ฟลอเรนติโน่ เปเรซ จวกรูปแบบการโหวต บัลลง ดอร์ พร้อมบอกว่าควรมีแค่คนดังกับโค้ชที่ได้โหวตรางวัลนี้
ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธาน เรอัล มาดริด ตำหนิรูปแบบการตัดสินรางวัล บัลลง ดอร์ ในปัจจุบัน โดยมองว่านักข่าวบางประเทศไม่ควรจะได้สิทธิ์โหวตเลยด้วย
นับตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไปนั้น สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ได้สิทธิ์เป็นผู้จัดรางวัล บัลลง ดอร์ ร่วมกับ ฟร้องซ์ ฟุตบอล สื่อของฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม ระบบการโหวตจะยังใช้ของ ฟร้องซ์ ฟุตบอล ตามเดิม นั่นคือการให้นักข่าว 100 คนจากประเทศที่อยู่ในอันดับโลก 100 อันดับแรกของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้สิทธิ์โหวต
สำหรับระบบการโหวตก็คือนักข่าวแต่ละคนจะเลือกนักเตะที่พวกเขาอยากโหวตขึ้นมาทั้งหมด 5 ราย โดยจะต้องมีการจัดลำดับด้วยว่าใครที่ควรได้คะแนนมากที่สุด โดยคนที่อยู่ในอันดับ 1 จะได้ 6 แต้ม, ที่ 2 จะได้ 4 คะแนน, ที่ 3 จะได้ 3 แต้ม, ที่ 4 ได้ 2 คะแนน และอันดับ 5 ได้ 1 แต้ม
ทั้งนี้ งานมอบรางวัล บัลลง ดอร์ หนล่าสุด เกิดประเด็นร้อนขึ้นด้วยเมื่อ มาดริด ไม่ส่งตัวแทนไปร่วมพิธีมอบรางวัลแม้แต่คนเดียว หลังจากพวกเขารู้ในช่วงก่อนงานมอบรางวัลว่า วินิซิอุส จูเนียร์ จะชวดได้รางวัลลูกฟุตบอลทองคำ ซึ่ง เปเรซ เผยว่าตอนนี้งาน บัลลง ดอร์ มีระบบการโหวตที่ผิดพลาด โดยมันควรจะให้เฉพาะคนดังและเหล่าโค้ชเท่านั้นที่ได้สิทธิ์โหวต
เปเรซ เผยว่า "ถ้าเกิดนักข่าวจาก นามิเบีย, อูกันด้า, แอลเบเนีย และ ฟินแลนด์ ไม่ได้สิทธิ์โหวตแล้วล่ะก็ วินิซิอุส ก็คงจะได้ บัลลง ดอร์ ไปแล้ว ประเทศเหล่านี้ไม่ได้ให้คะแนน วินิซิอุส แม้แต่คะแนนเดียว ไม่มีเลยสักแต้ม!"
"อย่างน้อยนักข่าวจาก ฟินแลนด์ ก็ประกาศลาออกจากงานของเขาไปแล้วนะ และเขาบอกว่าเขาจะไม่ขอเป็นส่วนหนึ่งในคณะกรรมการที่ได้สิทธิ์โหวตอีก เอาเป็นว่าผมซาบซึ้งใจกับการแสดงออกของเขาก็แล้วกัน"
"บัลลง ดอร์ ต้องถูกจัดโดยที่ไม่มีองค์กรไหนๆ เข้ามายุ่งเกี่ยว ส่วนคนที่ได้สิทธิ์โหวตตัดสินรางวัลนี้ก็ควรมีแค่คนที่มีชื่อเสียงโด่งดังจนได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและคนที่เป็นโค้ชเท่านั้น เพื่อที่ทุกคนที่ได้สิทธิ์โหวตจะได้ตระหนักว่าการโหวตของพวกเขามันจะส่งผลกับชื่อเสียงของพวกเขาด้วย"
"ทุกวันนี้เราไม่รู้เลยว่าใครโหวตให้ใครบ้าง บางคนเป็นนักข่าวที่มาจากประเทศที่เราไม่รู้จักด้วยซ้ำ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ เรอัล มาดริด เลยคิดว่ามันไม่เหมาะสมที่เราจะไปร่วมงานมอบรางวัล บัลลง ดอร์ ครั้งล่าสุด"