แมนฯ ยูไนเต็ด ยังโชว์ฟอร์มเลวร้ายอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แม้จะได้เล่นในบ้านต่ออีกเกม แต่ไม่วายโดน นิวคาสเซิ่ล คู่ชิงชนะเลิศถ้วย คาราบาวคัพ ซีซั่นก่อนบุกมายำเละ 3-0 ในเกมรอบสี่เมื่อวันพุธที่ 1 พ.ย.กระเด็นตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายแบบง่ายดายสิ้นดี เป็นการสานต่อความตกต่ำในซีซั่นนี้อย่างน่าเป็นห่วงแทนอนาคตของ เอริค เทน ฮาก เป็นอย่างยิ่ง
1. ผีโรเตชั่นบานดร็อป3สตาร์ดัง
แมนฯ ยูไนเต็ด เปลี่ยนทีมมากถึงเจ็ดรายจากเกมดาร์บี้แมตช์นัดแพ้ แมนฯ ซิตี้ คารัง 3-0
ในจำนวนนี้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส , ราสมุส ฮอยลุนด์ และ มาร์คัส แรชฟอร์ด หล่นไปนั่งข้างสนามร่วมกับ โซฟียาน อัมราบัต , คริสเตียน เอริคเซ่น ,สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และ จอนนี่ อีแวนส์ ขณะที่ ราฟาแอล วาราน ไม่มีส่วนร่วมเนื่องจากป่วย
กระนั้นก็ดี ผีแดง ได้ กาเซมีโร่ ฟิตกลับมารับบทกัปตันออกสตาร์ตร่วมกับ ฮันนิบาล เมจบรี้ และ เมสัน เมาท์ ขณะที่สามตัวรุกประกอบไปด้วย อันโตนี่ , อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และ อเลฮานโดร การ์นาโช่
ในส่วนของแผงหลัง เจ้าบ้านส่ง วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ กลับมาสวมบทเซ็นเตอร์ฮาล์ฟร่วมกับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ โดยที่ เซร์คิโอ เรกีลอน ลงเล่นเป็นแบ็คซ้าย ขณะที่ อารอน วาน บิสซาก้า หายเดี้ยงมีชื่อนั่งสำรอง
2. ดูบราฟก้า คัมแบ็คโรงละคร
นิวคาสเซิ่ล ปรับทัพตามคาดเช่นกันรวมแปดรายจากเกมลีกบุกไปเสมอกับ วูล์ฟส์ 2-2 เมื่อวันเสาร์โดยเกมนี้ มาร์ติน ดูบราฟก้า ถูกส่งลงเฝ้าตาข่ายเป็นเกมแรกของซีซั่นในการคัมแบ็คสู่ โรงละครแห่งความฝัน เนื่องจากเขาเคยถูก ผีแดง ยืมมาใช้งาน และได้ลงเล่นเกม คาราบาวคัพ สองนัดที่สนามแห่งนี้เมื่อซีซั่นก่อน
อย่างไรก็ดี สาลิกาดง ซึ่งไร้กองหน้าคนเก่ง อเล็กซานเดอร์ อิซัก ที่เจ็บขาหนีบ รวมทั้ง สเวน บ็อตมัน และ เจค็อบ เมอร์ฟีย์ ที่เจ็บเข่าและหลังวางหมากห้ากองหลังรับมือกับแชมเปี้ยนโดยส่ง เอมิล คราฟท์ , ติโน่ ลิฟราเมนโต้ , พอล ดัมเม็ตต์ , แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์ และ ลูอิส ฮอลล์ ลงบู๊พร้อมกัน
ขณะเดียวกัน เอ็ดดี้ ฮาว มอบปลอกแขนกัปตันให้กับ ฌอน ลองสตาฟฟ์ ในเกมที่เขาลงเล่นให้กับทีมครบ 150 นัดพอดีเนื่องจาก จามาล เลสเซลล์ส ถูกจับให้เป็นตัวสำรอง
3. สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ
บ่อยครั้งที่สถานการณ์ในเกมลูกหนังไม่ได้เป็นไปตามแผน อย่าง นิวคาสเซิ่ล เองก็เช่นกันที่ไม่คาดคิดว่า ทาร์เก็ตต์ จะล้มเจ็บเองตั้งแต่เริ่มเขี่ยบอลได้ไม่นาน และเล่นต่อไม่ไหวต้องเดินออกจากสนามให้ มิเกล อัลมิรอน ลงบู๊แทน
และในที่สุด อัลมิรอน ก็กลายเป็นตัวแสบของ แมนฯ ยูไนเต็ด จนได้กับการยิงประตูให้ทีมเยือนบุกมานำ 1-0 ซึ่งช่วยให้เกมของ สาลิกาดง แลดูมั่นคงขึ้นมาทันตาเห็น ตรงกันข้ามกับ ผีแดง ที่นอกจากจะทำเกมรุกไม่ได้แล้ว ยังต้องพะวงว่าจะเสียประตูเพิ่มด้วยซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆเมื่อ ลูอิส ฮอลล์ ตะบันอย่างงามพาทีมอีสานบุกมานำห่าง 2-0 ใน 45 นาทีแรก
อันที่จริงสถิติในครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้ด้อยไปกว่า นิวคาสเซิ่ล เลย แต่ผลงานในสนามต่างหากที่เป็นตัวสะท้อนผลลัพธ์แม้ทีมของ เอริค เทน ฮาก จะครองบอลได้เท่ากับคู่แข่ง 50:50% และได้ส่องยิงเท่ากัน 5 ครั้งโดย เดอะ แม็กพายส์ ส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่า 3:2 ครั้ง
4. เปลี่ยนตัวไม่ช่วยอะไร
ครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด เลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเปลี่ยนตัวสำรองลงสนามแบบเต็มพิกัด แต่แทนที่จะทำให้ทีมมีผลงานกระเตื้องขึ้น กลับกลายเป็นว่าพวกเขามาเสียประตูเพิ่มอีกจากความสามารถเฉพาะตัวที่น่าฮือฮาของ โจ วิลล็อค
ทำไปทำมาปัญหาที่ เทน ฮาก แก้ไม่ตก ปรับปรุงให้นักเตะไม่ได้เลยคือเกมรุกที่ไม่มีมิติ ไม่มีความหลากหลายจนเป็นเรื่องยากที่จะฝ่าเข้าเขตโทษฝ่ายตรงข้ามไปเช็กบิลได้ และมีแต่รอการเสียประตูในเมื่อเกมจู่โจมไม่มีพิษสงให้ทีมคู่แข่งหวาดผวา
รวมแล้วหลังจบ 90 นาที ผีแดง จึงทำได้แค่การครองบอลที่ดีกว่า นิวคาสเซิ่ล มากขึ้นเป็น 62:38% และได้ยิง 13 ครั้งเข้ากรอบ 2 ครั้ง ขณะที่ เดอะ แม็กพายส์ ได้ยิง 10 ครั้ง และเข้ากรอบ 5 ครั้ง
อย่างไรก็ดี ถึงตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้เป็นเกมที่แปดแล้วจาก 15 เกม แถมเสียประตูมากกว่ายิงประตูได้ด้วยซ้ำซึ่งเป็นเรื่องที่ทีมจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด จำเป็นต้องหาทางแก้ไขโดยด่วน
สำหรับผลงานเลวร้ายที่ว่านี้ ครั้งสุดท้ายที่เกิดกับ ผีแดง เป็นปี 1972 ซึ่งส่งผลให้กุนซือ แฟร้งค์ โอฟาเรลล์ โดนไล่ออก แต่มันจะเกิดขึ้นกับ เทน ฮาก หรือไม่ต้องรอดูกัน
5. ไม่โดนไล่ก็ใกล้เคียง
เชื่อเหลือเกินว่าหลังแพ้ยับให้กับ นิวคาสเซิ่ล แบบดูไม่จืด อัตราต่อรองที่ เทน ฮาก จะโดนปลดน่าจะมีการลดราคาจ่ายตามระเบียบเนื่องจากไม่เพียงกุนซือดัตช์จะคุมทีมแพ้อย่างน่าอับอายเท่านั้น แต่ฟอร์มของ เร้ด เดวิลส์ นับตั้งแต่เปิดซีซั่นไม่ต่างอะไรกับทีมเกรดต่ำอีกด้วย
แน่นอนว่าขาเก้าอี้ของ เทน ฮาก น่าจะยังแข็งแรงดีพอสมควรเนื่องจากแมนฯ ยูไนเต็ด คงยังไม่ด่วนไล่เขาออกแน่ แต่หากเขายังคุมทีมเล่นกันได้เท่านี้ก็ต้องรอดูว่าบอร์ดของ โอลด์ แทรฟฟอร์ด จะวางใจเขาไปอีกนานแค่ไหน แต่สำหรับแฟนบอล ปีศาจแดง เชื่อได้เลยว่าหมดศรัทธาในตัวกุนซือสกินเฮดแล้วเนื่องจากเขาคุมทีมเล่นได้แบบไม่เป็นทรงเอาซะเลย
หลังแพ้ต่อ สาลิกาดง แม้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีเกมที่ไม่ถึงกับโหดจนเกินไปรออยู่ให้ เทน ฮาก ได้หายใจหายคอได้บ้าง แต่มันยังน่าเป็นห่วงอดีตกุนซือ อาแจ็กซ์ ไม่น้อยเนื่องจากส่วนใหญ่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องเล่นนอกบ้านทั้งเกมบุกไปเยือน ฟูแล่ม สุดสัปดาห์นี้ก่อนออกไปฟัดกับ โคเปนเฮเก้น อีกนัดในรอบแบ่งกลุ่มถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก และกลับมาเปิดบ้านปะทะกับ ลูตัน ก่อนบุกไปเยือน เอฟเวอร์ตัน ซึ่งถึงช่วงนั้นหากทีม ท๊อฟฟี่ ยังมีผลงานที่ดีอย่างต่อเนื่องก็จะเป็นอีกเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องเจองานยาก ยกเว้นแค่นัดต้อนรับทีมน้องใหม่เท่านั้นที่พอจะการันตีได้ว่าพวกเขาน่าจะเก็บสามแต้มเต็มได้สำเร็จ
ถึงตรงนี้จึงพอจะบอกได้ว่าแม้ เทน ฮาก อาจได้คุมทีมต่อ แต่เรื่องความสำเร็จอย่าไปพูดถึงให้เปลืองน้ำลายเพราะหลังกระเด็นตกรอบฟุตบอล คาราบาวคัพ แล้ว เผลอๆ ผีแดง อาจฝ่าด่านทีมจากเมืองโคนมไม่สำเร็จด้วยซ้ำ และมีแววร่วงตกรอบแบ่งกลุ่มถ้วยหูใหญ่อีกรายการได้เช่นกัน มันจึงมีแนวโน้มเป็นซีซั่นที่เลวร้ายแบบสุดๆของ เทน ฮาก ซึ่งนับตั้งแต่เขาพาทีมคว้าแชมป์ คาราบาวคัพ ได้ สถิติฟ้องว่า ผีแดง มีเปอร์เซนต์คว้าชัยชนะตกลงไปจาก 73% เหลือแค่ 56% และมันต้องลดลงกว่านี้แน่ในเมื่อพวกเขาแพ้ให้กับทีมอีสานในเกมล่าสุดนี้