มีนาของ บาร์ซ่า, เมษาล่ะของใคร ?

มีนาของ บาร์ซ่า, เมษาล่ะของใคร ?
บาร์ซ่า ขึ้นนำจ่าฝูงด้วยการมีคะแนนมากกว่า แอตมาดริด 1 คะแนน และ เรอัล มาดริด 3 คะแนน

ไล่เรียงเวลานี้หลังผ่าน 26 นัดเท่ากัน บาร์ซ่า 57,แอต.มาดริด 56  และ เรอัล มาดริด 54 ซึ่งจะว่าไปมันก็น่าเหลือเชื่อ โดยเฉพาะการคัมแบ็กที่เกิดขึ้นระหว่าง บาร์ซ่า กับ เรอัล มาดริด ในชั่วระยะเวลาเพียง 30 วัน 

ออกสตาร์ทเดือนแห่งความรัก เรอัล มาดริด นำจ่าฝูง ทิ้ง บาร์ซ่า ไกลถึง 7 คะแนน มีไม่น้อยที่คิดว่าทีมของ ฮันซี่ ฟลิค หมดโอกาสแล้ว

7 คะแนน หากย้อนกลับไปสัก 10 กว่าปีก่อน ช่องว่างขนาดนี้ไม่ว่า บาร์ซ่า นำ หรือ มาดริด นำ ส่วนใหญ่ลงเอยแบบไม่มีเซอร์ไพรส์ 

แต่ฤดูกาลนี้ เราได้เห็นอะไรที่ต่างออกไป การลุ้นแชมป์พลิกไปพลิกมา สื่อสเปนเองก็รู้สึก หลายครั้งหยิบเอาคำ Montaña Rusa (รถไฟเหาะตีลังกา) มาใช้เปรียบสถานการณ์ลุ้นแชมป์บ่อยๆ 

ด้วยระยะเพียง 30 วัน ใครจะเชื่อ บาร์ซ่า ที่ไล่หลังไกลถึง 7 แต้มจะโขยกจนพลิกกลับมานำ 3 แต้ม ห้วงเวลาเพียง 1 เดือน มาดริด พลาดเยอะจนไม่น่าเชื่อ 

ทุกอย่างเริ่มต้นที่ กอร์เนย่า เอล ปราต เมื่อ มาดริด บุกไปพ่าย เอสปันญ่อล 

เกมนั้นมีดราม่าจังหวะที่ การ์ลอส โรเมโร่ แบ็กซ้ายเจ้าถิ่นเสียบหนักใน คิลิยัน เอ็มบั๊บเป้ แต่ไม่ได้ใบแดง ก่อนสุดท้ายจะสวมบทฮีโร่ยิงประตูชัยให้ 'นกแก้ว' เฉือนหวุดหวิด 1-0 

อีกเกมที่ มาดริด เสียแต้ม ซึ่งจะว่าไปก็เข้าใจได้ก็คือการเสมอกับ แอต.มาดริด ใน เบร์นาเบว 1-1 แต่ที่หายนะก็คือผลเสมอ โอซาซูน่า 1-1 ที่ เอล ซาดาร์ เพราะเกมนั้น มาดริด ออกสตาร์ทด้วยการนำไปก่อน เกมเหนือกว่า ทุกอย่างอยู่ในกำมือหมดแล้ว

จนกระทั่ง จู๊ด เบลลิ่งแฮม พ่น F..ck off ออกมา แล้ว มูนวยร่า มอนเตโร่ ฟังผิดเป็น F..ck you ชูใบแดงไล่ออก แถมให้จุดโทษ โอซาซูน่า อีก ทุกอย่างจึงพังทลาย บอลน่าชนะไม่ชนะ แถม จู๊ด โดนแบน 2 นัด 

มาดริด มากระเตื้องขึ้นเมื่อเปิดบ้านเอาชนะ จีโรน่า 2-0 แต่สัปดาห์ล่าสุดก็อย่างที่เห็นคือแพ้ เรอัล เบติส ที่ เบนีโต้ บียามาริน 1-2 แบบรับสภาพ เพราะเจ้าถิ่นเล่นท็อปฟอร์มจริงๆ 

สิริรวมแล้ว มาดริด ทำหลุดไปถึง 10 คะแนนใน 5 เกมหลังสุด ตรงกันข้ามกับ บาร์ซ่า ที่เก็บงานเนียนกริ๊บ

เด็กๆของ ฮันซี่ ฟลิค คว้าชัย 5 รวด เก็บ 15 แต้มเต็ม เกมล่าสุดกับ เรอัล โซเซียดาด ทีแรกมองว่าไม่ง่าย สุดท้ายกลายเป็นงานสบาย เพราะ อาริตซ์ เอลูสตอนโด้ เซนเตอร์ทีมเยือนออกไปอาบน้ำตั้งแต่นาทีที่ 18 

พิจารณาจากสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในรอบหนึ่งเดือนมานี้ หลายอย่างที่เกิดขึ้นดูจะเข้าทาง บาร์ซ่า มากกว่า 

เรื่องนึงที่ผมมองว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในความต่างระหว่าง บาร์ซ่า กับ มาดริด คือสภาพร่างกาย เห็นได้ชัดว่าการไม่ติดท็อป 8 แชมเปี้ยนส์ลีก นั้นสิ้นเปลืองพลังงานขนาดไหน 

อาการบาดเจ็บและความเหนื่อยล้าสะสมกำลังเล่นงาน มาดริด อีกระลอก 

ไม่ใช่จะแก้ตัวแทน มาดริด นะครับ แค่จะบอกว่าสิ่งที่พวกเขาเผชิญนั้นสร้างผลกระทบอย่างชัดเจน หากแต่มันก็คือชะตากรรมที่เป็นผลพวงมาจากการกระทำของพวกเขาเอง 

