ใครจะเป็นแชมป์ลา ลีกา ปีนี้?

เรอัล มาดริด 50, แอตเลติโก 49 และ บาร์ซ่า 48 

จริงอยู่ 44 แต้มของ แอธเลติก บิลเบา เพียงพอต่อการยื่นเรื่องขอเป็นแคนดิเดต แต่เรื่องนี้ เราท่านผู้ตามดู ลา ลีกา มาหลายปี จะเข้าใจโดยไม่ต้องอธิบายว่า อีก 15 นัดข้างหน้า จริงๆแล้วเหลือม้าแค่ 3 ตัวเท่านั้น

กับลีกอื่น เราไม่ทราบได้ แต่กับ ลา ลีกา แค่นี้ก็เร้าอารมณ์สุดแล้ว ถือเป็นการลุ้นแชมป์ที่น่าตื่นเต้นและเข้มข้นที่สุดในรอบหลายปี

มาดริด-บาร์ซ่า อยู่ในวงนี้ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา มี แอตเลติโก ร่วมด้วย เอาจริงๆก็ถือเป็นเรื่องสามัญด้วยเช่นกัน 

ทว่าจุดที่ทำให้รู้สึกว่าการลุ้นแชมป์มันเข้มข้นกว่าที่ผ่านมานอกเหนือจากแต้มที่บี้ติดกันแล้วก็คือศักยภาพในปีนี้ของ ตราหมี 

เด็กๆของ โชโล่ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่อยู่ในระดับเดียวกับ มาดริด และ บาร์ซ่า ดวลกันตัวต่อตัวพวกเขาไม่แพ้ใครเลย 

ไม่ว่าจะขุมกำลังชุดแรกหรือเชิงลึกถือได้ว่าแกร่งทั่วแผ่น 

แนวรุก กรีซมันน์, ฮูเลี่ยน, ซอร์ลอท และ กอเรอา โหดไม่แพ้ใคร 

แนวรับมี เลอ นอร์กมองด์ กับ ล็องเล่ต์ เข้ามาเสริม แดนกลาง เด ปอล ก็เรียกร่างทองคืนกลับมาได้แล้ว แถมมี 'ลูกชาย' จูเลียโน่ ที่ฟอร์มเทพจนไม่มีใครกล้าพูดคำว่า 'เด็กเส้น' ให้ได้ยิน

ฝั่งยอดทีมแค้นกาตาลุนญ่า เรื่องขุมกำลังไม่ต้องพูดถึง ชุดนี้ดาวรุ่ง+ตัวเก๋าผลลัพธ์ออกมาลงตัวแบบสุดๆ 

นักเตะคุณภาพสูง ทีมเวิร์คดี วิธีการเล่นเยี่ยม และที่กำลังโดดเด่นอย่างต่อเนื่องคือฟอร์มหลังปีใหม่ที่กลับมาร้อนแรงเหมือนช่วงต้นซีซั่น 

ในส่วนของ มาดริด ไม่ต้องอธิบายกันเยอะ ตัวรุกที่มีนั้นจัดอยู่ในระดับโลกทั้งสิ้น เอ็มบั๊บเป้,วินิซิอุส,โรดรีโก้ ตามด้วยตัวสนับสนุนชั้นเลิศอย่าง จู๊ด เทียบชื่อชั้นไม่มีใครดีกว่านี้อีกแล้ว

ในทุกๆมิติ ทั้ง 3 มีจุดดี จุดด้อยแตกต่างกัน 

บาร์ซ่า มีเกมรุกโหดที่สุด ยิง 64 ประตู

แอต.มาดริด มีเกมรับเหนียวสุดเสีย 15 ประตู (แต่ยิงได้แค่ 38) 

เรอัล มาดริด อยู่ตรงกลางยิง 51 เสีย เสีย 22 ประตู 

พาร์ทเกมรุก บาร์ซ่า ดีสุด ท็อปสกอเรอร์ (เลวี่ 18 ) กับ ท็อปแอสซิสต์ (ยามาล 10 ) อยู่ในทีมพวกเขาหมด

ในพาร์ทเกมรับ ถ้าลงไปเล่นแล้วค่าเฉลี่ยเสียประตูอยู่ที่ 0.65 / เกม แบบ แอตเลติโก โอกาสเก็บแต้มในแต่ละนัดมีสูงมาก 

แต่ถ้า overall ทั้งรับและรุก มาดริด ดูสมดุลสุด เกมรุกยิงได้เยอะ เกมรับก็ไม่เสียง่ายเหมือนกัน

แต่ทีมชุดขาวก็มีปัญหา กองหลังกำลังบาดเจ็บระนาว นอกจาก รือดิเกอร์ กับ อลาบา ที่เจ็บติดๆกันแล้ว ล่าสุด ลูกัส บาสเกซ ยังเดี้ยงไปอีกราย เล่นเกม ลีกา นัด 24 ไม่ได้แน่นอน

ระหว่างช่วงเวลาที่ไม่มีทั้ง รือดิเกอร์, อลาบา และ ลูกัส บวกกับตัวเจ็บยาวอย่าง มิลิเตา และ การ์บาฆาล มาดริด จะพลาดเสียแต้มเพราะความไม่สมบูรณ์นี้หรือไม่ ? และอีก15 นัดที่เหลือ จะมีผลกระทบต่อผู้เล่นคนอื่นที่ต้องลงเล่นแบบไม่ได้พักด้วยแค่ไหน ? 

จุดนี้ก็น่าคิด

นี่คือสิ่งที่น่ากังวลสำหรับ มาดริด 

ส่วน บาร์ซ่า ฟอร์มที่ร้อนแรงนับว่าน่ากลัวก็จริง แต่ใครจะรู้ล่ะว่าจะสะดุดเมื่อไหร่ ช่วง พ.ย. ถึง ธ.ค. พวกเขาฟอร์มหลุดแจกแต้มเป็นว่าเล่น 

แพ้ โอซาซูน่า,แพ้ โซเซียดาด, เสมอ เซลต้า, แพ้ ลาส ปัลมาส, เสมอ เบติส,แพ้ เลกาเนส ,แพ้ แอต.มาดริด,เสมอ เคตาเฟ่

ดูเกมที่พวกเขาแพ้เเละเสมอซิ ไม่ใช่แค่จำนวน แต่หมายรวมถึงชื่อชั้นคู่แข่งส่วนใหญ่ที่พวกเขาเสียแต้มให้ 

ศัตรูของ บาร์ซ่า ก็คือความไม่เสถียรของตัวเองซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อนุญาตให้เกิดขึ้นสำหรับการชิงชัยในระบบลีก 

แถมค่าเฉลี่ยแชมป์ลา ลีกา ช่วง 10 ปีหลัง มีถึง 9 ปีที่ทีมแชมป์แพ้ไม่เกิน 5 นัด ส่วนใหญ่ตกอยู่ที่ 1-4 นัด มีเพียงซีซั่น 2022–23 ที่แชมป์แพ้ 6 นัดซึ่งก็คือ บาร์ซ่า นั่นเอง 

คำถามคืออาการหลุดจะกลับเกิดขึ้นอีกมั๊ย ? และถ้าหลุดแพ้เกิน 6 นัดล่ะ  ?

ด้าน แอตเลติโก จุดอ่อนของพวกเขาอาจไม่ได้เห็นเด่นชัดนัก แต่การจะเป็นแชมป์เหนือทีมอย่าง มาดริด และ บาร์ซ่า ได้นั้น จะต้องมีชอตเข้าเบรกยาวๆ แบบที่เคยรันชนะ 8 นัดติด (นัดที่ 12-19) 

ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องให้อยู่ในระดับใกล้เคียง ไม่เช่นนั้นคงยากที่จะคว้าแชมป์เหมือนกัน 

มองไปยังโปรแกรมที่เหลืออยู่ 

บาร์ซ่า ดูจะหนักที่สุด เพราะเหลือเกมไปเยือน แอต.มาดริด (15-16 มี.ค.)กับ รับมือ เรอัล มาดริด (10-11 พ.ค.)ใน มอนจูอิกต์ 

แถม 3 นัดสุดท้ายยังมีทั้งเยือน เอสปันญ่อล,เหย้า บียาร์เรอัล และเยือน แอธ.บิลเบา 

ถ้าหากการลุ้นแชมป์ต้องตัดสินกันถึง 3 นัดสุดท้าย (ซึ่งมันมีแนวโน้มว่าจะเป็นอย่างนั้นสูง) บอกได้เลยว่ามันจะเป็นช่วงเวลาที่ตึงเครียดที่สุดของสาวกบาร์เซโลนิสต้าทั้งโลก

หลังพาทีมยันเสมอ มาดริด 1-1 โชโล่ ยกว่า บาร์ซ่า คือทีมที่ดีที่สุดใน ลีกา 

ด้าน คาร์เล็ตโต้ บอกการลุ้นแชมป์จะสูสีไปจนนัดสุดท้าย 

ส่วน ฟลิค ตอบนักข่าวว่า มี 3-4 ทีมที่เก่งมากๆ และ บาร์ซ่า เป็นหนึ่งในนั้น อย่างไรก็ตาม.....เส้นทางยังอีกยาวไกล.....

-เจมส์ ลาลีกา-