ความแตกต่างระหว่าง อันเชล็อตติ กับ ฟลิค

นอกเหนือจากความแตกต่างในแง่ของแท็คติกแล้ว อีกจุดที่แตกต่างกันอย่างมากระหว่าง อันเชล็อตติ กับ ฟลิค ก็คือการบริหารจัดการสตาร์ภายในทีม

ช่วงเวลาเพียงไม่กี่เดือนที่เข้ามาทำงานใน บาร์เซโลน่า ฟลิค แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ยึดติดกับนักเตะคนไหนเลย

กุนซือเยอรมันไม่มีการลังเลเมื่อต้องเลือกนักเตะคนไหนลงสนาม เขาไม่สนทั้งอายุ ลำดับอาวุโสในทีม ราคาค่าตัว มองแค่ว่านักเตคะคนไหนกำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด มีศักยภาพมากพอที่จะช่วยทีมในเกมนั้นๆได้หรือไม่

สไตล์ของ ฟลิค ช่วยอธิบายได้ว่าทำไม โรนัลด์ อาเราโฮ ถึงไม่ได้เป็นตัวจริงของทีม ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้คือแกนหลักและเป็นหนึ่งในกัปตันทีม

ถึงแม้ อินญิโก้ มาร์ติเนซ จะอายุมากถึง 33 ปี และถึงแม้ เปา กูบาร์ซี่ จะอายุแค่ 18 มีประสบการณ์น้อยนิด แต่เมื่อทั้งคู่ปรับตัวเข้ากับสไตล์การเล่นของ ฟลิค ได้ดีกว่า เช่นนี้ อาเราโฮ ที่มีทุกอย่างที่เซนเตอร์ฮาล์ฟที่ดีควรจะมีจึงต้องนั่งยาวรอโอกาสที่ข้างสนาม 

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่แม้คุณจะปรับตัวกับสไตล์ได้ แต่ถ้าวันนึง ฟลิค เห็นว่ามีอีกคนที่มอบประโยชน์ให้ทีมได้มากกว่าคุณก็ต้องนั่ง

ตัวอย่างเช่น มาร์ก กาซาโด้ ที่ออกสตาร์ทฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยม ยึดตำแหน่งตัวจริงในแดนกลางจนกลายเป็นตัวหลัก แต่วันนี้เมื่อ เดยอง กลับมา และแสดงให้เห็นว่าตอบโจทย์ ฟลิค มากกว่า หลายๆครั้ง กาซาโด้ ก็หลุดไปนั่ง 

ฟลิค ทำให้การแข่งขันในแดนกลางของทีมมีความเข้มข้นอย่างมาก ไม่มีใครเป็นขาประจำ ไม่ว่าคุณจะมาก่อน หรือหลัง อายุมากกว่าหรือน้อยกว่า

ปาโบล กาบี ตัวหลักของ ชาบี กำลังเข้าๆออกๆชุดตัวจริงในเวลานี้ เช่นเดียวกับ เฟร์มิน โลเปซ และ ดานี่ โอลโม่ 

ทุกสัปดาห์แข้งเหล่านี้ต้องต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงโอกาสลงไปบัฯชาเกมในแดนกลางให้กับทีม

ในขณะเดียวกัน อันเชล็อตติ มีสไตล์ที่แตกต่างออกไปในการจัดการนักเตะ  กุนซืออิตาเลี่ยนมีกลุ่มแข้งชุดหลักของเขาและมันเป็นอะไรเปลี่ยนยากมากๆ

แน่นอนว่ากลุ่มชุดหลักแต่ละคนมีศักยภาพสูงมาก พวกเขาสามารถสร้างผลงานในระดับมาสเตอร์พีซให้กับทีมได้ไม่ยาก

นั่นเป็นเหตุผลที่ อันเชล็อตติ ตัดสินใจที่จะให้ผู้เล่นกลุ่มนี้ลงเล่นทุกครั้งที่พวกเขาพร้อม โดยไม่สนใจว่าจะมีนักเตะคนอื่นที่กำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีกว่ามากนัก

สำหรับ อันเชล็อตติ ความเชื่อใจ ไว้ใจเป็นสิ่งสำคัญ ลำดับชั้น ลำดับอาวุโสก็เป็นสิ่งสำคัญมากๆด้วย

อันเชล็อตติ เคารพลำดับชั้น ทุกครั้งที่สภาพร่างกายของกลุ่มผู้เล่นของเขาเอื้อให้เขาทำได้ เขาก็จะส่งผู้เล่นเหล่านั้นลงสนาม

อย่างเช่นกรณีของ ราอูล อาเซนซิโอ ที่ปีนี้พุ่งทะยานขึ้นมาได้อย่างน่าสนใจ ทว่าหลายต่อหลายเกม อันเชล็อตติ เลือกไปที่ อันโตนิโอ รือกิเกอร์,ชูอาเมนี่ และ ดาวิด อลาบา ก่อน

ตัวอย่างเช่นเกมเยือน เบนีโต้ บียามาริน ที่ อันเชล็อตติ เลือก อลาบา กับ รือดิเกอร์ และจับ อาเซนซิโอ นั่งข้างสนาม

หรือในพาร์ทเกมรุก อันเชล็อตติ พร้อมส่ง วินิซิอุส จูเนียร์,จู๊ด เบลลิ่งแฮม,คิลิยัน เอ็มบั๊บเป้ และ โรดรีโก้ ลงสนามทันทีถ้าทุกคนสมบูรณ์