ก็ผลงานไม่ดี เลยต้องเหนื่อยกว่าชาวบ้าน แถมโชคดีรอบ เพลย์ออฟ จับเจอ แมนซิตี้ อีก แม้ทีมของ เป๊บ จะไม่เหมือนเดิม แต่ก็เป็นงานตึงมือ เสียพลังงานไปเยอะ 

เฟเด วัลเวร์เด้ ที่ใครๆยกย่องเป็นม้าเหล็ก หายหน้าไป 2 เกมใน ลีกา ถ้ารวม โกปาฯ รอบรองฯกับ โซเซียดาด ด้วยก็ 3 เกมติด สาเหตุมาจากสภาพร่างกายที่เหนื่อยล้าและอาการเจ็บโคนขาหนีบ

ดานี่ เซบาบอส ที่กำลังท็อปฟอร์มก็ไปแล้ว เจ็บข้อเท้ากับกล้ามเนื้อโคนขาด้านหลัง เจอกันอีกทีก็กลางเดือนเมษายน 

พิจราณาจากสภาพทีม และโปรแกรมแข่ง นี่เป็นสถานการณ์ที่เปราะบางของ เรอัล มาดริด เพราะเดี๋ยวอังคารนี้ก็ต้องดวลกับ 'เพื่อนบ้าน' แอตมาดริด ใน ชปล.รอบน็อคเอาท์ ซึ่งเป็นเกมที่ปล่อยมือไม่ได้ 

โฟกัสเฉพาะการลุ้นแชมป์ ลา ลีกา 

ช่วงเวลานับจากนี้ น่าจะเป็นพีเรียดที่ บาร์ซ่า ได้กอบโกย เพราะทั้ง มาดริด กับ แอตมาดริด โคจรมาฟัดกันเอง 

สองเสือสู้กันไม่ว่าใครได้รับการชูมือ..ย่อมเจ็บหนักทั้งคู่  จบแมตช์น่าจะกรอบเป็นข้าวเกรียบ ไหนจะเรื่องสมาธิอีก 

หาก บาร์ซ่า รักษาสมดุลและฟอร์มของทีมไว้ได้ ก็มีโอกาสฉีกแต้มหนีออกไปอีก

อย่างไรก็ตาม หากเกิดความผิดพลาดในช่วงมีนาคม ก็ให้น่าห่วง บาร์ซ่า อยู่ไม่น้อย เพราะหลังจากผ่าน ชปล.รอบ 16 แล้ว ทีนี้โปรแกรมหนักจะย้อนกลับมาหาพวกเขาบ้าง 

16 มีนาคม ไปเยือน ตราหมี ในนัดที่ 28 ซึ่งบอกได้เลยว่า "ออกได้ทุกหน้า"  แล้วต้นเดือนเมษายนยังต้องจัดกับ ตราหมี อีกเกมในโกปา เดล เรย์ เลกสอง 

งานนี้บอกได้เลยว่า บาร์ซ่า เองก็หนัก เพราะหลุดพ้นจากตรงนี้ ยังมีโปรแกรมรอเจอกับ มาดริด อีกในนัดที่ 35 ซึ่งใครจะรู้ว่าถึงตอนนั้น มาดริด จะเป็นยังไง จะฟื้นคืนสภาพแล้วหรือไม่ 

อีกประการ การลุ้นแชมป์ปีนี้ไม่ได้มีแค่ มาดริด เท่านั้นที่เป็นคู่แข่ง ระหว่าง มาดริด เป๋ บาร์ซ่า พีค แม้จะไม่ได้เลิศเลอ แต่ แอตมาดริด ประคองตัวได้ยอดเยี่ยมทีเดียว 

5 นัดหลัง ชนะ 3 เสมอ 2 เก็บ 11 จาก 15 คะแนน ตามหลัง บาร์ซ่า คะแนนเดียว 

ครับ บาร์ซ่า อย่ามองแค่ว่า นำ มาดริด 3 แต้ม แต่ต้องมองที่ตารางและความเป็นจริงว่าพวกเขานำรองจ่าฝูงแต้มเดียว 

เช่นนี้แล้ว อะไรก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้ ! 

ปีใหม่มานี้ จ่าฝูง ลา ลีกา สลับหน้ากันสนุก เรียกว่าลุ้นกันเดือนต่อเดือน 

ต้นมกรา แอตมาดริด แซงขึ้นจ่าฝูง ระหว่าง บาร์ซ่า กับ มาดริด ไปเล่นที่ ซาอุฯ  

กลางเดือน มาดริด ปาดหน้าเอาตำแหน่งไปครองและยึดถึงกุมภาพันธ์ มีนาคม บาร์ซ่า พลิกสถานการณ์แซงนำสำเร็จซึ่งเป็นการนำฝูงหนที่ 3 ในซีซั่นนี้ 

คำถามสำคัญคือ มีนาคม เป็นของ บาร์ซ่า แล้ว เมษาฯ จะเป็นของใคร ? 

การลุ้นแชมป์ปีนี้ไม่จบง่ายๆแน่ เพราะพิสูจน์แล้วว่า บาร์ซ่า,ตราหมี และ มาดริด เก่งพอกัน 

ดังนั้นผู้ที่แกร่งกว่า สามารถฝ่าโปรแกรมหฤโหดไปถึง 25 พฤษภาคมเท่านั้นคือ 'ผู้ชนะตัวจริง'

#เจมส์ลาลีกา


ที่มาของภาพ : Gettyimages
BY : เจมส์ ลาลีกา
อาวุธ จิวรากรานนท์
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport