ย้อนไปช่วงดึกคืนวันศุกร์ น้องสาวที่คุ้นเคยกัน สมมติว่าชื่อ ‘จุ๊บจิ๊บ’ ซึ่งทำงานอยู่ในแวดวงเรสเทอรองต์ ที่มีระดับหน่อยในมหานครลอนดอน ส่งข้อความมาทางวอทส์แอพ "น้องบอกมาค่ะ โดมินิค (โซบอสไล) เบอร์ 8 ไปกินร้านน้องเค้าวันนี้"
ใครคนนี้ รู้ทันทีว่า นั่นเป็นร้านญี่ปุ่น โอมากาเสะ มิเชอลีน 1 ดาว ในย่านเมย์แฟร์ บนถนน Albemarle (ก่อนโควิดบุกโลก ออฟฟิศการบินไทยก็อยู่แถวนี้แหล่ะ) ที่คิดไว้ก่อนว่า เป็นศูนย์รวมของความแพง - หรูหรา ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม, ร้านอาหาร, ร้านขายของแบรนด์เนม, ร้านขายเพชร -นาฬิกา, ร้านประมูล อะไร และอะไร
เพราะรู้ว่า น้องคนไทยที่ส่งข่าวมาเป็นใคร ที่นั่นเป็น ร้านประจำของ โม ซาล่าห์ ก็ว่าได้ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ก็เคยไป
(ใครอยากสัมผัสประสบการณ์บ้าง ร้าน Taku Mayfair ต่ำสุด เทสติ้ง โอมากาเสะ มื้อกลางวันเฉพาะ พุธ -เสาร์ หัวละ 170 ปอนด์ ยังไม่รวมค่าเซอร์วิส แต่พวกนักเตะน่าจะเลือก ซิกเนเจอร์ โอมากาเสะ หัวละ 300 ปอนด์ หรือ เพรสทีจ โอมากาเสะ หัวละ 400 ปอนด์ อยู่แล้วฮะ)
บอกเลยว่า ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากนะครับ คิดไว้อยู่แล้วว่า ลิเวอร์พูล สมควรจะต้องเปลี่ยนทีมเยอะ เมื่อเป็นแค่..เกมเอฟเอคัพ และแค่ .. ไปเยือนทีมอันดับ 24 ระดับลีกรอง - แชมเปี้ยนชิพ ก็ต้องมีตัวหลักบางคน ได้พักบ้างหล่ะ
ย้ำนะครับว่า ตัวหลักบางคน ..
หากพอเห็นการเปลี่ยนทีมจากนัดก่อน ถึงสิบราย เหลือแค่คีพเพอร์ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ปล่อยให้ตัวหลักหลายคนได้พักเต็มที่ไปเลย นอกจากสุดหล่อ ดอม แล้ว โม ซาล่าห์, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, อิบู โกนาเต้, ไรอัน กราเฟนแบร์ก, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน, โคดี้ กัคโป, คอเนอร์ แบรดลี่ย์ ได้มีสุดสัปดาห์ที่ว่างบ้าง รวมทั้ง อาลี และ เทรนต์ ที่ต่างไม่เล่นลีกคัพ เซมิฯ ถล่มท็อตแน่ม (ยังต้องลุ้นว่า เทรนต์จะเล่นเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ วันพุธนี้ได้ป่ะ)
ความรู้สึกแรกของใครคนนี้คือ ว้าววว !
ว้าว ในทางบวกนะครับ ไม่ได้ตั้งแง่ว่า จัดทีมแบบนี้ 1.) ดูถุกคู่แข่ง 2.)อยากทิ้งถ้วยเอฟเอคัพ 3.) คิดอะไรหนอ คุณอาร์เน่อ สล็อต? ไม่อยากได้สี่ถ้วย ที่ฝรั่งแถวนี้เรียก Quadruple เหรอ?
- ถามหน่อย แผงหน้าตัวจริง หลุยส์ ดีอาซ - ดีโอโก้ โชต้า - เฟเดริโก้ เคียซ่า อ่อนเหรอครับ
เฮ้ย ไม่ใช่หนา ..