ส่วนการโรเตชั่นในพาร์ทนี้ โดยส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับ โรดรีโก้ เพื่อที่บางทีจะสลับให้ บราฮิม ดิอ๊าซ,เอ็นดริก หรือ อาร์ด้า กือแลร์ ลงมาเล่น

ซึ่งในกลุ่มสำรองนี้ บราฮิม คือตัวเลือกลำดับแรกหากคนใดคนนึงใน FAB4 ไม่พร้อม

การเปลี่ยนตัวก็เช่นเดียวกัน ฟลิค กับ อันเชล็อตติ มีไอเดียที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

สำหรับ อันเชล็อตติ เราจะเห็นได้น้อยครั้งที่เขาจะทำการปรับเปลี่ยนแผนการเล่นระหว่างเกม เขามักยึดมั่นในแผนการเล่น และตัวนักเตะที่ซักซ้อมกันไว้และเล่นตามนั้น นอกจากนี้เขาแทบไม่ใช้โควต้าเปลี่ยนตัวครบ 5 คนเลย

สถิติการเปลี่ยนตัวส่วนใหญ่ของ อันเชล็อตติ จะอยู่ในช่วง 20 นาทีสุดท้ายของเกมการแข่งขัน

ส่วน ฟลิค นั้น จะมีการแทรกแซงระหว่างเกมมากกว่า หลายๆเกมเราได้เห็นการเล่นที่ต่างออกไปของ บาร์ซ่า เมื่อกลับมาลงในครึ่งเวลาหลัง

นอกจากนั้นแล้ว ฟลิค ยังชอบเปลี่ยนตัวนักเตะของเขาออกจากสนามอยู่เสมอ

สถิติที่บ่งชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างนี้ระหว่าง ฟลิค กับ อันเชล็อตติ ก็คือ

ในกลุ่มสตาร์ของทีม ไม่มีนักเตะมาดริดคนไหนที่ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามถึง 20 เกมเลย ขณะที่ บาร์ซ่า นั้น เปดรี ถูกเปลี่ยนตัวออก 24 เกม,เลวานดอฟสกี้ ถูกเปลี่ยนตัวออก 21 เกม,ลามีน ยามาล ถูกเปลี่ยนตัวออก 20 เกม

น้อยหน่อยก็ ราฟินญ่า ถูกเปลี่ยนตัวออก 15 เกม

สำหรับ มาดริด นักเตะที่ถูกเปลี่ยนตัวออกบ่อยครั้งที่สุดคือ โรดรีโก้ ที่ 19 เกม รองลงมาคือ เอ็มบั๊บเป้ 17 เกม,เบลลิ่งแฮม 15 เกม และ วินิซิอุส 14 เกม

อีกสถิตินึงที่สำคัญคือการให้ความสำคัญกับจำนวนนาทีที่เปลี่ยนนักเตะออก

ถ้าไม่นับรวมเหตุการณ์ที่นักเตะบาดเจ็บระหว่างเกมแล้ว สตาร์มาดริดที่ อันเชล็อตติ เปลี่ยนออกจากเกมเร็วที่สุดในซีซั่นนี้คือ โรดรีโก้ ที่ถูกเปลี่ยนตัวตอนพักครึ่งในเกมกับ เลกาเนส

ส่วน วินิซิอุส ถูกเปลี่ยนเร็วสุดนาทีที่ 75 ,เอ็มบั๊บเป้ นาทีที่ 71, จู๊ด เบลลิ่งแฮม นาทีที่ 64

จากสถิตินี้ ทำให้เราเห็นได้ชัดว่า โรดรีโก้ คือคนที่ขาดไม่ได้น้อยที่สุดในบรรดา FAB4

ขณะที่ ฟลิค นั้น เปลี่ยน เลวานดอฟสกี้ ออกเร็วสุดในนาทีที่ 66 และเปลี่ยนตัวออกในช่วงนาทีที่ 70 มากถึง 5 ครั้ง

ราฟินญ่า ถูกเปลี่ยนตัวออกเร็วที่สุดนาทีที่ 58 และมีถึง 8 ครั้งที่ถูกถอดออกก่อนนาทีที่ 70

ลามีน ยามาล ถูกเปลี่ยนเร็วสุดนาทีที่ 56 และมี 4 เกมที่ ถูกเปลี่ยนออกก่อนนาทีที่ 70 ของการแข่งขัน ส่วน เปดรี ถูกเปลี่ยนเร็วสุดนาทีที่ 58 และมี 8 ครั้งที่ถูกเปลี่ยนออกก่อนถึงนาทีที่ 70 เท่ากับ ยามาล

ทั้งนี้สถิติตัวเลขที่เกิดขึ้น ไม่ได้เป็นการบ่งชี้ว่าแนวทางบริหารจัดการนักเตะและทำทีมของใครดีกว่ากัน เพราะทั้ง มาดริด และ บาร์ซ่า ต่างก็มีโครงสร้างทีมที่แตกต่าง คาแรกเตอร์และคุณสมบัติของนักเตะที่ต่างกัน

ไม่มีมาตรวัดใดสามารถระบุได้ว่าวิธีการดำเนินงานแบบใดจะเป็นประโยชน์สูงสุดสำหรับทีม เพียงแต่ผลลัพธ์ในตอนท้ายฤดูกาล อาจช่วยอธิบายได้บ้าง

แม้ว่าจะมีปัจจัยอื่นๆมากมายนอกเหนือจากเรื่องที่ได้กล่าวถึงในวันนี้

-เจมส์ ลาลีกา-