เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันเตรียมใช้ระบบโรเตชั่นกับ ลิเวอร์พูล สำหรับเกมเยือน บอร์นมัธ ศึก คาราบาว คัพ รอบ 4 หรือ รอบ 16 ทีมสุดท้าย วันพุธที่ 1 พฤศจิกายนนี้ แม้ว่า "หงส์แดง" อาจจะไม่ได้เน้นมากนักในแมตช์นี้ แต่เชื่อว่า กุนซือชาวเยอรมัน ต้องการให้ทีมเก็บชัยชนะให้ได้ เพราะอย่างน้อยที่สุดก็เพื่อรักษาโมเมนตัมการเล่น และยังช่วยทำให้ทีมมีโปรแกรมสำหรับแข้งสำรอง และดาวรุ่งต่อไป
1. ลุ้นเปลี่ยนทีมอย่างน้อย 9 ตำแหน่ง
สำหรับโปรแกรมฟุตบอลถ้วยใบเล็กเมืองผู้ดีถือเป็นโอกาสทองที่ คล็อปป์ จะได้ลองผู้เล่นดาวรุ่ง, แข้งสำรอง และนักเตะที่เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บอย่าง คอเนอร์ แบรดลี่ย์ และ สเตฟาน บายเซติช ได้ลงไปยืดเส้นยืดสาย
เปปิน ไลจ์นเดอร์ มือขวาคู่ใจนายใหญ่ชาวเยอรมัน ยืนยันชัดเจนว่า เบน โด๊ค มีส่วนร่วมในการฝึกซ้อมกับทีมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และจะได้เป็นส่วนหนึ่งของทัพ "หงส์แดง" หลังนักเตะหายจากอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อแล้ว
ส่วนอีกรายที่คาดว่าจะได้รับโอกาสนั่นก็คือ ลุค แชมเบอร์ส หลังนักเตะได้ลงเล่นเปิดตัวในแมตช์ถล่ม ตูลูส ศึกยูโรปา ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ ควีวิน เคลเลเฮอร์ นายทวารอนาคตไกล เป็นตัวเลือกหลักในตำแหน่งโกล
การใช้ระบบโรเตชั่นจำเป็นอย่างยิ่งในแมตช์นี้เพื่อจะได้รักษาสภาพความฟิตของผู้เล่นตัวหลัก นั่นทำให้ โจ โกเมซ, โฌเอล มาติป และ จาเรลล์ ควอนซาห์ รวมทั้ง โคดี้ กัคโป จะได้รับโอกาสลงตัวจริงในเกมนี้
2. เคลเลเฮอร์ ครองสถิติประทับใจ
เป็นที่รู้กันดีว่า เคลเลเฮอร์ เป็นนักเตะที่ใช้เท้าได้ดีมากๆ รวมทั้งยังรับหน้าที่สังหารจุดโทษได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ นายทวารวัย 24 ปี ยังมีความสามารถในการเซฟจังหวะแบบนี้ได้โดดเด่นเช่นกัน
โกลทีมชาติสาธารณรัฐไอร์แลนด์ มีสถิติในการป้องกันลูกจุดโทษให้กับ ลิเวอร์พูล (6 ครั้ง) มากกว่าผู้รักษาประตูคนอื่นๆ ในหน้าประวัติศาสตร์ทัพ "หงส์แดง" เลยทีเดียว
เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เคลเลเฮอร์ เซฟจุดโทษ 3 ครั้งในแมตช์ปะทะ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ และการลงสนาม 10 แมตช์ในศึกคาราบาว คัพ ให้กับ "เดอะ เร้ดส์" และมีสถิติเซฟจุดโทษที่ยอดเยี่ยมมากๆ
แน่นอนว่าถ้าถามสาวก "เดอะ ค็อปป์" พวกเขาคงต้องการให้ทีมรักเก็บชัยชนะในเวลามากกว่าที่จะต้องดวลจุดโทษ แต่หากถึงช่วงฎีกาลูกหนังจริงๆ การมี เคลเลเฮอร์ยืนเฝ้าเสาก็น่าจะทำให้รู้สึกอุ่นใจพอสมควร
3. โจนส์ หวนกลับคืนสนาม
เคอร์ติส โจนส์ ต้องติดโทษแบน 3 นัดหลังจากที่โดนใบแดงโดยตรงจากการทำฟาวล์หนักใส่ผู้เล่น "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา
สำหรับตอนนี้นักเตะชดใช้โทษแบนครบแล้ว และแน่นอนว่า คล็อปป์ คงเตรียมใส่ชื่อของ โจนส์ อยู่ในขุมกำลังที่จะบุกเยือนถิ่นไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม เพราะประสบการณ์ของเขามีประโยชน์อย่างมากในเกมแบบนี้
ยิ่งในช่วงเวลานี้ หลุยส์ ดิอาซ คงยังไม่สามารถลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ได้เนื่องจากสภาพจิตใจของเขายังย่ำแย่ จากกรณียังไม่สามารถหาตัวคุณพ่อเจอ หลังโดนลักพาตัวในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดังนั้นการที่ โจนส์ กลับมาลงสนามได้อีกครั้ง ทำให้ นายใหญ่เลือดด๊อยท์ช มีขุมกำลังมากขึ้นหากจำเป็นต้องใช้งานเขาลงเล่นในตำแหน่งแนวรุกฝั่งซ้าย ซึ่งเขาก็เคยทำหน้าที่นี้มาแล้ว
4. ลุ้นทะลุรอบ 8 ทีมสุดท้าย
ถ้าหาก ลิเวอร์พูล สามารถผ่าน บอร์นมัธ เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศได้สำเร็จ นั่นจะเป็นครั้งที่ 5 ในรอบ 9 ฤดูกาลในยุค คล็อปป์ ซึ่งต้องบอกเลยว่านี่คือสถิติที่ดีจริงๆ สำหรับทีมกับการเล่นเกมคาราบาว คัพ
ครั้งล่าสุดที่ "เดอะ เร้ดส์" แวะเวียนมาเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายนั่นก็คือฤดูกาล 2021-2022 ซึ่ง ลิเวอร์พูล ผงาดคว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 9 นั่นทำให้พวกเขาคว้าโทรฟี่มากที่สุดในรายการนี้
ขณะที่ บอร์นมัธ คาดหวังที่จะผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายเช่นกัน เพราะพวกเขาไปถึงรอบนี้เพียงแค่ 4 ครั้งในหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสร ฉะนั้นนี่คือแรงกระตุ้นสำคัญที่ทำให้ "เดอะ เชอร์รี่ส์" อยากคว่ำ "หงส์แดง" ให้ได้
ไม่ว่า ลิเวอร์พูล หรือ บอร์นมัธ จะได้ผ่านเข้ารอบต่อไป แน่นอนว่าพวกเขามีโอกาสที่จะได้ดวลกับทีมในศึกพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง แต่อย่างน้อยๆ พวกเขาก็ไม่ต้องเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งตกรอบไปก่อนหน้านี้แล้ว
5. รักษาโมเมนตัมเพื่อเป้าหมายสูงสุด
แม้ว่าศึกคาราบาว คัพ ไม่ใช่เป้าหมายหลักของ คล็อปป์ แอนด์ โค. แต่รายการนี้ก็ถือว่ามีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับ "หงส์แดง" ในการได้ลองผู้เล่นดาวรุ่ง และแข้งสำรอง รวมทั้งยังใช้สำหรับการรักษาฟอร์มการเล่น และโมเมนตัมของทีม
ปัจจุบัน "เดอะ เร้ดส์" ทำผลงานได้ดีเยี่ยมในเกมลีก โดยพวกเขาแพ้แค่เกมเดียวเท่านั้น และมี 23 คะแนนจาก 10 แมตช์ทำให้ตอนนี้รั้งอันดับ 4 ตามหลัง สเปอร์ส จ่าฝูงเพียงแค่ 3 แต้มเท่านั้น
แม้ว่าแมตช์นี้มีความเป็นไปได้สูงที่ คล็อปป์ จะดร็อปผู้เล่นหลักหลายคน แต่ก็ยังต้องการใช้นักเตะที่มีศักยภาพเพื่อที่จะคว้าผลการแข่งขันที่ดี เพราะหากชนะมันจะเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับนักเตะทุกคน
ที่สำคัญเกมลีกแมตช์ต่อไปต้องพบกับ ลูตัน ทาวน์ ถือเป็นโอกาสทองที่ทีมจะบุกเยือนด้วยความเชื่อมั่น ขณะที่เกมปะทะ ตูลูส ถ้าพวกเขาชนะก็การันตีการเข้ารอบน็อกเอาต์ ยูโรปา ลีก
ด้วยเหตุนี้เชื่อว่า คล็อปป์ คงกำชับลูกทีมให้เล่นด้วยความมุ่งมั่น เพราะมันคงการรักษาความเชื่อมั่น และจังหวะการเล่นของทีมให้อยู่ในระดับสูงต่อไป
ลุงต้อม