เรอัล โซเซียดาด คู่ต่อสู้ของคุณในรอบน็อคเอาท์ 16 ทีม ยูโรป้า มีเทรนเนอร์ชื่อ อีมานอล อัลกวาซิล อายุ 53 คุมทีมเข้าปีที่ 7 แล้ว
จากจำนวนปีที่คุม เขาผ่านการผลัดใบในทีมมาหนึ่งเจนฯ แล้ว เสียผู้เล่นตัวหลักไปหลายคน แต่ก็ประคับประคองทีมมาได้ไม่เลว
จุดแข็งของ อัลกวาซิล คือรู้จักแทบจะทุกตารางนิ้วของสโมสร
เกิดปี 1971 ที่จังหวัดกีปุซเกา ที่ตั้งของ เรอัล โซเซียดาด
อัลกวาซิล เข้ามาเป็นเด็กปั้นของ เรอัล โซเซียดาด ก้าวขึ้นชุดใหญ่ในฐานะแบ็กขวาจอมบุกที่บางครั้งหุบมาเล่นกลางได้
เมื่อเลิกก็หันไปจับงานโค้ช คุม โซเซียดาด เบ ก่อนที่ปี 2018 จะขึ้นคุมชุดใหญ่
อัลกวาซิล พาทีมคว้าแชมป์ได้หนึ่งรายการถ้วน คือโกปา เดล เรย์ ปี 2020 จะว่าน้อยก็น้อยแหละ แต่ถ้าลองเบียดคู่แข่งไซส์ XXL อย่าง บาร์ซ่า,มาดริด,แอตมาดริด เข้าป้ายได้ ก็ถือว่าไม่ธรรมดา แถมนัดชิงยังชนะ แอธบิลเบา อริร่วมแคว้นบาสก์ด้วย
ที่ว่าคุมทีม 7 ปี ผลัดมาแล้ว 1 เจนฯ นั้น ช่วงระหว่าง 2019-22 โซเซียดาด มีขุมกำลังเจ๋งๆอย่าง โรแบง เลอ นอร์กมองต์,มิเกล เมรีโน่,มาร์ติน ซูบิเมนดี้,มาร์ติน โอเดการ์ด,ดาบิด ซิลบา,อเล็กซานเดอร์ อีซัค และ อเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอท อยู่ในการครอบครอง ให้อารมณ์ ปาร์ม่า ยุค 90 เบาๆเหมือนกัน
เรอัล โซเซียดาด พีคสุดในฤดูกาล 2022-23 ที่คว้าอันดับ 4 ลา ลีกา ได้ตั๋วเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกหนแรกในรอบ 10 ปี
ในการเล่น แชมเปี้ยนส์ลีก เจ้าของฉายา ซูรี-อูดิน (ฟ้าขาว ภาษาบาสก์) ทำได้ไม่เลว
ภายใต้ฟอร์แมตเก่า อยู่ร่วมกลุ่มกับ อินเตอร์ มิลาน ,เบนฟิก้า และ เร้ดบูลส์ ซัลซ์บวร์ก ปรากฏว่าคว้าแชมป์กลุ่มไปครอง แต่น่าเสียดาย ทีมไปได้ไกลแค่รอบ 16 หลังโดน เปแอสเช ตบเดี้ยง 0-2 และ 1-2 ร่วงตกรอบ
ยูโร หนล่าสุดที่ เยอรมัน โซเซียดาด คือสโมสรที่มีนักเตะติดทีมชาติสเปนมากที่สุด 4 คน ได้แก่ โรแบง เลอ นอร์กมองด์, มิเกล โอยาซาบัล,มิเกล เมรีโน่ และ มาร์ติน ซูบิเมนดี้
หลัง สเปน ผงาดคว้าแชมป์ไปครอง ในตลอดนักเตะหน้าร้อน โซเซียดาด เสีย ฆาบี กาลัน ,เลอ นอร์กมองด์ ให้ แอตมาดริด , เสีย เมรีโน่ ให้ อาร์เซน่อล
แม้ทีมจะรับทรัพย์ฉ่ำถึง 63.5 ล้านยูโร แต่ในมุมของฟุตบอลถือว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ แบ็กซ้ายตัวหลัก,มิดฟิลด์ตัวคุมเกม และ เซนเตอร์ตัวหลัก นับเป็นกระดูกสันหลังของทีมทั้งนั้น
