ลิเวอร์พูล พบ นิวคาสเซิ่ล: 5 ประเด็นหงส์ชวดแชมป์, สาลิกา เฮ

1. จบ 70 ปีที่รอคอย- ฮาว ผู้ยิ่งใหญ่

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ต้องรับบทพระรองมาตลอด 70 ปีที่ผ่านมา เมื่อพวกเขาเข้ารอบชิงทั้งเอฟเอ คัพ และ ลีกคัพ (คาราบาว คัพ) 5 ครั้ง แต่สุดท้ายก็ได้แค่ยืนมองผู้ชนะชูโทรฟี่แชมป์ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา

สำหรับตอนนี้สาวก "สาลิกาดง" และนักเตะสิ้นสุดการรอคอยซะที เพราะพวกเขาสามารถนำความสำเร็จมาประดับตู้โชว์ที่สนามเซนต์ เจมส์ พาร์ค ได้อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการปราบ ลิเวอร์พูล ไปอย่างสุดมัน

ความสำเร็จในครั้งนี้ต้องบอกว่ามันเติมเต็มความพยายามของเจ้าของและบอร์ดบริหารมาตลอด โดยเฉพาะ เอ็ดดี้ ฮาว ที่เข้ามาสร้างทีมได้อย่างแข็งแกร่ง และในฤดูกาลนี้ไม่ใช่แค่แชมป์คาราบาว คัพ เท่านั้น พวกเขายังมีลุ้นทำอันดับติดท็อปโฟร์ด้วย

สำหรับ ฮาว ต้องบอกว่าคือวีรบุรุษของ นิวคาสเซิ่ล อย่างแท้จริง และที่สำคัญเขายังทำให้ชาวอังกฤษแท้ๆ ได้ภาคภูมิใจ เพราะนี่คือผู้จัดการทีมชาวเมืองผู้ดีคนแรกที่ได้แชมป์นับตั้งแต่ แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ พา พอร์ทสมัธ คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ปี 2008 

2. อิซัค อันตรายทุกจังหวะ, แดนกลางโดดเด่น

แม้ว่า อเล็กซานเดอร์ อิซัค อาจจะไม่ได้ฟิตเต็มร้อย แต่การมีเขายืนอยู่ในสนามทำให้เกมรับของ ลิเวอร์พูล ต้องระมัดระวังให้ดี ซึ่งต้องบอกว่า สตาร์ชาวสวีดิช มีส่วนในการทำให้เกมบุกของ นิวคาสเซิ่ล อันตรายมากๆ

กองหน้าทีมชาติสวีเดน มีความฉลาดในการยืนหาตำแหน่ง และทุกครั้งที่ได้บอลสามารถครองบอลได้เหนียวแน่น และทำให้แนวรับของ "หงส์แดง" ต้องปั่นป่วน โดยเฉพาะครึ่งหลังที่ได้โอกาสส่งบอลซุกก้นตาข่าย แต่ดันล้ำหน้า

อย่างไรก็ตาม แค่ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น อิซัค แสดงให้เห็นถึงความเฉียบคมในการจบสกอร์ เมื่อได้จังหวะยิงโล่ง และเจ้าตัวก็ซัดเร็วทันทีบอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างงดงาม ต้องบอกเลยว่านี่คือดาวยิงที่คิดเร็วทำเร็วอย่างแท้จริง

ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจว่าในช่วงซัมเมอร์นี้ ประตูบ้านของสโมสรนิวคาสเซิ่ล คงไม่สงบแน่นอน เพราะน่าจะมีข้อเสนอจากทีมชั้นนำทั้งในอังกฤษ และยุโรปยื่นเข้ามาให้พิจารณา ส่วนนักเตะจะเลือกอยู่กับทีมต่อไป หรือออกไปหาความท้าทายใหม่ แฟน "เดอะ แม็กพายส์" ต้องลุ้นกันเอาเอง 

3. ตัวจริงน่าผิดหวัง

ต้องยอมรับว่าสองเกมที่ผ่านมา 11 ตัวจริงของ ลิเวอร์พูล เล่นแทบไม่ออก ทั้งในเกมที่ตกรอบ 16 ทีม ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และล่าสุดแพ้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในรอบชิงชนะเลิศ เกมคาราบาว คัพ 

ฟอร์มของ "หงส์แดง" ในตอนนี้ต้องบอกเลยว่าเร่งไม่ขึ้นจริงๆ ด้วยสภาพร่างกายที่กรอบไปหมด แถมคีย์แมนสำคัญอย่าง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ บาดเจ็บทำให้เกมรุกของทีมขาดประสิทธิภาพลงไปเยอะ ขณะที่เกมรับก็อ่อนยวบโดยเฉพาะการป้องกันลูกตั้งเตะโด่งทำได้น่าผิดหวังมากๆ

สองประตูที่เสียไปมาจากการโดนคู่แข่งเปิดบอลโด่งใส่ และนั่นคือจุดอ่อนที่ อาร์เน่อ สล็อต ต้องรีบแก้ไขเป็นการด่วน ขณะที่ จาเรลล์ ควอนซาห์ ซึ่งรับบทแบ็กขวาจำเป็น ต้องยกระดับผลงานขึ้นมาให้ดีกว่านี้ เพราะแมตช์นี้เจ้าตัวโดน "สาลิกาดง" เจาะเป็นว่าเล่น 

ขณะที่แผงมิดฟิลด์ตอนนี้บอกเลยว่าหมดสภาพ ทั้ง ไรอัน กราเฟนแบร์ก, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ โดมินิค โซโบซไล กรำศึกหนักเกินไปจนไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้เลย ส่วนแดนหน้าต้องบอกว่าน่าผิดหวังทั้งหมด โดยเฉพาะ ดีโอโก้ โชต้า ที่ไร้ความแข็งแกร่ง และไม่สามารถปั่นป่วนเกมรับ "สาลิกาดง" ได้เลย แถมยังทิ้งโอกาสทองช่วงทดเจ็บครึ่งแรกไปด้วย

4. เคียซ่า-เอลเลียตต์ ได้เวลาน้อยไปหน่อย

หนึ่งในเรื่องที่พอจะยิ้มได้บ้างสำหรับสาวก "เดอะ ค็อป" ก็คือผลงานของ เฟเดริโก้ เคียซ่า และ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ที่ลงสนามในช่วงราวๆ 20 นาทีสุดท้าย และสามารถสร้างอิมแพ็คให้กับเกมได้มากกว่าตัวสำรองคนอื่นๆ 

เคียซ่า แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น และทุ่มเทอย่างมาก พยายามเข้าบอลทุกจังหวะ และถ้ามีโอกาสจะใช้ความสามารถเฉพาะตัวในการเล่นงานเกมรับของ นิวคาสเซิ่ล ซึ่งหลายครั้งก็ทำให้คู่แข่งต้องเจอกับงานหนักในการรับมือ

สิ่งที่เห็นได้ชัดจากตัว เอลเลียตต์ ก็คือพลังในการเล่น โดยเฉพาะในยามที่ทีมตกเป็นรองแต่ไม่เคยหวาดหวั่น จะวิ่งทุกจังหวะ ตัดบอลเร็ว สร้างโอกาสตลอด สำหรับจังหวะที่ผ่านบอลให้ เคียซ่า หลุดเข้าไปซัดประตูตีไข่แตก ต้องบอกว่าทั้งแม่นยำและเฉียบคม 

น่าเสียดายที่ โค้ชอาร์เน่อ ส่งทั้งสองคนลงสนามช้าไปหน่อย ถ้าหากพวกเขามีเวลาอยู่ในสนามมากกว่านี้ มีความเป็นไปได้สูงที่เกมรุกของทีมจะมีมิติ และทำให้ นิวคาสเซิ่ล ต้องเปิดตำราตั้งรับจนหัวหมุนแน่นอน 

5. แชมป์แรกของ อาร์เน่อ ยังต้องรอไปก่อน 

ต้องนี้ ลิเวอร์พูล ตกรอบฟุตบอลถ้วยไปหมดแล้ว เหลือลุ้นเพียงแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เท่านั้น แม้พวกเขาจะนำห่าง 12 คะแนน และเหลือโปรแกรมเพียง 9 เกม แต่ในโลกฟุตบอลอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ ฉะนั้นห้ามประมาทเด็ดขาด

นายใหญ่ชาวดัตช์ มีโอกาสที่จะได้นำความสำเร็จแรกในฐานะกุนซือ "หงส์แดง" ประดับเกียรติยศทั้งกับตัวเองและสโมสร แต่น่าเสียดายที่ทำไม่สำเร็จ กระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะสูญเปล่า เพราะอย่างน้อยพวกเขาก็สู้เต็มที่ แถมเป็นม้านอกสายตามาตลอดนับตั้งแต่ผลัดเปลี่ยนยุคจาก คล็อปป์ สู่ อาร์เน่อ

หลายคนอาจมองว่า "บอสอาร์เน่อ" วางหมากพลาดในเกมนี้ ซึ่งก็มีส่วนจริง แต่สิ่งที่ทำให้แฟนหงส์แดงประทับใจก็คือความเร็วและกล้าในการแก้เกม งานนี้ต้องบอกว่าแม้จะเสี่ยงแต่ก็เป็นการเสี่ยงที่น่าประทับใจ แถมเกือบทำสำเร็จด้วย

การชวดแชมป์คาราบาว คัพ อาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของนักเตะ เพราะพวกเขาก็เพิ่งร่วงตกรอบ 16 ทีมแชมเปี้ยนส์ ลีก เดชะบุญที่มีช่วพักเบรกทีมชาติเข้ามาขั้นพอดี และนี่จะเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ อาร์เน่อ กับทีมสตาฟฟ์ มีเวลาขบคิดและแก้ปัญหา พอถึงเวลากลับมาแข่งเกมลีก พวกเขาจะได้ไม่ผิดพลาดในเกมลีก 

ทอมเม้ง