มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ เพลย์เมกเกอร์คนเก่งของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ออกอาการไม่พอใจคำตัดสินที่ส่งผลให้ต้นสังกัดของเขาแพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คาบ้าน 0-1 ตกรอบ 5 เอฟเอ คัพ เมื่อคืนวันพุธที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา
สตาร์หมายเลข 10 แห่งทัพ "เจ้าป่า" ลงเล่นเต็ม 90 นาที ในถิ่น เดอะ ซิตี้ กราวน์ด ซึ่งแน่นอนว่าได้เห็นเต็มตากับจังหวะประตูชัยหลังจาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส เปิดฟรีคิกให้่ กาเซมีโร่ สะบัดโขกจมตาข่ายในนาทีที่ 89
หลังจากลูกบอลนอนก้นตาข่าย เกมต้องหยุดชะงักไปนานพอสมควรเมื่อ ดาร์เรน บอนด์ ผู้ตัดสิน วีเออาร์ ขอเวลาเช็กล้ำหน้า ก่อนแจ้งไปยัง คริส คาวานาห์ เป็นประตูส่งให้ "ปีศาจแดง" ได้ไปต่อสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม กิ๊บบ์ส-ไวท์ กลับคาใจมองว่าประตูนี้ไม่ควรได้ โดยโพสต์รูปภาพลง อินสตาแกรม ส่วนตัว เปรียบเทียบจังหวะประตูของ กาเซมีโร่ กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ในนัดชิงคาราบาว คัพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมานี้เอง
กรณีของ ฟาน ไดค์ กองหลังกัปตันทีม ลิเวอร์พูล ถูกปฏิเสธลูกโหม่งตุงตาข่ายในเวลาแข่งปกติ เนื่องด้วย วาตารุ เอ็นโด มิดฟิลด์ทีมชาติญี่ปุ่นอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าก่อนขวางทาง ลีวาย โคลวิลล์ เซนเตอร์แบ็ก เชลซี ไม่ให้กลับไปป้องกัน ขณะที่ประตู กาเซมีโร่ ก็มี ราฟาแอล วาราน ยืนก้ำกึ่งล้ำหน้าขวางทางนักเตะ ฟอเรสต์ ด้วยเช่นกัน
ที่สุดแล้ว ประเด็น ฟาน ไดค์ ก็ตกกระแสลงไปเมื่อที่สุดแล้วดาวเตะดัตช์โหม่งอีกหนเป็นประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษ อีกทั้งยังมี ไมค์ ดีน อดีตผู้ตัดสินระดับท็อป ร่วมแสดงความเห็นยืนยันอีกเสี่ยง
"สิ่งเดียวเท่านั้นที่ผมรู้สึกเป็นประเด็นก็คือว่า เอ็นโด อาจจะขวางทางผู้เล่นที่มีสิทธิ์กลับไปประกบ ฟาน ไดค์ ตรงริมเขตโทษ นั่นคือสิ่งเดียวเท่านั้นที่ผมคิดว่าพวกเขาเจตนา" อาจารย์ ดีน กล่าวผ่านสื่อ สกาย สปอร์ตส์
"เอ็นโด มองดูผู้เล่นกองหลังแล้วหยุดยั้งเขาไม่ให้กลับเข้าตำแหน่งที่จะไปชนกับ ฟาน ไดค์ เมื่อลูกบอลหล่นเข้าไปในโซนนั้นแล้วก็ตรงกับจุดที่ (ลีวาย) โคลวิลล์ ควรจะอยู่ด้วย นั่นเองเป็นเหตุให้ประตูถูกยึดเอาไป มันเป็นการล้ำหน้าโดยเจตนา"