ซีซั่นนี้ ดาวเตะโคลอมเบียเปรี้ยงมาก ยิงในพรีเมียร์ลีกไป 8 ประตู แอสซิสต์อีก 2 ลูก ส่วนแชมเปี้ยนส์ ลีก ยิงไปแล้ว 3 ประตู ในขณะ โชต้า ก็เป็นขวัญใจของใครต่อใคร เด่นในเรื่องความคม
- กลางที่จัดลงมาในตอนแรก ยอมรับว่าอ่อนกว่าปกติ แต่ก็ยังมี วาตารุ เอ็นโดะ (ลงเล่นวันเกิดครบ 32 ปี), ฮาร์วี่ย์ เอลเลียต ที่กลับมาฟิตอีกครั้ง และไอ้หนูวัยสิบเจ็ดที่ผมเฝ้าดูการพัฒนาอย่างตื่นเต้น เทรย์ ไนโยนี่ ที่ไปฉกเด็กสร้างของ สุนัขจิ้งจอก เลสเตอร์ ซิตี้ มา .. ดูในตอนแรก ก็ไม่น่าจะหนักใจอะไรนะครับ
- ที่น่าสงสัยหน่อยก่อนเกม ใครคนนี้มองว่า เป็นที่กองหลัง โจ โกเมซ สวมปลอกแขนกัปตันนำทีม นี่คือการลงเล่นนัดแรกนับตั้งแต่เจ็บนัดเวสต์แฮม ปลายธันวาคม, จาเรลล์ ควอนซ่าห์ ที่พร้อมจะทำอะไรผิดพลาดได้เสมอ และเมื่อเห็น เจมส์ แม็คคอนเนลล์ เริ่มต้นที่แบ๊คขวา
การมี ดาร์วิน นูนเญซ, เคอร์ตีส โจนส์ พวกผู้เล่นซีเนียร์ บนม้านั่งสำรองด้วย นั่นคือแผนที่เตรียมไว้ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแทนผู้เล่นซีเนียร์ด้วยกัน ดึงออกมาพักถ้าขึ้นนำแล้ว หรือถ้าจำเป็นต้องแก้เกม
ซึ่งก็อาจจะมีการทักท้วงเมื่อจบเกมว่า ทำไมถึงไม่เปลี่ยน โจนส์ ลงมาให้ความนิ่งในแดนกลาง และอาจจะตีรวนไปหมด กลับไปสงสัยในการจัดทีม การแก้เกม คนที่พาหงส์แดงเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกแบบทิ้งห่าง และเข้ารอบน็อคเอ้าต์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฐานะทีมอันดับ 1 ของทั้งทวีป
ฟังตรงนี้นะ ไอ้ที่ตกรอบน่ะ เพราะ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียต ยกมือสูง (เพ่ก็ไม่เข้าใจน้องจุก ฮ่า) ทำเสียจุดโทษ และผู้เล่นซีเนียร์ไม่ได้ช่วยทีม ไม่ได้เล่นอย่างที่หัวหน้าโค้ช วางแผน และคาดหวัง
หลังอาจจะผิดแผนตั้งแต่ต้นเกม โกเมซ เดี้ยง ขยับ เอ็นโดะ ลงมายืนคู่ควอนซ่าห์ (ไม่ใช่คู่ในฝัน แต่ไม่ได้แพ้เพราะจุดนี้หรอก) ส่งเด็ก ไอแซ็ค มาบาย่า (20 ปี) ลงไปสัมผัสประสบการณ์เกมแข่งขันของฟุตบอลชุดใหญ่เป็นครั้งแรก แล้วดัน แม็คคอนเนลล์ ขึ้นแดนกลาง
แต่จุดสำคัญคือ พวกพรี่ๆ พวกรุ่นใหญ่ของทีม เล่นกันน่าผิดหวังครับ โดยเฉพาะ เคียซ่า ที่น่าจะอาศัยเกมบอลถ้วยแบบนี้ ในการแสดงตัว และผลักดันโอกาสในการมีส่วนร่วมมากขึ้นในช่วงสี่เดือนสุดท้ายของซีซั่น
สุดท้ายแล้ว การตกรอบที่พลีมัธ ไม่ใช่ โลกแตก ครับ ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับ ลิเวอร์พูล และ อาร์เน่อ สล็อต
โปรแกรมมันเอื้ออำนวย ให้สามารถพักตัวหลัก และส่งเด็กหลายคน ลงไปเพิ่มประสบการณ์ เกมการแข่งขันของทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุน้อยๆ ได้ ความพ่ายแพ้มันช่วยสอนหลายๆ อย่างให้เด็กไปในตัว
เห็นบางคนบ่นใบเหลืองของ ตัวสำรอง มาบาย่า ไปเขี่ยบอลทิ้งทำไม, แล้วก็โยงไปถึงที่เคยส่ง อามาร่า นัลโล่ (18 ปี) เซ็นเตอร์แบ๊ค ลงมาสัมผัสเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรกในชีวิต ที่พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น แล้วแปล๊บเดียวได้ใบแดง โอดครวญกันว่า ใช้เด็กเล่นแล้ว เป็นงัยหล่ะ โชว์ความอ่อนออกมา
โถ ไม่ใช่แค่เรื่องฟุตบอล ชีวิตคนเรา ต่างเรียนรู้จากความผิดพลาดทั้งนั้นแหล่ะครับ และเกมที่ คุณอาร์เน่อ ส่งเด็กเหล่านี้ลงเล่น เป็นแม็ตช์ที่ถ้าเกิดอะไรผิดพลาดแล้ว ไม่ได้ส่งผลต่อเป้าหมายใหญ่ของทีมแน่นอน
เอางี้นะ ถ้าใครจะว่า เด็ก ทำไมเล่นแบบนั้น แบบนี้
อยากให้นึกถึง พอล สโคลส์ อดีตสตาร์ตัวเอ้ แมนยูไนเต็ด มีใครไปสั่งได้ป่ะ ไม่ให้เข้าพรวด ฮะ เล่นจนแขวนสตั๊ด ก็เป็นเช่นนั้น ..
-ลิตเติ้ลโจ-