บทเรียนที่ได้รับจากเกมนี้! สิ่งที่อยากบอกหลัง แมนยู ถอนแค้น วิลล่า

บทเรียนที่ได้รับจากเกมนี้! สิ่งที่อยากบอกหลัง แมนยู ถอนแค้น วิลล่า
แมนฯ ยูไนเต็ด ถอนแค้นจาก แอสตัน วิลล่า ได้แบบติดจรวดในศึก น้าแอ๊ด คัพ รอบ 3 ที่ครึ่งแรกกับครึ่งหลัง มันแตกต่างกันอย่างกับหนังคนละม้วน

บอลแข่งตี 3 ตามเวลาประเทศไทย ครึ่งแรกเล่นกันน่าง่วงนอนชิบหาย โดยแทบจะหาจังหวะทำประตูกันไม่ได้ ก่อนที่ครึ่งหลังอัตราความเมามันจะกระฉูดแตก และถล่มตาข่ายกันกระจายถึง 6 ประตู

1. นี่คือถ้วย มิคกี้เม้าส์ คัพ สำหรับน้องๆ หนูๆ ก็จริง แต่เพราะ แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่งแพ้ แอสตัน วิลล่า มาหมาดๆ ขืนแพ้อีกแบบคาบ้าน มันคงดูไม่จืด

เพราะฉะนั้น เอริค เทน ฮาก จึงยังไม่กล้าเอาพวกดาวรุ่งจากโรงเรียนลูกกรอกคะนองลงไปหาประสบการณ์ โดยจัดทีมชุดผสม เพื่อไม่ให้อ่อนเกินไปนัก

ตัวหลักอย่าง ดาบิด เด เคอา, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ลุค ชอว์,  กาเซมิโร่, คริสเตียน เอริคเซ่น และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้พัก

มาร์ติน ดูบราฟก้า ได้ลงเฝ้าเสาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ย้ายมา

แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กับ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ เป็นเซ็นเตอร์แบ็คคู่กัน

แดนกลาง คู่หู 'แม็คเฟร็ด' กลับมาอีกครั้งพร้อมความสะพรึงของเด็กผี มิหนำยังส่ง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ลงไปเป็นหน้าต่ำอีกคนพลางขยับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ออกไปทางขวา มาร์คัส แรชฟอร์ด ทางซ้าย

หน้าเป้าได้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กลับมา

ตอนเห็นรายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริง ผมรำพึงกับตัวเองเป็นภาษาคลิงก้อนโบราณว่า...

'เจ๊ตเข้...นี่มันทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ชัดๆ'

2. พลพรรคปีศาจแดงคุมเกมได้มากกว่าก็จริงนะครับ แต่การบุกของพวกเขาแทบไม่ได้สร้างความลำบากใจอะไรให้ผู้มาเยือนเลยสักนิดเดียว

เกมรุกไร้ไอเดียขนาดสากกะเบือยังต้องยกมือไหว้ ขอโทษ...นี่ขนาด แอสตัน วิลล่า แสดงความผิดพลาดออกมาเป็นระยะ ทว่าเจ้าบ้านมีโอกาสทำประตูแบบไม่หวาดเสียวเท่าไหร่แค่ 3-4 ครั้งเท่านั้น

ถามว่าเพราะอะไร ???

พุทโธ่...ก็ดู 'ห้องเครื่อง' ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ซีครับคุณ

สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ เฟร็ด ซึ่งผมคงไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรมาก แล้วยังแถม ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค เข้าไปอีกคนที่ไม่ใช่ตัวสร้างสรรค์เกมรุกอะไรอยู่แล้ว ซึ่งขอเรียนตามตรงว่าเหมือนลงให้มันครบ 11 คนซะมากกว่า

