มาร์กอส อลอนโซ่ โขกพา บาร์เซโลน่า นำก่อน แต่ทางฝั่ง เอสปันญ่อล ฮึดตามบดแชร์แต้ม 1-1 โดยเกมนี้สุดเดือด ทั้งสองทีมเหลือผู้เล่น 10 คน แถมมีการแจกใบเหลืองถึง 15 ครั้ง ส่งผลให้ "บาร์ซ่า" มี 38 คะแนน เท่ากับ เรอัล มาดริด แต่ ทัพ "อาซูกราน่า" มีผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่า ยึดจ่าฝูงของตาราง ขณะที่ "ไอ้นกแก้ว" มี 13 คะแนน รั้งอันดับ 16
ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน
วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม 2565
บาร์เซโลน่า 1-1 เอสปันญ่อล
สนาม : สปอติฟาย คัมป์ นู
บาร์เซโลน่า ที่เดินหน้าซิวชัยมาก่อนหน้านี้ 5 นัดติดในลีก รั้งอันดับ 2 ของตาราง ตามหลัง เรอัล มาดริด จ่าฝูง อยู่ 1 คะแนน ต้องเปิดรังรับมือ "ไอ้นกแก้ว" เอสปันญ่อล ที่ไม่ชนะใครในลีกมา 5 นัดติด โดยเกมนี้ เจ้าถิ่นจะได้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ลงช่วยต้นสังกัดหลังศาลกลางสเปน สั่งระงับโทษแบนของ ลา ลีกา ไว้ก่อน
เริ่มเกมมาเพียง 7 นาที เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่นที่ได้โอกาสลุ้นทำประตูก่อน จอร์ดี้ อัลบา วางบอลยาวไปให้ กาบี้ เอาบอลลงในกรอบเขตโทษ ก่อนได้จังหวะยิงแต่บอลยังไปติดเซฟ อัลบาโร่ เฟอร์นานเดซ ปัดบอลออกหลังไป ได้
หลังจากนั้นอีก 1 นาที ในจังหวะเตะมุม เป็นทางฝั่ง ราฟินญ่า ที่เปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ แต่ไม่มีใครเข้าโหม่งถึงบอล ทำให้เลยไปถึง อันเดรส คริสเตนเซ่น โหม่งช่งกลับมาให้ มาร์กอส อลอนโซ่ ได้โขกแบบจะๆ ส่งบอลเข้าประตูไป ช่วยพา บาร์เซโลน่า ขึ้นนำ เอสปันญ่อล 1-0
ต่อมาในนาทีที่ 24 เปดรี กอนซาเลซ พยายามต่อบอลก่อนทำชิ่งกับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ แล้วแทงบอลทะลุช่องต่อไปให้ ราฟินญ่า ได้โอกาสหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนมีจังหวะยิงแต่ไปติดบล็อคกองหลังทีมเยือนออกหลังไป
เกมดำเนินถึงนาทีที่ 34 ทีมเยือนได้โอกาสลุ้นทำประตูบ้าง โฆเซลู ซานมาร์ติน ตัดบอลได้ ก่อนวางบอลยาวข้ามไปให้ นิโก้ มาลาเมด ได้โอกาสเลี้ยงตัดเข้ากลางมาหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนได้ยิงบอลพุ่งตรงกรอบ แต่ยังไปโดน มาร์ค อังเดร แทร์ ชตีเก้น
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีทีมใดที่สามารถทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขันครึ่งแรก บาร์เซโลน่า ออกนำ เอสปันญ่อล 1-0
เริ่มครึ่งหลังมาในนาทีที่ 55 เจ้าถิ่นได้ฟรีคิก ก่อนเป็น เฟรงกี้ เดยอง เปิดบอลเข้ามา แต่บอลเลยไปถึง มาร์กอส อลอนโซ่ เก็บบอลเอาไว้ได้ ก่อนเปิดเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ได้จังหวะขยับขึ้นมาโมห่งเต็มๆ แต่บอลหลุดเสาออกหลังไป
นาทีที่ 71 ทีมเยือนได้จังหวะบุกสวนกลับ ก่อนเป็น โฆเซลู ซานมาร์ติน ที่มีจังหวะกระดกบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ ก่อนโดน มาร์กอส อลอนโซ่ เข้ามาสกัดล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป๋าเป็นจุดโทษทันที ก่อนเป็น โฆเซลู ซานมาร์ติน ที่ลุกขึ้นมาสังหารเองไม่พลาด ช่วยพา เอสปันญ่อล ตามตีเสมอ บาร์เซโลน่า 1-1
ต่อมาในนาทีที่ 78 จากจังหวะฟรีคิกของทีมเยือน ทางฝั่งแข้งบาร์ซ่ากำลังตั้งกำแพง ก่อนเป็น จอร์ดี้ อัลบา ที่เข้าไปบ่นผู้ตัดสินก่อนโดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงถูกไล่ออกจากสนาม ทำให้ บาร์เซโลน่า เหลือผู้เล่น 10 คนในสนาม
ก่อนที่ในนาทีที่ 80 ทีมเยือนจะมาเหลือผู้เล่นเพียง 9 คน เมื่อ เลอันโดร กาเบรร่า พุ่งเข้าไปเหยีบใส่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ทำให้ผู้ตัดสินแจกใบแดงไล่ออกจากสนาม ก่อนที่ วินิซิอุส ซูซ่า ที่พุ่งเข้าไปทำฟาวล์ในจังหวะต่อเนื่อง ก่อนที่ผู้ตัดสินจะไปเช็ก วีเออาร์ แล้วยกเลิกใบแดงของ เลอันโดร กาเบรร่า แต่ยังยืนยันแจกใบเหลืองให้ วินิซิอุส ซูซ่า ทำให้ทีมเยือนเหลือผู้เล่นในสนาม 10 คน
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีทีมใดที่สามารถทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขัน บาร์เซโลน่า เปิดบ้านเสมอ เอสปันญ่อล 1-1 แบ่งกันไปทีมละแต้ม ส่งผลให้ "บาร์ซ่า" มี 38 คะแนน เท่ากับ เรอัล มาดริด แต่ ทัพ "อาซูกราน่า" มีผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่า ยึดจ่าฝูงของตาราง ขณะที่ "ไอ้นกแก้ว" มี 13 คะแนน รั้งอันดับ 16 โดยเกมนี้สุดเดือด ทั้งสองทีมเหลือผู้เล่น 10 คน แถมมีการแจกใบเหลืองถึง 15 ครั้ง
รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามของทั้ง 2 ทีม
บาร์เซโลน่า (4-3-3) มาร์ค อังเดร แทร์ ชเตเก้น - แซร์จี้ โรแบร์โต้(ฌูลส์ กุนเด้ น.82),มาร์กอส อลอนโซ่,อันเดรส คริสเตนเซ่น,จอร์ดี้ อัลบา-เฟรงกี้ เดยอง (อเลฆานโดร บัลเด้ น.82),กาบี้ (เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ น.52),เปดรี กอนซาเลซ-ราฟินญ่า (อุสมาน เดมเบเล่ น.62),อันซู ฟาติ (เฟร์ราน ตอร์เรส น.62),โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
เอสปันญ่อล (5-3-2) อัลบาโร่ เฟอร์นานเดซ - ออสการ์ คิล, เฟร์นานโด กาเลโร่ (เอดู เอ็กโปซีโต้ น.57),เซอร์จี้ โกเมซ,เลอันโดร กาเบรร่า,บรียาน โอลิบาน - นิโก้ มาลาเมด(ฆาบี ปัวโด้ น.57),วินิซิอุส ซูซ่า,เซร์จี้ ดาร์เดย์ - มาร์ติน เบรทเวท,โฆเซลู ซานมาร์ติน