เดร์บี้ มาดริเลนโญ่ เรอัล มาดริด พบ แอตมาดริด จบลงด้วยสกอร์ 1-1 แน่นอนว่ามีประเด็นให้ถกกันเหมือนเช่นเคย
ไลน์อัพ
11 คนแรกของทั้งสองทีม ไม่มีอะไรเกินความคาดหมาย
เรอัล มาดริด ส่ง FAB4 ลงครบ แนวรับที่มีปัญหาเลือกใช้ ชูอา-อาเซนซิโอ ยืนคู่เซนเตอร์
ส่วน แอตเลติโก ไม่มี เลอ นอร์กมองด์ ที่แบน โฮเซ่ คิมิเนซ ได้ลงมาเล่นคู่กับ ล็องเล่ต์ ,แดนกลาง เด ปอล พ้นแบน กลับมาคุมเกมกับ ปาโบล บาร์รีออส คู่หน้า ฮูเลี่ยน กับ กรีซมันน์
.........................................
VAR
45 นาทีแรก เกม มาดริด ค่อนข้างช้า แอตเลติโก ดูดีกว่า แต่ประเด็นสำคัญไปอยู่ที่จังหวะจุดโทษนาทีที่ 30 ชูอาเมนี่ ปะทะกับ ซามู ลีโน่ ในกรอบเขตโทษ
เซซาร์ โซโต้ กราโด้ ผตส.ในสนามไม่ได้เป่าในจังหวะแรก แต่ ริการ์โด้ เด บูร์โกส ผตส.ในห้อง VAR ทักเข้ามาว่ามีจังหวะที่มีโอกาสเป็นจุดโทษ แนะนำให้ไปดูที่หน้าจอ
VAR : เราแนะนำให้คุณไปดูภาพเพื่อประเมินความเป็นไปได้ที่จะเป็นจุดโทษ, เซซาร์
VAR : เราจะหยุดภาพในจุดที่การสัมผัสกันเพื่อให้คุณเห็นได้ชัดเจน
VAR : เราส่งภาพให้คุณแล้ว และเดี๋ยวจะส่งภาพที่มีคุณภาพกว่านี้ไปให้เพื่อให้คุณเห็นจังหวะเหยียบ โอเคมั๊ย ?
หลัง เซซาร์ โซโต้ กราโด้ เห็นภาพ ได้ยืนยันกลับไปยังห้อง VAR
เซซาร์ โซโต้ กราโด้ : ผมจะเป่าให้เป็นจุดโทษ แต่จะไม่ให้ใบเหลือง แบบนี้โอเคนะ ?
สุดท้าย โซโต้ กราโด้ ให้จุดโทษกับ แอตมาดริด
อารมณ์แฟนๆสองทีมต่างกันสุดขั้ว
อันเชล็อตติ ทำท่าไม่อยากจะเชื่อ
กล้องถ่ายทอดสดแพนขึ้นไปจับภาพบนบล็อควีไอพี ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ซึ่งนั่งติดกับ เอ็นรีเก้ เซเรโซ่ ประธานแอตเลติโก ถัดไปเป็น โฆเซ่ หลุยส์ มาร์ติเนซ นายกเทศมนตรีนครมาดริด แฟนหมีตัวยง นั่งกันนิ่ง พยายามเก็บอาการสุดฤทธิ์
สุดท้าย ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ สังหารแบบปาเนนก้าเข้าไป
แอตเลติโก บุกนำ 0-1 !
ครึ่งหลังเกมของ มาดริด ดีขึ้นชัดเจน วินิซิอุส ที่เงียบในช่วง 45 นาทีแรกเริ่มจูนติด รวมถึงการขึ้นเกมฝั่งขวาของ โรดรีโก้
เอ็มบั๊บเป้ เองก็เช่นกัน แสดงให้เห็นถึงความกระหาย และทำได้สำเร็จ
จากจังหวะลุยขึ้นมาของ โรดรีโก้ ปาดเรียดมาหน้าปากประตูให้ จู๊ด เบลลิ่งแฮม ยิงจังหวะแรก ติดบล็อค คิมิเนซ มาเข้าทางหัวหอกฝรั่งเศสเก็บตกซัดเข้าไป สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1
จากนั้นก็เป็นเกมของ มาดริด ที่ไล่โขยกหาโอกาสยิงประตูได้มากกว่าอย่างชัดเจน แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ประตูเพิ่ม จุ๊ด โขกชนคาน โรดรีโก้ ยิงออก เมื่อตรงกรอบก็ไม่ผ่านมือ ยาน โอบลัค ที่ท็อปฟอร์ม
สถิติหลังเกม เรอัล มาดริด ยิง 23 ครั้งเข้ากรอบ 9 ครั้ง ส่วน แอตเลติโก ยิง 10 ครั้งเข้ากรอบครั้งเดียว
บทสัมภาษณ์หลังเกม
โชโล่ ซิเมโอเน่
ความรู้สึกหลังเกม
"เราทำได้ดีมากในครึ่งแรก แม้ว่าเราจะขาดความชัดเจนในการฉวยโอกาสยิงประตูที่เรามีไปก็ตาม เราสามารถจัดการได้ดีกว่านี้ ส่วนครึ่งหลังด้วยด้วยประตูของพวกเขา ด้วยความเข้มข้นที่พวกเขาเล่น แต่เราก็มีโอกาสยิงประตูเช่นกัน"
สองแต้มที่เสียไป
"ด้วยความเคารพต่อทุกความเห็น ในครึ่งแรกเราสามารถมีผลการแข่งขันที่ดีกว่านั้นได้ถ้าเราชัดเจนมากพอ"
จังหวะเข้าบอลของ เซบายอส
"ผู้ตัดสินพยายามทำหน้าที่อย่างดีที่สุดด้วยการนำกฏมาบังคับใช้ จังหวะนั้นบางคนก็ใบแดง บางคนก็ไม่ได้"
อันเชล็อตติ
ความเห็นเกี่ยวกับจุดโทษ
"ผมไม่พูดถึงจังหวะจุดโทษ ทำไมน่ะเหรอ ผมไม่อยากไง ง่ายๆแค่นั้นแหละ"
ความรู้สึกหลังเกม
"เราสมควรได้อะไรมากกว่านี้ เหนืออื่นใดก็คือผลงานในครึ่งหลังที่เราคอนโทรลเกมได้อย่างเบ็ดเสร็จซึ่งต่างจากครึ่งแรกชัดเจน ครึ่งแรกเราเล่นช้า ไม่เข้มข้น ไม่ดุดัน การเสียจุดโทษส่งผลกระทบต่อเรา เราไม่สามารถฉวยโอกาสได้เหมือนอย่างที่เราทำในครึ่งหลัง"
"เราออกมาพร้อมกับผลเสมอแต่ว่าฟีลลิ่งนั้นยอดเยี่ยมเพราะทีมทำได้ดีมาก"
การตัดสินของ VAR
" VAR คือคนที่เป่าจุดโทษ พวกเขาตัดสินมันหลังจากผู้ตัดสินเห็นเหตุการณ์หมดและประเมินมันเสร็จสิ้นแล้ว คนในวงการฟุตบอลไม่มีใครเข้าใจหรอก แต่ผมไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับประเด้นถกเถียงนี้"
คะแนนความสามารถหลังเกม โดยมาร์ก้า
เรอัล มาดริด
กูร์กตัวส์ 6, ลูกัส 5, ชูอาเมนี่ 7, อาเซนซิโอ 6, ฟราน 6, เซบายอส 6 , วัลเวร์เด้ 6, จู๊ด 7, วินิซิอุส 6, เอ็มบั๊บเป้ 6, โรดรีโก้ 7, อันเชล็อตติ 6
สำรอง
*บราฮิม, โมดริช, กามาวินก้า ไม่มีคะแนนเนื่องจากมีเวลาในสนามน้อยเกินไป
แอตมาดริด
โอบลัค 9, ยอร์เรนเต้ 6, คิมิเนซ 7, ล็องเล่ต์ 7, กาลัน 6, จูเลียโน่ 6, เด ปอล 8, ลีโน่ 6, บาร์รีออส 6, ฮูเลี่ยน 7, กริซมันน์ 6
สำรอง
เรนิลโด้ 6, โกเก้ 6, กอเรอา 5, โมลีน่า 6, ซอร์ลอท 5
โชโล่ 8
.................................................
บทสรุป
เป็น เดร์บี้ ที่ดูสนุก ไม่ง่วง ครึ่งแรก แอตเลติโก ดูดีกว่า ครึ่งหลังเป็นของ เรอัล มาดริด แทบจะฝ่ายเดียว ทั้งการคอนโทรลเกม ทั้งการสร้างโอกาส แต่จนแล้วจนรอดไม่สามารถส่งบอลเข้าประตูได้ จึงจำใจรับผลเสมอในบ้าน
ถ้ามองถึงความมุ่งมั่นในสนาม จะเห็นได้ชัดเจนว่า เรอัล มาดริด มีความพยายามที่จะเป็นผู้ชนะมากกว่า ขณะที่ แอตเลติโก พวกเขารับได้กับการบุกมาแบ่งแต้มที่ เบร์นาเบว
จะว่าไปแล้ว เดร์บี้ หนนี้ไม่ได้ส่งผลดีต่อ เรอัล มาดริด หรือ แอตเลติโก นัก แต่นับว่าเป็นผลดีต่ออันดับ 3 ที่ไล่หลังมาอย่าง บาร์ซ่า มากกว่า
หากทีมของ ฟลิค ชนะ เซบีย่า ที่ ปิซฆวน สำเร็จ การลุ้นแชมป์จะทวีความเข้มข้นอย่างมาก ถือเป็นกำไรของคอบอลลา ลีกา อย่างแท้จริง
-เจมส์ ลาลีกา-