มหากาพย์ บาร์ซ่า vs ลา ลีกา

มหากาพย์ บาร์ซ่า vs ลา ลีกา
สภากีฬาสูงสุดสเปน (CSD) ตัดสินให้ ดานี่ โอลโม่ กับ เปา บิคตอร์ ยังมีชื่ออยู่ในทะเบียนนักเตะ และได้รับสิทธิ์ลงเล่นจนจบฤดูกาลนี้

เหตุผลการตัดสินใจของสภากีฬาสูงสุดสเปน หรือ CSD ที่ให้ โอลโม่ กับ บิคตอร์ ได้ไปต่อจนจบฤดูกาล เนื่องจาก CSD  วินิจฉัยว่า คณะกรรมการผู้ตรวจสอบข้อตกลงประสานงานระหว่าง สหพันธ์ฟุตบอลสเปน (RFEF) กับ ลา ลีกา (LFP) ไม่มีอำนาจในการถอนใบอนุญาตนักเตะออกจากทะเบียนของ RFEF

อธิบายง่ายๆ

RFEF กับ LFP คือ 2 องค์กรที่พยายามทำงานร่วมกัน ซึ่งวันนึงคู่นี้ก็ร่วมกันตั้งคณะกรรมขึ้นมาชุดนึง เพื่อร่างข้อตกลงต่างๆร่วมกัน เอาไว้บังคับใช้กับสโมสรในประเทศ พูดง่ายๆคือร่างกฏเอาไว้ลงดาบนั่นแหละ

และหนึ่งในดาบที่ว่าคือการถอดชื่อนักเตะออกจากทะเบียนของ RFEF หากว่ามีสโมสรที่ละเมิดกฏการเงินของ ลา ลีกา 

แต่ CSD ก็วินิฉัยว่าตามกฏหมาย คกก.ชุดนี้ทำไม่ได้ก็เลยตัดสินออกมาแบบนี้ 

CSD ไม่สนใจบัญชีกำไรขาดทุน หรือเงิน 100 ล้านอะไรนั่น แค่ตีความว่า คณะกรรมการชุดที่ตั้งขึ้นมาเนี่ย ตามกฏหมายแล้วไม่มีสิทธิ์ถอดชื่อใครทั้งนั้น นอกจากนั้นแล้วอีกหนึงเหตุผลสำคัญก็คือ CSD ห่วงใยตัวนักเตะเป็นพิเศษ พวกเขามองว่านักเตะควรได้ลงเล่นตามสิทธิของเขา 

ลา ลีกา ไล่บี้แทบตาย สุดท้าย CSD มายกทิ้งเฉย ทำไม องค์กรนี้ถึงมีอำนาจมากจัง ? ใหญ่กว่า สหพันธ์ฟุตบอลสเปน (RFEF) และ ลา ลีกา (LFP) อีกเหรอ ? 

CSD หรือชื่อเต็ม El Consejo Superior de Deportes คือสภากีฬาสูงสุดของสเปน ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระของรัฐบาล แต่ก็ทำงานเชื่อมโยงกับรัฐบาล นั่นหมายความว่าเมื่อรัฐบาลไหนเข้ามาบริหารประเทศ ก็จะส่งคนมานั่งแท่นในตำแหน่งประธาน CSD 

ปัจจุบัน ประธาน CSD คือ โฆเซ่ มานูเอล โรดริเกซ อูรีเบส ซึ่งในทางการเมืองดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและกีฬาของรัฐบาลชุดปัจจุบันที่นำโดยนายเปโดร ซานเชซ ควบคู่ไปด้วย 

ที่นี้ก็ชัดเจนนะครับ CSD เป็นหน่วยงานของรัฐบาล มีอำนาจเต็มตามกฏหมาย ส่วน RFEF นั้นขึ้นตรงกับกระทรวงวัฒนธรรมและกีฬาจึงถือเป็นเด็กในสังกัด 

ขณะที่ LFP ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐบาล เป็นหน่วยงานอิสระ ไม่ขึ้นตรงกับ RFEF มีขอบจ่ายอำนาจเฉพาะเจาะจง หน้าที่หลักคือ จัดการจัดการแข่งขันชิงแชมป์ลีกระดับประเทศร่วมกับ RFEF

อดีตที่ผ่านมา ฆาเบียร์ เตบาส พยายามผลักดันให้มีการแก้กฏหมายกีฬาเพื่อให้ ลา ลีกา มีอำนาจทางกฏหมายที่ชัดเจน แต่ยังไม่สำเร็จ 

ลา ลีกา ไม่มีสิทธิ์ลงโทษ สั่งแบน หรือเลือกผู้ตัดสิน ทุกอย่างอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ RFEF ซึ่งมีหน่วยงาน CTA คณะกรรมการผู้ตัดสินดูแลรับผิดชอบเรื่องนี้ 

ส่วนใครที่คิดว่า เคสของ โอลโม่ กับ เปา บิคตอร์ ฉลุยแล้ว ลา ลีกา คงทำอะไรไม่ได้แน่ 

ใช่ครับ ในฤดูกาลนี้ เตบาส น่าจะทำอะไรไม่ทันแล้ว แต่จากการที่ ลา ลีกา ปรับลดเพดานค่าเหนื่อย บาร์เซโลน่า ลงมา ซึ่งยังผลให้สโมสรหลุดออกจากกฏ 1:1 เหลือพื้นที่การใช้จ่ายน้อยนิด จะส่งผลร้ายในการแข่งขันฤดูกาลหน้าแน่ๆ 

ในกรณีที่ บาร์เซโลน่า ยังไม่สามารถยื่นหลักฐานทางการเงิน ซึ่งจะเป็นเงิน 100 ล้านยูโรที่มาจากการขายบล็อค VIP  หรือจะรายได้จากอะไรก็ตามไม่ผ่านหลักเกณฑ์ของ ลา ลีกา 

เมื่อนั้น บาร์ซ่า ลำบากแน่ 

กฏข้อนึงที่หลายคนไม่รู้คือ ในทุกๆฤดูกาลสโมสรจะต้องส่งรายชื่อลงทะเบียนนักเตะใหม่ทุกครั้ง 

กล่าวคือ การลงทะเบียนนักเตะเพื่อลงเล่นใน ลา ลีกา,โกปา เดล เรย์ อันส่งผลถึงการลงเล่นในฟุตบอลถ้วยยุโรปนั้น จะต้องมีการลงใหม่ทุกฤดูกาล 

จบฤดูกาลนึงก็จะโละออกหมด เมื่อจะเริ่มฤดูกาลใหม่ทุกสโมสรก็จะต้องกลับมาลงชื่อนักเตะตัวเองที่จะส่งแข่งขันอีกครั้ง

เช่นนี้แล้ว หากเพดานค่าเหนื่อยของ บาร์ซ่า ไม่ถูกปรับให้สูงขึ้น (ให้ดีคือกลับสู่กฏ1:1) เมื่อเริ่มต้นฤดูกาลใหม่  บาร์ซ่า จะมีปัญหาไม่สามารถลงทะเบียนนักเตะได้อย่างที่ต้องการ 

คราวนี้หัวข้อปัญหาก็จะเปลี่ยนไป ไม่ใช่การถอนชื่นักเตะอออกจากทะเบียน แต่เป็นการตัดสิทธิ์ไม่ให้ลงทะเบียนซึ่งมันคือเคสระหว่างสโมสรกับ ลา ลีกา ไม่ใช่ นักเตะกับ ลา ลีกา ดังนั้น CSD จึงไม่น่าจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหมือนคราวนี้

การที่ CSD ตัดสินให้ โอลโม่ กับ บิคตอร์ ได้สิทธิ์ลงเล่นต่อนั้นมากที่สุดแค่จบฤดูกาลนี้เท่านั้น ที่เหลือจะเป็นการเผชิญหน้าระหว่าง บาร์ซ่า ของ ลาปอร์ต้า กับ ลา ลีกา ของ เตบาส ซึ่งรับประกันความดุเดือดได้เลย 

#เจมส์ลาลีกา


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport