักเตะที่ลงสนาม
อิตาลี (4-3-3) : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า - โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, ฟรานเชสโก้ อาแชร์บี้, ราฟาเอล โตลอย, เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า - นิโคโล่ บาเรลล่า (ไบรอัน คริสตันเต้น.62), มาร์โก แวร์รัตติ (จานลูก้า สกามัคก้า น.88), จอร์จินโญ่ (ซานโดร โตนาลี น.69) - โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ (มัตเตโอ โปลิตาโน่ น.62), มาเตโอ เรเตกี, โลเรนโซ เปลเลกรีนี (วิลฟรีด ญอนโต้ น.69)
เทรนเนอร์ : โรแบร์โต้ มันชินี่
อังกฤษ (4-3-3) : จอร์แดน พิคฟอร์ด - ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์ - คัลวิน ฟิลลิปส์, ดีแคลน ไรซ์, จู๊ด เบลลิ่งแฮม (คอเนอร์ กัลลาเกอร์ น.85) - บูคาโย่ ซาก้า (รีซ เจมส์ น.85), แฮร์รี่ เคน, แจ็ค กรีลิช (ฟิล โฟเด้น น.69) (คีแรน ทริปเปียร์ น.81)
เทรนเนอร์ : แกเร็ธ เซาธ์เกต
ผู้ตัดสิน : เซอร์ดาน โยวาโนวิช (เซอร์เบีย)