พลีมัธ พบ ลิเวอร์พูล ! 5 ประเด็นหงส์โดนหมูกัด- 4 แชมป์เป็นแค่ความฝัน

1. เจ้าบ้านเจองานช้าง

พลีมัธ ทีมบ๊วยของ แชมเปี้ยนชิพ สลับโผนักเตะตัวจริงสองรายจากเกมลีกนัดเฝ้าบ้านแซงชนะ เวสต์บรอมวิช 2-1

ไมรอน มุสลิช นายใหญ่ทีมเจ้าบ้านหันมาใช้บริการซูเปอร์ซับ ไรอัน ฮาร์ดี้ ที่เหมายิงสองตุงในเกมล่าสุด  และ ดาร์โก จียาบี้ ที่ยืมมาจาก ลีดส์  ออกสตาร์ตเกมนี้แทนที่  แม็ตธิว โซริโนล่า ซึ่งไม่มีส่วนร่วม ขณะที่ จอร์แดน เฮาจ์ตัน มีชื่อนั่งข้างสนาม

อย่างไรก็ดี พลีมัธ ซึ่งบุกไปเขี่ย เบรนท์ฟอร์ด ตกรอบสามถ้วยนี้ด้วยชัยชนะ 1-0 มีผลงานไม่สู้ดีเนื่องจากพวกเขาเพิ่งกำชัยได้ในเกมล่าสุดโดยก่อนหน้านี้ในการลงเล่นเกมลีกสี่นัด ทีมของ มุสลิช นายใหญ่คนใหม่สะกดคำว่าชนะไม่เป็น รวมทั้งสิ้นพวกเขาไม่ชนะเกมลีกมานานถึง 16 นัดติดต่อกัน

2. หงส์โรเตชั่นบานได้ โกเมซ คัมแบ็ค

ลิเวอร์พูล ของกุนซือ อาร์เน่อ สล็อต โรเตชั่นทีมมากถึง 10 ตำแหน่ง และได้ โจ โกเมซ หายเจ็บคืนสนามพร้อมสวมบทกัปตัน

หงส์แดง จัดให้ ควีวิน เคลเลเฮอร์ เฝ้าเสาต่อแค่รายเดียวเมื่อเทียบจากเกม คาราบาว คัพ รอบตัดเชือกนัดสองที่พวกเขาเปิดบ้านยำใหญ่ สเปอร์ส 4-0 เมื่อกลางสัปดาห์ ขณะที่ เทรย์ เอ็นโยนี่ กับ เจมส์ แม็คคอนเนลล์ เป็นสองดาวรุ่งที่ได้ออกสตาร์ต

นอกจากนี้ ดีโอโก้ โชต้า หายเจ็บกลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงร่วมกับ เฟเดริโก้ เคียซ่า และ หลุยส์ ดิอาซ โดย ดาร์วิน นูนเญซ เป็นสมาชิกของทีมชุดใหญ่รายเดียวที่มีชื่อนั่งข้างสนาม

สำหรับ วาตารุ เอ็นโด ได้ลงบู๊ฉลองวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 32 ปีพอดีถัดจาก เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตนักเตะของทีมที่ได้ลงเล่นในรายการนี้ในวันเกิดอายุครบ 34 ปีนัดฉะกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเดือนม.ค.2012

3. เดอะ ค็อป ไม่ปลื้มสิ่งนี้

ต้องยอมรับว่านานทีปีหน ลิเวอร์พูล ซึ่งเล่นฟุตบอลได้อย่างเอนเตอร์เทนเป็นที่สุด และเน้นเกมรุกเป็นหลัก แถมบุกได้อย่างอันตรายจะมีเกมที่น่าเบื่อกับเขาด้วยเหมือนกัน

ตลอด 45 นาทีแรกที่ โฮม พาร์ค หงส์แดง โชว์ลีลาได้อย่างจืดชืดประดุจเกมในครึ่งแรกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยุคของ รูเบน อโมริม ไม่มีผิดเนื่องจาก ผีแดง ในกำมือของนายใหญ่ชาวเมืองฝอยทองผลิตเกมในครึ่งแรกได้อย่างเชื่องช้า และน่าเบื่อให้สาวก เร้ด อาร์มี่ บ่นอุบกันตลอดทุกนัด

อย่างไรก็ดี เหตุที่เกมของ ลิเวอร์พูล ไม่ปะติดปะต่อแม้จะได้เล่นกับทีมรองบ่อนเป็นผลมาจาก สล็อต โรเตชั่นทีมแบบยกชุด แถมส่วนใหญ่นักเตะที่ได้ลงสนามแทบไม่ค่อยได้เล่นร่วมกันมากนัก ทีมเวิร์กจึงขาดความลงตัวกระทั่งแม้แต่ โชต้า ยังผ่านบอลสำเร็จในครึ่งแรกแค่หนเดียวเท่านั้น

หลังจบ 45 นาทีแรก หงส์แดง ทำได้แค่ครองบอลเหนือกว่าเจ้าบ้าน 78.80%:21.20% แต่เป็น พลีมัธ ได้ซัดมากกว่า 4:3 ครั้งโดย ลิเวอร์พูล ส่งบอลเข้ากรอบได้ 1 ครั้งขณะที่เจ้าบ้านทำไม่สำเร็จ

ด้วยเหตุนี้ ไฮไลต์หนึ่งเดียวในครึ่งแรกจึงอยู่ที่อาการบาดเจ็บของ โกเมซ ซึ่งลงเล่นไปได้แค่ 9 นาทีก็ต้องเปลี่ยนตัวออกทั้งๆที่เขาเพิ่งกลับมาลงสนามเป็นเกมแรกของปี 2025 หลังหายเจ็บแฮมสตริง

4. วีเออาร์ไม่ต้อง

เกม เอฟเอคัพ รอบสี่หลายคู่มีปัญหาในแง่ผลลัพธ์เนื่องจากรอบนี้ยังไม่มีการใช้วีเออาร์อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ผ่านเข้ารอบห้าได้จากประตูล้ำหน้าของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์

แต่สำหรับ ลิเวอร์พูล ชัดเจนว่า ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ทำแฮนด์บอลในเขตโทษโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งวีเออาร์ และส่งผลให้ พลีมัธ ได้สกอร์นำอย่างเหลือเชื่อจากการสังหารของ  ฮาร์ดี้ ที่กดเพิ่มเป็นสามเม็ดจากสองเกมโดยจอมเซฟลูกโทษอย่าง เคลเลเฮอร์ ไม่อาจช่วยอะไร หงส์แดง ได้

ซ้ำร้าย แม้จะพยายามทวงสกอร์คืน แต่ ลิเวอร์พูล ทำได้แค่หวาดเสียว แถมมีการทดเวลานานถึง 9 นาที ทีมจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ก็งัดทีเด็ดออกมาไม่สำเร็จ

จากฟอร์มที่เลวร้ายของ เร้ด แมชีน จึงต้องบอกว่าสมควรแล้วที่ พลีมัธ จะได้รางวัลตอบแทนอย่างงามแม้สถิติหลังเกมพวกเขาจะเป็นรองอาคันตุกทั้งการครองบอล 75%:25% และเป็น ลิเวอร์พูล ที่ได้ยิง 14 ครั้งเข้ากรอบ 10 ครั้ง ขณะที่เจ้าบ้านได้ยิง 10 ครั้งและเข้ากรอบ 2 ครั้ง

กระนั้นก็ดี สถิติระบุว่าเกมนี้ เร้ด แมชีน มีจังหวะความน่าจะเป็นของการได้ประตูต่ำที่สุดในซีซั่น 0.44 เท่านั้นจึงไม่แปลกที่พวกเขาจะโบกมือบ๊ายบายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

5. สี่แชมป์เป็นไปไม่ได้

เป็นอีกหนึ่งซีซั่นที่การพยายามคว้าแชมป์สี่รายการในซีซั่นเดียวกันของสโมสรในอังกฤษเป็นได้แค่ฝันกลางวัน

หลังกระเด็นตกรอบสี่ถ้วย เอฟเอคัพ ชนิดพลิกล็อควินาสสันตะโร ลิเวอร์พูล จึงหมดสิทธิ์สร้างประวัติศาสตร์อย่างแน่นอนแล้ว หากแต่พวกเขายังมีโอกาสซิวแชมป์ คาราบาว คัพ เป็นใบแรกในซีซั่นนี้ รวมทั้งแชมป์ พรีเมียร์ลีก และ แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ทีมของ สล็อต ถูกยกให้เป็นเต็งหามทั้งสองรายการ

กระนั้นก็ดี จากความปราชัยที่มีต่อ พลีมัธ เป็นหนแรกนับตั้งแต่ปี 1959 ทำให้ เร้ด แมชีน เป็นจ่าฝูงลีกสูงสุดของประเทศในวันฟาดแข้งรายที่สี่ที่แพ้ทีมรองบ่อนจนหลุดออกจากเส้นทางของถ้วยน็อกเอาต์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกตามหลัง ลีดส์ , เชลซี และ แมนฯ ซิตี้

นอกจากนี้ นับเป็นครั้งที่สี่ที่ ลิเวอร์พูล ลงเตะเกม เอฟเอ คัพ ในวันเดียวกันนี้ และพวกเขากระเด็นตกรอบทุกครั้งเช่นเดียวกับเกมแพ้ น็อตต์ส เคาน์ตี้ ในปี 1901 แพ้ ลีดส์ ปี 1972 แพ้ เวสต์แฮม ในปี 2016 กระทั่งล่าสุดหนีไม่พ้นโดน พลีมัธ สยบซึ่งทั้งสี่เกมเป็นการเล่นนอก แอนฟิลด์ ทั้งสิ้น