ดีที่ ซูบิเมนดี้ รักในหมู่แมกไม้ ต้นน้ำลำธาร จึงปฏิเสธข้อเสนอ ลิเวอร์พูล ไม่งั้นหมดสต็อก
โซเซียดาด ทำการเสริมทัพเพื่อทดแทนผู้เล่นที่เสียไป ซึ่งเอาจริงๆตัวที่เข้ามาชื่อชั้นสู้ตัวเก่าไม่ได้เลย ต้องปรับจูนกันเยอะ ประกอบกับสตาร์ในทีมจู่ๆก็ฟอร์มวูบ
โอยาซาบัล คนยิงประตูชัยพา สเปน คว่ำ อังกฤษ 2-1 ในนัดชิงยูโร ออกอาการ Burnout อย่างเห็นได้ชัด ต้นซีซั่นเล่นไม่เอาอะไรเลย ไม่สนต้นไม้ ป่าเขา ออกทะเลท่าเดียว
10 เกมแรกใน ลีกา สถิติแย่ ทำได้ 1 ประตู กับ 1 ใบแดง ขณะที่ อูมาร์ ซาดิก กองหน้าไนจีเรียหายเจ็บหนักกลับมาแต่ไม่สามารถเรียกฟอร์มเดิมสมัยอยู่ อัลเมเรีย ได้ (สุดท้ายถูกปล่อยให้ บาเลนเซีย ยืมเมื่อมกราคมที่ผ่านมา)
ฮามารี่ ตราโอเร่ แบ็กขวาเซเนกัลที่โดดเด่นมากเมื่อซีซั่นก่อน โชคร้ายเจ็บ ACL ในเกมที่ 4 ของฤดูกาล ต้องดัน ยอน อารามบูรู ดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ ขึ้นมาแทน ซึ่งมักก่อความผิดพลาดอยู่เรื่อยๆ จน อัลกวาซิล ต้องแก้ปัญหาด้วยการปรับให้ อาริตซ์ เอลูสตอนโด้ จากเซนเตอร์ไปยืนแบ็กขวาแทนเวลาเล่นเกมสำคัญ
ด้าน ทาเคฟุสะ คุโบะ กับ บราอิส เมนเดส 2 แกนหลักก็ทำได้แค่ประคองตัว แต่แบกทีมไม่ได้เช่นกัน
ส่วนนักเตะใหม่อย่าง เซร์คิโอ โกเมซ, ออร์รี่ สไตน์ ออสคาร์ส์สัน, ลูก้า ซูซิช (ซื้อมาแทน เมรีโน่) ก็ต้องการเวลาในการปรับตัว
ด้วยเหตุผลข้างต้น ฤดูกาลนี้ ผลงาน โซเซียดาด จึงเป๋ไปเป๋มา
7 เกมแรกใน ลีกา แพ้ 4 เสมอ 2 ชนะ 1 จากนั้นก็ฟอร์มขึ้นๆลงๆ เช้าชาม เย็นชามมาเรื่อย
ทว่าท่ามกลางฟอร์มที่หาความแน่นอนไม่ได้ เรื่องแปลกก็คือพวกเขายังเอาตัวรอดได้ในฟุตบอลถ้วย ทั้ง ยูโรป้า และ โกปา เดล เรย์
กระทั่งย่างสู่เดือนมกราคม ฟอร์มของทีมก็กระเตื้องขึ้น นักเตะใหม่เริ่มปรับสภาพทีม สตาร์ในทีมก็กลับมาคลำฟอร์มเก่าเจออีกครั้ง
คุโบะ กับ บราอิส เมนเดส มีบทบาทกับทีมมากขึ้น สำคัญคือเริ่มยิงประตูได้ เช่นเดียวกับ โอยาซาบัล รวมถึงตัวใหม่อย่าง ออสคาร์ส์สัน กับ ซูซิช ก็ดูจะเข้าที่เข้าทางกว่าเดิม
ใน ลา ลีกา ปัจจุบัน โซเซียดาด รั้งอันดับ 9 ของตาราง มี 34 แต้ม จากการลงสนาม 25 นัด ชนะ 10 เสมอ 4 แพ้ 11 ยิง 23 เสีย 23
แต่ใน โกปา เดล เรย์ พวกเขาทะลุถึงรอบรองชนะเลิศ และกำลังรอเล่นเลกแรกกับ เรอัล มาดริด คืนพรุ่งนี้ (26 ก.พ.)
ส่วน ยูโรป้า ก็อย่างที่ทราบ รอบเพลย์ ออฟ ไล่ถล่ม มิดทิลลันด์ ขาดลอย สกอร์รวม 7-3
ในแง่แท็คติกการเล่น อัลกวาซิล ชอบเล่นอยู่ 2 ระบบคือ 4-2-3-1 และ 4-3-3 แต่เวลานี้ทีมกำลังลงตัวที่ 4-3-3
ปัญหาสำคัญเวลานี้คือ ลูก้า ซูซิช ที่กำลังเข้าฟอร์มดันไปเจ็บเข่าเกมล่าสุดที่ชนะ เลกาเนส 3-0 ต้องพักถึงกลางเดือนมีนาคม
ตรงกลางจึงน่าจะใช้ ปาโบล มาริน ดาวรุ่งวัย 21 ลงมาเล่นร่วมกับ บราอิส เมนเดส และ ซูบิเมนดี้
11 คนแรกที่ดีที่สุดของ โซเซียดาด เวลานี้
(4-3-3) อเล็กซ์ เรมีโร่ - อาริตซ์ เอลูสตอนโด้, อีกอร์ ซูเบลเดีย, นาเยฟ อาเกิร์ด, ไอเอน มูนญอซ - บราอิส มเนเดส, มาร์ติน ซูบิเมนดี้, ปาโบล มาริน - ทาเคฟูสะ คุโบะ, มิเกล โอยาซาบัล, อันเดร์ บาร์เรเนเชอา
ด้านขุมกำลังสำรองที่น่าสนใจก็คือ เชรัลโด้ เบคเกอร์ คนนี้ความเร็วจัด แต่ไม่ค่อยแน่นอน, เซร์คิโอ โกเมซ (เด็กเก่าแมนซิตี้) ซึ่งถูกดันให้เล่นเป็นหน้าซ้าย, ออสคาร์ส์สัน กองหน้าตัวใหญ่จากไอซ์แลนด์
เรอัล โซเซียดาด ปีนี้มักเล่นดีกับทีมใหญ่
ซีซั่นนี้พวกเขาชนะ บาร์เซโลน่า 1-0, เสมอ แอต.มาดริด 1-1, ชนะ อาแจ็กซ์ 2-0 ,ชนะ บียาร์เรอัล 1-0 แต่บทจะหลุดก็หลุดง่ายๆ เหมือนกัน
กับ แมนยู พวกเขาเคยเจอมาแล้ว 6 ครั้ง ผลงานคือชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 3
เกมล่าสุดคือ ยูโรปา ลีก 22/23 รอบแบ่งกลุ่ม อี
โซเซียดาด แพ้ ปีศาจแดง 0-1 แต่ซีซั่นนั้นจบลงด้วยการคว้าแชมป์กลุ่มไปครอง
ด้านสไตล์การเล่น
โซเซียดาด ชอบครอบบอล เนื่องจากนักเตะส่วนใหญ่เทคนิคดี เล่นพื้นที่แคบๆเก่ง ทีมจะเล่นได้ดีเมื่อสามารถกำหนดทิศทางการเล่นด้วยตัวเอง ไม่ค่อยชอบเล่นเคาเตอร์ แอทแทค ที่ต้องอาศัยความอดทนเล่นเกมรับนานๆ และไม่ชอบบอลที่ถึงเนื้อถึงตัว ถ้าปล่อยให้มีเวลาคิด จะอันตรายมาก
จุดอ่อนสำคัญของ โซเซียดาด คือความเด็ดขาดในการจบสกอร์ พวกเขาครองบอลดี พาสบอลแม่นยำ มีเพลย์การเล่นสวยๆเสมอ แต่มักตกม้าตายเวลาสังหาร
หมายเหตุ : รอบน็อคเอาท์ 16 ทีมยูโรปา ลีก
เลกแรกเล่นที่ เรอาเล่ อารีน่า วันที่ 6 มีนาคม
เรอัล โซเซียดาด vs แมนยูไนเต็ด
เลกสองเล่นที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด วันที่ 13 มีนาคม
แมนยูไนเต็ด vs เรอัล โซเซียดาด
-เจมส์ ลาลีกา-