เฟเดรีโก้ บัลเบร์เด้ มิดฟิลด์ เรอัล มาดริด ระบุ ตนไม่เคยอยากไปเล่นใน อังกฤษ ตั้งแต่แรก หลังเคยไปทดสอบฝีเท้ากับ อาร์เซน่อล โดยบอกว่าตอนนั้นที่หลายคนพยายามผลักดันให้ตนไปอยู่กับ "ไอ้ปืนใหญ่" เป็นแค่เพราะคนเหล่านั้นต้องการหาผลประโยชน์จากตน
เฟเดรีโก้ บัลเบร์เด้ กองกลางคนเก่งของ เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก ลา ลีกา สเปน เปิดเผยว่าตนไม่เคยมีความคิดที่จะไปเล่นในประเทศอังกฤษอยู่แล้ว หลังจากเขาเคยไปทดสอบฝีเท้ากับ อาร์เซน่อล แต่ไม่ผ่านการทดสอบ
ทุกวันนี้ บัลเบร์เด้ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองกลางชั้นยอด หลังจากแข้งวัย 25 ปีทำผลงานได้โดดเด่นกับ มาดริด อย่างไรก็ตาม ในปี 2016 เขาเคยไปทดสอบฝีเท้ากับ อาร์เซน่อล เหมือนกัน เพียงแต่ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม "ไอ้ปืนใหญ่" ในตอนนั้นมองว่าเขาทำได้ไม่ดีพอที่จะติดทีมชุดใหญ่ ซึ่งไม่นานหลังจากนั้นดาวเตะชาวอุรุกวัยก็ไปเข้าอะคาเดมี่ของ "ราชันชุดขาว"
บัลเบร์เด้ เผยว่า "ถ้าคุณไปเซิร์ชหาเรื่องของผมทาง กูเกิ้ล คุณก็คงจะเจอเรื่องที่บอกว่าผมเคยเกือบย้ายไป อาร์เซน่อล ในตอนที่ผมอายุ 16 ปี ซึ่งนั่นเป็นเรื่องจริงแค่ครึ่งเดียว ผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับ อาร์เซน่อล หรอกนะ แต่ผมไม่เคยอยากย้ายไปเล่นที่ อังกฤษ แม้แต่นิดเดียว"
"ตอนนั้นธุรกิจมันครอบงำวงการฟุตบอลหมดจด ตอนนั้นมีคนบอกผมว่า -จะมีไอ้บ้าหน้าไหนที่ไม่อยากเล่นให้ อาร์เซน่อล กัน ? แกอยากอยู่เล่นที่ อุรุกวัย ต่อไปงั้นเหรอ ? นั่นมันบ้าไปแล้ว!- แต่สิ่งที่พวกเขาอยากจะสื่อก็คือ -เราจะทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำถ้าแกย้ายไปเล่นที่นั่น-"
"คุณจะรู้สึกตัวว่าในวงการฟุตบอลนั้นชีวิตของคุณมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณเองสักนิด คุณจะรู้สึกเหมือนเป็นตัวประกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่ยังอายุน้อย ขนาดครอบครัวของคุณยังมีสภาพเหมือนเป็นตัวประกันเลย ฟุตบอลมันเป็นหนทางในการทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนในทวีปอเมริกาใต้อย่างเรา และพวกที่เหมือนเป็นแร้งก็รู้ถึงเรื่องนั้นดี"
"พวกเขาสร้างแรงกดดันให้คุณในแนวทางที่ดีในสายตาของพวกเขา อย่างเช่นการบอกว่า -ให้ตายเถอะ เฟเด ถ้าแกไปเล่นที่ อาร์เซน่อล แกจะได้นอนในเตียงนุ่มๆ และได้อาบน้ำที่ยังอุ่นเป็นเวลาถึง 30-40 นาทีเลยนะ ? ใครจะไม่อยากมีชีวิตแบบนั้นกันวะ ?- พวกเขาส่งผมไปทดสอบฝีเท้าที่กรุงลอนดอนเป็นเวลา 1 สัปดาห์ แต่ผมไม่รู้สึกดีสักนิด"
"แน่นอนว่าถ้าดูถึงพวกวัตถุต่างๆ แล้วน่ะมันก็ดูดีเลย แต่เราไม่ใช่หุ่นยนต์นะ ความจริงก็คือครอบครัวของผมไม่สามารถมาอยู่ที่กรุงลอนดอนร่วมกับผมได้ ผมต้องใช้ชีวิตตัวคนเดียวด้วยวัยแค่ 16 ปี และไม่ได้พูดด้วยภาษาที่ถนัดของตัวเองอีก ในจำนวนนักเตะเยาวชนทุกๆ 1 คนที่ประสบความสำเร็จในการย้ายไปเล่นในต่างแดนน่ะมันก็จะมี 100 คนที่ล้มเหลว แต่คุณมักจะไม่สนใจคนเหล่านั้น"