เกมระดับสถิติ! เกร็ดนัดชิงชนะเลิศ คาราบาว คัพ

เกมระดับสถิติ! เกร็ดนัดชิงชนะเลิศ คาราบาว คัพ
วันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ ศึกคาราบาว คัพ ประจำฤดูกาล 2023-24 มาถึงตอนจบกันแล้ว เมื่อ ลิเวอร์พูล กับ เชลซี จะต้องดวลกันในนัดชิงชนะเลิศที่สนาม เวมบลีย์ ซึ่งมันเป็นเกมที่หลายคนให้ความสนใจอย่างมากเพราะนอกจากจะเป็นนัดชิงดำแล้วนั้นนี่ยังเป็นการดวลกันของ 2 ทีมใหญ่ของอังกฤษอีก

ทั้งนี้ ลิเวอร์พูล คือทีมที่ได้แชมป์รายการนี้มากที่สุดที่จำนวน 9 สมัย ขณะที่ เชลซี เคยได้สัมผัสกับแชมป์รายการนี้ 5 หน และเนื่องในโอกาสพิเศษนี้ วันนี้เราเลยมีเกร็ดสำหรับเกมวันอาทิตย์นี้มานำเสนอสักหน่อย

- ตัดสินแชมป์กันบ่อย

ด้วยความที่ทั้ง ลิเวอร์พูล และ เชลซี ต่างก็เป็นทีมชั้นนำและมีขุมกำลังแข็งแกร่งอย่างมาก ทำให้มันไม่น่าแปลกใจที่พวกเขามักจะผ่านเข้าถึงรอบลึกๆ ของรายการฟุตบอลถ้วยภายในประเทศได้ และบางครั้งทั้งคู่ก็โคจรมาเจอกันเองอีก

ที่จริงแล้ว นี่จะถือเป็นครั้งที่ 5 ที่ ลิเวอร์พูล กับ เชลซี ได้ดวลกันในนัดชิงชนะเลิศของเกมฟุตบอลถถ้วยในอังกฤษ ต่อจาก ลีก คัพ ปี 2005, เอฟเอ คัพ ปี 2021, คาราบาว คัพ ปี 2002 และ เอฟเอ คัพ ปี 2022 ทำให้นี่ถือเป็นคู่ที่เจอกันในนัดชิงดำของฟุตบอลถ้วยภายในประเทศบ่อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลอังกฤษเลยทีเดียว

- ผลงานเฉพาะถ้วยนี้

หากนับรวมการเจอกันในรายการนี้แล้วนั้น มันก็ต้องบอกว่า เชลซี มีสถิติดีกว่า ลิเวอร์พูล นิดหน่ออย เพราะพวกเขาเป็นฝ่ายชนะได้ถึง 4 หนจากการเจอกัน 7 นัด อย่างไรก็ตาม ครั้งล่าสุดก่อนหน้านี้ที่คู่นี้เจอกันในถ้วย คาราบาว คัพ ก็เป็น ลิเวอร์พูล ที่ได้เฮ เพราะพวกเขาชนะในช่วงดวลเป้าด้วยสกอร์ 11-10 ในนัดชิงชนะเลิศเมื่อปี 2022 จนทำให้ได้แชมป์ไปเชยชม

- เชลซี จะหนีสถิติได้หรือไม่ ?

การแพ้นัดชิงชนะเลิศแค่หนเดียวก็ถือว่าน่าเจ็บปวดมากพออยู่แล้ว เพราะมันหมายความว่าการทำงานตลอดรอบที่ผ่านๆ มาแทบจะสูญเปล่า และคุณก็ต้องพลาดถ้วยแชมป์ทั้งที่มันวางอยู่ตรงหน้า

อย่างไรก็ตาม พักหลังมานี้ เชลซี เจอกับประสบการณ์แบบนั้นบ่อยเป็นพิเศษ เพราะใน 5 ครั้งหลังสุดที่พวกเขาเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศของรายการฟุตบอลถ้วยภายในประเทศได้นั้น "สิงห์บลูส์" เป็นฝ่ายแพ้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลีก คัพ ปี 2019, เอฟเอ คัพ ปี 2020, เอฟเอ คัพ ปี 2021, คาราบาว คัพ ปี 2022 และ เอฟเอ คัพ ในปี 2022

ด้วยเหตุนี้ ถ้าหากวันอาทิตย์นี้ทีมดังของกรุงลอนดอนต้องออกจากสนามในฐานะรองแชมป์อีกครั้งแล้วล่ะก็ พวกเขาก็จะเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลอังกฤษที่แพ้นัดชิงชนะเลิศของรายการฟุตบอลถ้วยภายในประเทศมากถึง 6 นัดติดต่อกัน หากนับเฉพาะรายการระดับเมเจอร์

- ลิเวอร์พูล จะตามรอยรุ่นพี่ได้หรือไม่

เส้นทางสู่ เวมบลีย์ ของ ลิเวอร์พูล ในศึก คาราบาว คัพ ประจำซีซั่นนี้นั้น มันไม่มีเกมไหนเลยที่พวกเขาเก็บคลีนชีทได้ ไม่ว่าจะเป็นรอบ 3 ที่ชนะ เลเสอตร์ ซิตี้ 3-1, รอบ 4 ที่เฉือน บอร์นมัธ 2-1, รอบก่อนรองชนะเลิศที่พิชิต เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 5-1 รวมถึงรอบรองชนะเลิศทั้ง 2 เกมที่ ชนะ ฟูแล่ม 2-1 และเสมอกับ "เจ้าสัวน้อย" 1-1

แน่นอน การเสียประตูบ่อยมันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตหากสุดท้ายแล้วทีมได้รับชัยชนะ ซึ่งหากเกมในวันอาทิตย์นี้พวกเขาเสียประตูแต่ยังเป็นฝ่ายชนะ มันก็จะทำให้ทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นรายที่ 4 ที่ได้แชมป์ คาราบาว คัพ ในแบบที่เก็บคลีนชีทไม่ได้แม้แต่นัดเดียว โดย 3 ทีมก่อนหน้านี้ที่ทำแบบนั้นได้คือ เวสต์บรอม วิชอัลเบี้ยน ชุดฤดูกาล 1965-66, เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ตอนซีซั่น 2010-11 และ แมนฯ ซิตี้ ชุดฤดูกาล 2015-16


- เด็กเกร็ดบอล -


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : เด็กเกร็ดบอล
เด็กเกร็ดบอล
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport