ช่วง 'ฮันนีมูน' กำลังจะผ่านไป! สิ่งที่อยากบอกหลัง แมนยู อัด ชาร์ลตัน ถ้วยคาราบาว คัพ

1. เอริค เทน ฮาก จัดตัวผู้เล่นชุดผสมกึ่งๆ ชุด 2 ด้วยการ 'โรเตชั่น' หลายตำแหน่ง ด้วยเหนือกว่าทีมกลางตารางจาก 'ลีก วัน' หลายขุม แถมมีเกมสำคัญระดับ 'แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้' แสยะยิ้มรออยู่ข้างหน้า

นายทวารสำรองอย่าง ทอม ฮีตัน ได้โอกาสเฝ้าเสาบ้าง เนื่องจากนายทวารสำรองคนใหม่อย่าง แจ็ค บัตแลนด์ ยังไม่คุ้นเคยกับเพื่อนร่วมทีม

แผงหลัง ลิซานโดร มาร์ติเนซ ได้ลงตัวจริงเป็นเกมแรก นับตั้งแต่กลับจากการคว้าแชมป์โลก โดยจับคู่กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่หลุดจากการเป็นตัวหลักเรียบร้อย

ผู้เล่นที่กำลังท๊อปฟอร์มอย่าง ลุค ชอว์ ได้พัก เพื่อนัดหน้าโดยเฉพาะ

แดนกลาง คู่หู 'แม็คเฟร็ด' กลับมาอีกครั้ง แต่ที่หน้าสนใจคือตำแหน่ง 'หน้าต่ำ' เจ้าหนู ค็อบบี้ ไมนู วัยเพียง 17 ขวบ ได้รับโอกาส

กองหน้า 3 ตัว แอนโธนี่ อีลันก้า หัวหอก ขนาบข้างขวาและซ้ายด้วย อันโตนี่ กับ อเลฮานโดร การ์นาโช่

เท่ากับว่ามีตัวหลักจริงๆ แค่ 3 คนเท่านั้น ตัวสำรอง 7 คน + ดาวรุ่ง 1 คน แต่ก็ยังเหนือกว่าเยอะด้วยศักยภาพของผู้เล่นจนเพียงพอที่จะ 'เอาอยู่' นะครับ

2. เรื่องรูปแบบการเล่น และรูปเกม ไม่มีอะไรให้พูดถึงมากนัก

ผู้มาเยือนเหมือนลูกมือในกำไก่ เอ๊ย! ลูกไก่ในกำมืออยู่แล้ว

เพราะด้วยความ 'ห่างชั้น' แมนฯ ยูไนเต็ด จึงครองบอลบุกมากกว่าพลางหาโอกาสทะลวงตาข่ายได้มากกว่าตามเชิงอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าจะขึ้นนำตอนไหน และจะแสดงความผิดพลาดออกมาจนส่งผลเสียหายหรือเปล่าเท่านั้น

ปรากฏว่าพวกเขาใช้เวลาแค่ 21 นาทีในการขึ้นนำ 1-0

3. ประตูนำของปีศาจแดง 'โคตรสวย' ระดับกระชากไส้

จากการขึ้นเกมด้านซ้าย เฟร็ด สอดขึ้นมารับบอลตรงหน้ากรอบเขตโทษก่อนจ่ายให้ อันโตนี่ ที่กำลังถูกตั้งข้อสงสัยในฟอร์มการเล่นทางด้านขวาของกรอบเขตโทษ

...ว่าแล้วดาวเตะแซมบ้าค่าตัว 85 ล้านปอนด์ ก็จับบอล 1 ครั้ง ก่อนล็อคเข้าใน เพื่อหาเหลี่ยมแล้วตะบันด้วยซ้าย ลูกพุ่งไซด์โค้งเสียบสามเหลี่ยมมุมไกล ชนิดที่นางงามจักรวาลทุกรุ่นต้องโค้งคาราวะให้กับความงดงาม

ประตูนี้ส่งเข้าประกวดประตูยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลนี้ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เลนทีเดียว !!! 

4. การขึ้นนำได้อย่างรวดเร็วเท่ากับลดความกดดันจนช่วยให้เจ้าบ้านเล่นในเวลาที่เหลือได้แบบสบายๆ ไร้กังวล

อย่างไรก็ตาม

ตราบใดที่กะซวกตาข่ายทิ้งห่างไม่ได้ และนำแค่ประตูเดียว หมายความว่าคู่ต่อสู้ก็ยังอยู่ในเกม

ผ่านไปประมาณ 60 นาที เอริค เทน ฮาก จึงส่งผู้เล่นตัวหลักลงมารับประกันความแน่นอนพร้อมยืดเส้นยืดสาย

กาเซมิโร่, คริสเตียน เอริคเซ่น และมาร์คัส แรชฟอร์ด จึงถูกส่งลงมา

ทว่ากว่าจะได้ประตูปิดกล่องก็ต้องรอจนถึงนาทีสุดท้าย

มาร์คัส แรชฟอร์ด กระทุ้งตาข่ายได้อีกแล้วนะครับ แถมตะบันรวดเดียวอีก 2 ดอก ทำสถิติยิง 6 เกมติดต่อกัน และทำ 7 ประตูใน 6 นัดล่าสุด สถาปนาตัวเองเป็นผู้เล่นที่ระเบิดฟอร์มร้อนแรงแบบเกินห้ามใจมากที่สุดในฟุตบอลยุโรป หลังศึกฟุตบอลโลก 2022

5. นับตั้งแต่ เวิลด์ คัพ 2022 ผ่านไป

แมนฯ ยูไนเต็ด ลงเล่น 6 นัด ในเวลาห่างกันแค่ 20 วัน โดยกะซวกชัยได้ทั้ง 6 นัด และเสียเพียงประตูเดียวเท่านั้น

แต่บางทีช่วง 'ฮันนีมูน' กำลังจะผ่านไป เพราะวันเสาร์นี้

'ของจริง' ที่เป็นคู่แค้นร่วมเมืองอย่าง แมนฯ ซิตี้ จะบุกมาเยือน โอลด์ แทรฟฟอร์ด

เตรียมรอรับแรงกระแทกกันได้เลย 5555

บอ.บู๋