แต่ด้วย แอสตัน วิลล่า ก็ไม่ใช่ทีมชุดใหญ่แบบเต็มอัตราศึกเช่นกัน นั่นคือเหตุผลที่บอกว่าทำไมผู้เล่นปีศาจแดงชุดนี้ถึงยังพอครองบอลได้มากกว่า ก่อนจบครึ่งแรกแบบจืดชืด

3. ความเมามันบังเกิด หลังจากทีมเยือนขึ้นนำอย่างรวดเร็วในช่วงต้นครึ่งหลังครับ

จังหวะนั้นถ้าดูจากภาพช้าจะพบว่าผู้เล่นสิงห์ผยองทำแฮนด์บอลก่อน โอลลี่ วัตกิ้นส์ จะหลุดเข้าไปยิง แต่เพราะในรอบนี้ยังไม่มี VAR ขณะที่ผู้ตัดสินอังกฤษคุณภาพบัดซบอยู่แล้ว

แมนฯ ยูไนเต็ด เลยต้องเสียประตูด้วยประการฉะนี้

กระนั้นมันกลับกลายเป็นการปลุกให้พวกเขาตื่นจากภวังค์ ว่าแล้วก็อาศัยจังหวะที่คู่แข่งกำลังหลงระเริงไล่ตีเสมอได้อย่างทันควัน

หลังตีเสมอเป็น 1-1 เจ้าบ้านดูคึกคักและฮึกหาญมากขึ้นพลางเร่งเกมรุกเข้าใส่อยู่พักหนึ่ง ก่อนเครื่องค่อยๆ เบาลงไป

ทันใด ดิโอโก้ ดาโลต์ ก็กระทุ้งระยะเผาขนช่วยให้ แอสตัน วิลล่า ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1

จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ตรงนี้นี่แหละครับ

4. เมื่อเป็นฝ่ายตามหลังอีกครั้ง เอริค เทน ฮาก ก็เปลี่ยนตัวมีเดียว 3 คน โดยถอด เฟร็ด กับ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ออกแล้วส่ง คริสเตียน เอริคเซ่น กับ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ลงไปแทน

เช่นเดียวกับถอด อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ออกแล้วส่ง แอนโธนี่  อีลันก้า ลงไปแทน โดยขยับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ไปยืนหัวหอกพลางหุบ บรูโน่ แฟร์นันด์ส เข้ามาสวมตำแหน่งหมายเลข 10 เหมือนเดิม

ส่วนทางริมเส้นด้านซ้ายให้ไอ้หนูอาร์เจนติน่ารับหน้าที่กระชากลากเลื้อย

เกมของปีศาจแดงดุดันขึ้นทันตาเห็นพลางบุกกระหน่ำเป็นระลอก ก่อนที่ 'แรชชี่' จะตีเสมอเป็น 2-2 ตามมาด้วยการจ่ายบอลเร็วของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ จะจ่ายบอลเร็วให้ 'บรูโน่' ยิงแซงเป็น 3-2

5. หลังพลิกสถานการณ์ขึ้นมาเป็นฝ่ายนำบ้าง เอริค เทน ฮาก ก็แสดงให้เห็นถึงความรอบคอบ ด้วยการส่งมิดฟิลด์ตัวรับอย่าง กาเซมิโร่ กับปราการหลังเจ้าของสมญา 'เดอะ บุตเชอร์' ลงมาช่วยให้เกมรับแน่นขึ้นอีก

แมนฯ ยูไนเต็ด ยกระดับตัวเองขึ้นมาได้ในครึ่งหลังนะครับ ขณะที่กุนซือหัวหลอดไฟก็แก้เกมและเปลี่ยนตัวได้ไฉไล

บทเรียนที่ได้รับจากเกมนี้ คือกรุณาอย่าส่ง 3 มิดฟิลด์ระดับเทพอย่าง แม็ค เฟร็ด และเดอ เบ็ค ลงเล่นพร้อมกันเด็ดขาด !!!

บอ.บู๋


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : บอ.บู๋
บูรณิจฉ์ รัตนวิเชียร
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport