ลิเวอร์พูล ในวันที่ไร้ไอเดียและหมดพลัง?!

ลิเวอร์พูล ในวันที่ไร้ไอเดียและหมดพลัง?!
เพียงสองวันหลังมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรก แดน เบิร์น ในวัย 32 ปีก็ตอบสนองด้วยการขึ้นโหม่งทำสกอร์ช่วงท้ายครั้งแรกที่ เวมบลี่ย์

มันเป็นประตูสำคัญที่พลิกความได้เปรียบให้แก่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด จนสิ้นเสียงนกหวีดยาวจบ 90 นาที "สาลิกาดง" เถลิงโทรฟี่ในประเทศครั้งแรกในรอบ 70 ปี

สำหรับ ลิเวอร์พูล อาจถึงขั้นพูดได้ว่า -ไร้พิษสง- บนสังเวียนนัดชิงฯ แรกในยุคเฮดโค้ชอาร์เน่อ

ลิเวอร์พูล เล่นแย่ ไร้พลังงาน ไม่มีไอเดีย และดูเหมือนยังจมกับความผิดหวังจากเกม เปแอสเช เมื่อกลางสัปดาห์

พวกเขาครองบอลได้มากกว่า นิวคาสเซิ่ล ก็จริง แต่ไม่สามารถสร้างสรรค์โอกาสได้ 

กองหน้าสามคน โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดีโอโก้ โชต้า และ หลุยส์ ดิอาซ ไม่มีบทบาททำเกม

ลิเวอร์พูล เองอาจเคยมีปัญหากับการเล่นครึ่งแรกในฤดูกาลนี้ แต่นี่เป็นครึ่งแรกที่แย่ที่สุดภายใต้การคุมทีมของ อาร์เน่อ

ซึ่งมันเป็นจุดเริ่มต้นของวันที่เลวร้าย...

การเสียประตูที่สองตอนต้นครึ่งหลังทำให้โอกาสกลับมาแทบหมดไป

แม้ตัวสำรองที่ลงมาทำให้ทีมดูดีขึ้น แต่มันก็ไม่เพียงพอ

...

กลยุทธ์ที่ เอ็ดดี้ ฮาว วางมือคือให้ แดน เบิร์น ผู้ซึ่งสูง 6 ฟุต 6 นิ้ว แยกไปประจำการสองสอง เพื่อหลีกเลี่ยงการเจอ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ อิบราฮิม่า โกนาเต้

แล้วกลายเป็น อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ที่สูง 5 ฟุต 9 นิ้วเป็นคนพยายามแมตช์อัปกับ เบิร์น

"ต้องให้เครดิต นิวคาสเซิ่ล อีกครั้ง แต่ผมสามารถอธิบายได้ เราเล่นระบบโซน ซึ่งหมายความว่าเรามีผู้เล่นห้าคนยืนประจำโซนใกล้กับประตูของเรา"

อาร์เน่อ พยายามอธิบายว่านี่คือแผนที่วางไว้ล่วงหน้า

"ถ้าบอลตกลงมาในพื้นที่นั้น มันจะมีผู้เล่นตัวใหญ่กว่าของเราหนึ่งในห้าคนเข้าไปถึงบอลเสมอ"

"นอกจากนี้ เรายังมีผู้เล่นสามคนที่ประกบตัวต่อตัว และ แม็ค อัลลิสเตอร์ เป็นหนึ่งในนั้น"

"ปกติแล้วผู้เล่นอย่าง แดน เบิร์น หรือใครก็ตามจะวิ่งเข้าไปในโซนของเรา และผมคิดว่าเขาเป็นข้อยกเว้น เพราะตลอดชีวิตของผม ผมไม่เคยเห็นใครโหม่งบอลจากระยะไกลขนาดนั้นแล้วส่งบอลเข้ามุมไกลได้ด้วยพลังขนาดนี้"

"ตามหลักการแล้ว พวกเขาจะต้องออกห่างจากโซนของเรา ซึ่ง 99 ใน 100 ครั้งมันจะไม่เป็นประตู หรือพวกเขาต้องเข้ามาในโซนของเรา ซึ่งจะพอฟัดพอเหวี่ยงกัน"

"ดังนั้น ต้องให้เครดิตเขา ผมคิดว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นไม่กี่คนที่สามารถทำประตูจากระยะนั้นได้ด้วยลูกโหม่ง"

ประตูนี้ไม่เพียงแต่สำคัญในแง่ของการขึ้นนำ แต่ยังเป็นประตูที่เต็มไปด้วยอารมณ์ 

เบิร์น เป็นแฟนบอล นิวคาสเซิล มาตั้งแต่เด็ก และเพิ่งได้รับการเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรก

...

การเคลื่อนที่ของ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ส่งผลต่อเกมรุก นิวคาสเซิ่ล เอามาก ๆ จริง ๆ 

เขาอาจจะไม่ได้มีส่วนร่วมกับบอลมากนักในช่วงบางเวลา ทว่าการเคลื่อนที่ของเขาส่งผลประโยชน์ต่อเกมรุก นิวคาสเซิ่ล 

ฮาว วางให้ อิซัค เคลื่อนไปทางด้านข้างและถอยต่ำ เป้าหมายหลักคือการเจอ จาเรลล์ ควอนซาห์ และดึง ฟาน ไดค์ กับ โกนาเต้ ออกจากตำแหน่ง

การเคลื่อนที่นี้ เปิดพื้นที่ให้ผู้เล่น นิวคาสเซิล คนอื่น ๆ สอดแทรกเติมเกมรุกได้

ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ กับ โชลินตอน ที่ประจำการฝั่งซ้ายสามารถตัดเข้าสู่พื้นที่ว่างที่ถูกสร้างขึ้น 

การเคลื่อนที่เหล่านี้นำไปสู่โอกาสทำประตูหลายครั้ง 

...

ลิเวอร์พูล ถูกกดดันตรงแดนกลาง ไม่สามารถควบคุมเกมได้เลย 

นิวคาสเซิ่ล แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น โดยเฉพาะ โชลินตอน ที่โดดเด่น เอาชนะการดวลและแย่งบอลกลับมาคืนได้

ขณะที่ ซานโดร โตนาลี่ และ บรูโน่ กีมาไรซ์ คอยซัพพอร์ต และขับเคลื่อนเกมรุก

จริงอยู่ว่า อาร์เน่อ ปฏิเสธว่าทีมของเขาขาดความกระหาย แต่สิ่งที่เรามองออกคือ นิวคาสเซิ่ล กระหายชัยชนะมากกว่า และเล่นด้วยความมุ่งมั่นที่สูงกว่าตลอดทั้งเกม

HOSSALONSO


ที่มาของภาพ : getty image
BY : Hossalonso
ธีรศานต์ คงทอง
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport