คู่ชิงลีกคัพฤดูกาลนี้น่าดูมาก ๆ เลยนะครับ
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด..
ทีมสาลิกาดงห่างหายจากแชมป์ในประเทศมา 70 ปี ระหว่างนั้นได้เข้าชิงเอฟเอ คัพ 3 ครั้ง ลีก คัพ 2 ครั้ง และลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในช่วงกลางทศวรรษ 1990
ลงเอยด้วยความผิดหวังทั้งหมด..
ผมเชื่อว่านัดชิง ลีก คัพ ฤดูกาล 2024/25 ในวันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคมที่จะถึงนี้ แฟนบอลสาลิกาดงกลุ่มต่าง ๆ ในบ้านเราคงจะจัดมีตติ้งเชียร์ทีมรักกันอย่างมีความสุข
ได้เจอหน้าเจอตากัน ได้ร่วมใจเชียร์นิวคาสเซิ่ลด้วยกัน และมันยิ่งพิเศษตรงที่ความผิดหวังอันยาวนานนั้นยิ่งบ่มให้การรอคอยนี้มีคุณค่าขึ้นไปอีก
ทุกคนจะยิ่งมีความฝันเดียวกัน มีความปรารถนาเหมือนกัน นั่นคือการเชียร์ทีมให้ปลดล็อก 7 ทศวรรษแห่งความห่อเหี่ยว พอสักทีกับคำชมมากมายแต่ไร้รางวัลเกียรติยศ
เพราะทุก ๆ คนหรือเกือบทุกคนในวันนี้ น่าจะไม่เคยมีใครมีประสบการณ์ฉลองแชมป์ร่วมกับทีมรักมาก่อน
แชมป์อินเตอร์ ซิตี้ แฟร์ส คัพ ฤดูกาล 1968/69 ก็ยังห่างไกลจากการรับรู้ และมันก็ยังเกิดขึ้นนานเกือบ 60 ปีเข้าไปแล้วเหมือนกัน
แชมป์อินเตอร์โตโต้ คัพ หรือแชมป์ลีกแชมเปี้ยนชิพที่ได้เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดอาจเป็นความรู้สึกที่ใกล้เคียง แต่มันก็ยังเป็นคนละเรื่องกับการคว้าแชมป์ที่มีโทรฟี่จริง ๆ จัง ๆ ได้ชื่อว่าเป็นแชมป์อย่างจริง ๆ จัง ๆ
เข้าชิงลีก คัพได้ 2 ครั้ง ลงเอยด้วยการเป็นผู้แพ้ทั้งหมด
แพ้ แมนซิตี้ 1-2 ในนัดชิงปี 1976
แพ้ แมนยูไนเต็ด 0-2 ในนัดชิงปี 2023
สถิติของทีมสาลิกาดงคือ 0-2 สำหรับลีก คัพ ไฟนั่ล และถ้ารวมนัดชิงเอฟเอ คัพ 3 ครั้งล่าสุดของตัวเองที่แพ้ทั้งหมดในปี 1974, 1998 และ 1999 เข้าไปด้วย สถิติชิงบอลถ้วยในประเทศของนิวคาสเซิ่ลนับตั้งแต่เป็นแชมป์เอฟเอ คัพปี 1955 คือ 0-5..
ชิง 5 แพ้ 5 ตลอดระยะเวลา 70 ปีที่ผ่านมา
เพราะฉะนั้น ในงานใด ๆ ก็ตามที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 16 มีนาคม ทูนอาร์มี่ทุกคนล้วนจะมีสิ่งหนึ่งร่วมกัน นั่นคือเรามาเพื่อฉลองแชมป์ร่วมกับทีม.. เป็นครั้งแรก
เกิดไม่ทันกันไม่เป็นไรเลย จะคุณพี่ คุณหลาน คุณลุง คุณน้า คุณน้อง หรือคุณปู่ในงาน.. ไม่มีใครเคยมีประสบการณ์นี้ด้วยกันทั้งนั้น
มันก็เป็นอารมณ์ร่วมที่ทรงพลังในอีกภาพหนึ่งอยู่เหมือนกันนะครับ
ในรอบ 70 ปีที่แฟนบอลนิวคาสเซิ่ลได้แต่รอ และรอ และรอ พวกเขาได้แต่ทนเห็นแฟนบอลทีมอื่น ๆ เขาฉลองกันอย่างมีความสุข
ทีมใหญ่ ๆ นั้นหายห่วงได้ฉลองกันเรื่อย ๆ บางทีมฉลองจนเบื่อ แต่กระทั่ง ซันเดอร์แลนด์ คู่ปรับตลอดกาลก็ยังได้ฉลองแชมป์เอฟเอ คัพ อย่างรื่นเริงเมื่อปี 1973 หรือ มิดเดิ้ลสโบรช์ ทีมบ้านใกล้เรือนเคียงแดนอีสานก็ยังเถลิงแชมป์ลีก คัพ เมื่อปี 2004
นิวคาสเซิ่ลไม่ได้มีบรรยากาศอย่างนั้นเลย แชมป์ลีกสูงสุด 4 สมัยฤดูกาล 1904/05, 1906/07, 1908/09, 1926/27 แชมป์เอฟเอ คัพ อีก 6 ครั้ง ฤดูกาล 1909/10, 1923/24, 1931/32, 1950/51, 1951/52 และ 1954/55 มีเพียงกองเชียร์รุ่นทวด พ่อของทวด และปู่ของทวดเท่านั้นนั่นแหละที่เคยได้สัมผัสมัน
ทั้งสัมผัสที่ว่าในยุคนั้นก็ยังไม่ได้ข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงแดนไกลอย่างบ้านเราอีกต่างหาก
แฟนบอลนิวคาสเซิ่ลมีความรู้สึกอย่างไรกันบ้างนะกับความรักอันซื่อสัตย์และการรอคอยที่ยาวนานนี้ แน่นอนครับเรื่องเปลี่ยนทีมเชียร์ลืมไปได้เลย ความรักในทีมฟุตบอลเป็นหนึ่งในเรื่องที่แปลกประหลาดที่สุดในโลก กระทั่งไม่มีความสำเร็จใด ๆ ก็แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเปลี่ยนใจจากทีมเชียร์
ความพ่ายแพ้ต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในนัดชิงลีก คัพ ฤดูกาล 2022/23 มองในด้านหนึ่งคือความผิดหวัง แต่อีกด้านหนึ่งก็อย่างที่บอกนะครับ มันบ่มอารมณ์ทูนอาร์มี่ให้ยิ่งเข้มข้น
ทูนอาร์มี่ทุกคนคงอยากจะมีวินาทีที่ได้เปล่งเสียงตะโกนสุดคอตอนกัปตันทีมรับถ้วยแชมป์จากประธานในงานแล้วหันกลับมาชูมันขึ้นอวดสายตากับเขาบ้าง
อยากมีโมเมนต์อย่างนั้นบ้าง มันจะเป็นอารมณ์แบบไหนกันนะ ก็เกือบทุกคนในกองเชียร์รุ่นปัจจุบันไม่เคยมีใครได้สัมผัสกับมันเลยนี่หว่า
วินาทีนั้นต่างหากที่พวกเขาใฝ่ฝัน วินาทีนั้นต่างหากที่พวกเขาปรารถนาจะได้สัมผัสกับมันสักครั้ง
ฝันเป็นจริงเมื่อไหร่ความสุขคงระเบิดทะลักทลาย พรั่งพรู และมีน้ำตา..
ลิเวอร์พูล
ทีมหงส์แดงทะยานเข้าสู่นัดชิงลีก คัพได้อีกครั้งหลังถล่ม สเปอร์ส ขาดลอย 4-0 ที่แอนฟิลด์เมื่อคืนวันพฤหัสฯ
เป็นการเข้าชิงฤดูกาลที่ 2 ติดต่อกัน และเข้าชิงครั้งที่ 3 ในรอบ 4 ปี
ลิเวอร์พูลคือเจ้าแห่งลีก คัพ พวกเขาคือทีมที่ได้แชมป์มากที่สุด (10 สมัย) และยังเข้าชิงบ่อยที่สุด รวมครั้งนี้ด้วยก็เป็นสมัยที่ 15 เข้าไปแล้ว
ฟุตบอลลีก คัพเริ่มมีขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อฤดูกาล 1960/61 ใช้ชื่อว่า ลีก คัพ หลังจากนั้นก็เปลี่ยนชื่อตามผู้สนับสนุนทั้งสิ้น 8 ครั้ง รวมถึง คาราบาว ในข้อตกลงปัจจุบันที่จะผูกมัดกันไปถึงฤดูกาล 2026/27 ด้วย
ในจำนวนผู้สนับสนุนทั้ง 8 รายนั้น ลิเวอร์พูลเข้าชิงในชื่อผู้สนับสนุนถึง 7 ราย
มิลค์ คัพ (1981-1986) ชิง 4 ครั้ง (1980/81, 1981/82, 1982/83, 1983/84)
ลิตเติลวู้ดส์ คัพ (1986-1990) ชิง 1 ครั้ง (1986/87)
รัมเบโลว์ส คัพ (1990-1992) ชิง 0 ครั้ง
โคคา-โคลา คัพ (1992-1998) ชิง 1 ครั้ง (1994/95)
เวิร์ทธิงตัน คัพ (1998-2003) ชิง 2 ครั้ง (2000/01, 2002/03)
คาร์ลิ่ง คัพ (2003-2012) ชิง 2 ครั้ง (2004/05, 2011/12)
แคปิตอล วัน คัพ (2012-2016) ชิง 1 ครั้ง (2015/16)
คาราบาว คัพ (2017-2027) ชิง 3 ครั้ง (2021/22, 2023/24, 2024/25)
(ฤดูกาล 1977/78 ที่ลิเวอร์พูลได้เข้าชิงเป็นครั้งแรกนั้น ตัวรายการยังไม่มีผู้สนับสนุนจึงใช้เพียงชื่อ ลีก คัพ)
เข้าชิงเกือบทุกผู้สนับสนุนตลอดระยะเวลา 64 ปีของตัวรายการ ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมเท่านั้นแต่ยังบ่งบอกถึงความสม่ำเสมอ สามารถผ่านเข้าชิงได้ทุกช่วงยุคของรายการด้วย
สถิติ "ที่สุด" ของลิเวอร์พูลกับรายการลีก คัพ
- เข้าชิงมากที่สุด 14 สมัย (ยังไม่รวมครั้งนี้)
- ได้แชมป์มากที่สุด 10 สมัย
- คว้าแชมป์ติดต่อกันนานที่สุด 4 ปีซ้อน
- ลงเตะมากที่สุด 259 เกม (แอสตัน วิลล่า 258 เกม)
- ชนะมากที่สุด 151 เกม (เท่ากับ แอสตัน วิลล่า)
- ยิงประตูมากที่สุด 538 ประตู
- ผลต่างประตูได้เสียดีที่สุด +267 ประตู
- นักเตะที่ลงเล่นมากที่สุด เอียน รัช 80 เกม
- นักเตะที่ทำประตูมากที่สุด เอียน รัช 49 ประตู
- นักเตะที่ลงเล่นในนัดชิงมากที่สุด เอียน รัช 6 ครั้ง
- ชนะขาดลอยที่สุด ถล่มฟูแล่ม 10-0 รอบสอง นัดแรก ฤดูกาล 1986/87
เชลซี คือทีมที่ ลิเวอร์พูล เจอบ่อยที่สุดในนัดชิงรายการนี้ มันเกิดขึ้นทั้งหมด 3 ครั้ง ลิเวอร์พูลมีสถิติชนะ 2 แพ้ 1
รองลงมาคือชิงกับแมนยูไนเต็ด 2 ครั้ง สถิติชนะทั้ง 2 หน
นอกจากเชลซีในปี 2005 แล้วมีเพียง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (1978), อาร์เซน่อล (1987) และ แมนซิตี้ (2016) เท่านั้นที่เอาชนะลิเวอร์พูลได้ในนัดชิงลีก คัพ
ลิเวอร์พูล พบ นิวคาสเซิ่ล
นี่คือการพบกันในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลลีก คัพ เป็นครั้งแรกระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
ความเกรียงไกรของลิเวอร์พูลในรายการนี้เมื่อเปรียบเทียบกับ นิวคาสเซิ่ล คู่ชิงที่เวมบลีย์ในวันที่ 16 เดือนหน้าแล้ว มันจึงเป็นคู่ชิงแห่งความแตกต่าง
ทีมหนึ่งชิง 14 แชมป์ 10.. อีกทีมหนึ่งชิง 2 ครั้ง แพ้ทั้ง 2 ครั้ง
ผลงานที่ผ่านมาและประสบการณ์ในฟุตบอลถ้วยนัดชิงชนะเลิศอาจเป็นคนละเรื่อง แต่ฟุตบอลนัดเดียวอะไรก็เกิดขึ้นได้
ลิเวอร์พูลไม่ได้คว้าแชมป์แบบสบาย ๆ ใน 10 สมัยที่ทำได้ พวกเขาได้แชมป์ในเวลาปกติ 90 นาทีเพียง 2 หนเท่านั้นเองนะครับ (ชนะโบลตัน 2-1 ปี 1995 และชนะแมนฯ ยูไนเต็ด 2-0 ปี 2003)
ทีมหงส์แดงได้แชมป์ในเกมแข่งใหม่ 2 ครั้ง ได้แชมป์หลังต่อเวลาพิเศษ 3 ครั้ง และได้แชมป์ด้วยการยิงจุดโทษตัดสินอีก 3 ครั้ง
แพ้ในเกมรีเพลย์ 1 ครั้ง (ฟอเรสต์ 1978) แพ้หลังต่อเวลาพิเศษ 1 ครั้ง (เชลซี 2005) และแพ้การดวลจุดโทษตัดสินอีก 1 ครั้ง (แมนฯ ซิตี้ 2016)
นัดชิงลีก คัพ ไม่เคยสบายสำหรับลิเวอร์พูล แต่พวกเขาก็ฝ่าฟันมันมาได้ด้วยผลงานชนะ 10 แพ้ 4 กลายเป็นทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของรายการนี้
หากก็นั่นล่ะครับ นี่คือฟุตบอลนัดเดียวที่อะไรก็เกิดขึ้นได้ ผลงานและความน่าไว้วางใจที่ผ่านมาไม่มีอะไรการันตีว่าคุณจะเป็นผู้ชนะแน่ ๆ
และมันยังไม่รวมถึงมาตรฐานฟุตบอลของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่พัฒนาขึ้นมามากในช่วง 2-3 ปีหลังด้วย
เอ๊ดดี้ ฮาว พาทีมติด 4 อันดับแรกในพรีเมียร์ลีกไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ขณะที่ในรายการ ลีก คัพ นี้ก็ทะลุเข้าชิงเป็นหนที่ 2 ในรอบ 3 ปีแล้ว ดีขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยชิงฟุตบอลถ้วยในประเทศ 5 ครั้งในรอบ 70 ปี หรือ 14 ปีต่อการเข้าชิง 1 ครั้งมาก
ในประวัติศาสตร์ของรายการลีก คัพ ยังไม่เคยมีทีมไหนแพ้รวดในการเข้าชิง 3 ครั้งแรกของตัวเองมาก่อน..
แมนยูไนเต็ด แพ้ใน 2 ครั้งแรก ทำสำเร็จในการชิงครั้งที่ 3
อาร์เซน่อล แพ้ใน 2 ครั้งแรก ทำสำเร็จในการชิงครั้งที่ 3
มิดเดิลสโบรช์ แพ้ใน 2 ครั้งแรก ทำสำเร็จในการชิงครั้งที่ 3
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, เอฟเวอร์ตัน, โบลตัน วันเดอเรอร์ส, ซันเดอร์แลนด์ และ เซาธ์แฮมป์ตัน แพ้ในการเข้าชิงทั้ง 2 ครั้งของตัวเอง และยังไม่มีโอกาสได้แก้ตัวในการชิงครั้งที่ 3
แต่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ได้รับโอกาสนั้น
วันที่ 16 เดือนหน้า พวกเขาจะต่อสู้เพื่อเกียรติยศที่รอคอยโดยมีทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของรายการเป็นคู่ต่อกร
ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างไร เกมนี้ก็น่าดูเหลือเกินนะครับ
-ตังกุย-