นับถอยหลังสู่ทริปเปิ้ลแชมป์,กุนโดกัน ทาสีฟ้าให้เมือง! 5 ข้อ แมนซิตี้ สยบ แมนยู ซิวเอฟเอคัพ

นับถอยหลังสู่ทริปเปิ้ลแชมป์,กุนโดกัน ทาสีฟ้าให้เมือง! 5 ข้อ แมนซิตี้ สยบ แมนยู ซิวเอฟเอคัพ
เดินหน้าล่าทริปเปิ้ลแชมป์แบบเต็มตัวแล้วสำหรับ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ มาครอบครองอีกใบต่อจาก พรีเมียร์ลีก ด้วยการพิชิต แมนฯ ยูไนเต็ด ในนัดชิงชนะเลิศที่ เวมบลีย์ เมื่อวันเสาร์ที่ 3 มิ.ย. ท่ามกลางสักขีพยาน 83,179 คน

ถึงขณะนี้ เท่ากับว่า เรือใบสีฟ้า เหลือภารกิจในเกมชิงดำถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก กับ อินเตอร์ มิลาน เท่านั้นซึ่งหากพวกเขากำชัยได้อีก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็จะสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์สามรายการใหญ่ในซีซั่นเดียวกันให้กับสังเวียนแข้ง เอติฮัด สเตเดี้ยม ได้หลัง ผีแดง เป็นทีมแรกและทีมเดียวของเมืองผู้ดีที่ประสบความสำเร็จมาก่อนในปี 1999

1. เรือส่ง ออร์เต้ก้า เฝ้าเสา


เป็นไปอย่างที่  กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนฯ ซิตี้ ประกาศเอาไว้ว่าเกมนี้ สเตฟาน ออร์เตก้า จะได้เฝ้าตาข่ายเนื่องจากเป็นรายการฟุตบอลถ้วยแม้ว่ามันจะเป็นนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอคัพ ก็ตาม

ขณะเดียวกัน แชมป์ พรีเมียร์ลีก มีทั้ง เควิน เดอ บรอยน์ และ แจ็ค กรีลิช สองตัวทีเด็ดฟิตเต็มสูบด้วย ขณะที่ในแดนหน้า เออร์ลิ่ง ฮาลั

2. ผีขาดสองแนวรุก


สำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด นอกจาก อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล จะบาดเจ็บจนต้องพลาดเกมนี้อย่างแน่นอนแล้ว อันโตนี่ ที่มีปัญหาบริเวณข้อเท้าก็ฟิตไม่ทัน ทำให้หมดโอกาสมีส่วนร่วมเช่นกัน  

ต่อการปราศจากปีกขวาทีมชาติ บราซิล บรูโน่ แฟร์นันด์ส จึงต้องโยกไปเล่นทางฝั่งขวาซึ่งเป็นบทบาทที่ขัดใจสาวก เร้ด อาร์มี่ อย่างช่วยไม่ได้ ขณะที่ เจดอน ซานโช่ จะโลดแล่นทางซ้ายโดยมี มาร์คัส แรชฟอร์ด สวมบทหัวหอกแทน มาร์กซิยาล

3. แฮนด์บอลกลบสถิติใหม่ แมนฯ ซิตี้


เปิดฉากมาได้แค่ 12 วินาที แมนฯ ซิตี้ ก็ออกสตาร์ตได้อย่างเลิศหรูด้วยการนำเร็ว 1-0 จากลูกยิงใบไม้ร่วงระยะ 25 หลาของ อิลคาย กุนโดกัน ชนิดที่ ดาบิด เด เคอา ได้แต่ยืนขาตาย

และแน่นอนว่านี่คือประตูที่เกิดขึ้นเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์นัดชิงชนะเลิศถ้วย เอฟเอคัพ ซึ่งเป็นการทำลายสถิติของ หลุยส์ ซาฮา ที่กระทุ้งได้ตั้งแต่ 25 วินาทีแรกในปี 2009 นัดที่ เอฟเวอร์ตัน ดวลกับ เชลซี แต่ลงเอยแล้วทีมของกองหน้าเฟรนช์แมนปราชัย 2-1

อย่างไรก็ดี แม้รูปเกมจะเป็นรองมหาศาล แต่ผ่านมา 33 นาที ผีแดง ก็ได้ลูกโทษเมื่อ อาร่อน วาน บิสซาก้า เติมเกมรุกขึ้นไปโขกบอลโดนมือ กรีลิช ที่ยกแขนขึ้นมา ทำให้ผู้ตัดสินต้องออกไปเช็กวีเออาร์ และเป่าให้เป็นลูกโทษโดย บรูโน่ สังหารได้อย่างเยือกเย็นตีเสมอเป็น 1-1 และเป็นการเสียประตูแรกในเกม เอฟเอคัพ ซีซั่นนี้ของทั้ง แมนฯ ซิตี้ และ ออร์เตก้า ด้วย

นับจากนั้นเหมือนดาวเตะ ผีแดง มีทั้งกำลังใจและความมั่นใจมากขึ้นเป็นอักโข และเริ่มสร้างเกมรุกสู้อริร่วมเมืองได้ดีขึ้นทันตาเห็น สวนทางกับ เรือใบสีฟ้า ที่เหมือนท้อแท้หลังโดนทวงประตูทั้งๆที่เกมเหนือกว่ากันมาก

จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ ครองบอลได้มากกว่า 61:39% แต่มีโอกาสยิงประตูเหนือกว่าไม่เยอะ 6:5 ครั้งหลังจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ขยับบุกได้ดีขึ้นในช่วงท้ายโดย เรือใบสีฟ้า ส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่าเล็กน้อยเช่นกัน 2:1 ครั้ง

4. กุนโดกัน แสบต้นเกมอีก


กลับสู่ครึ่งหลังได้ไม่นาน กุนโดกัน ทำแสบให้ ผีแดง อีกจนได้เมื่อซัดบอลจากหน้าเขตโทษตุงตาข่ายพา แมนฯ ซิตี้ นำอีกหน 2-1 และทำให้เขาเป็นนักเตะคนแรกนับตั้งแต่ปี 1963 ที่ตะบันจากหน้าเขตโทษได้สองตุงในนัดชิงถ้วย เอฟเอคัพ 

และแน่นอนว่าถึงตรงนี้ลูกทีมชอง กวาร์ดิโอล่า ไม่คิดผ่อนเกมเหมือนท้ายครึ่งแรกแล้วซึ่งส่งผลให้ แมนฯ ยูไนเต็ด โดนกดดันหนักมากขึ้นกระทั่ง เอริค เทน ฮาก ต้องแก้เกมด้วยการเปลี่ยน อเลฮานโดร การ์นาโช่ ลงไปแทน คริสเตียน เอริคเซ่น รวมทั้ง เวาท์ เว็กฮอร์สต์ และ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่ได้ลุกจากม้านั่งสำรองด้วย แต่ก็ไม่เป็นผลแม้จะมีเสียวในช่วงอึดใจสุดท้าย

จบเกม แมนฯ ซิตี้ ครองบอลได้ดีกว่า 60:40% แต่เป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่พยายามโหมบุกในช่วงท้ายหมายตีเสมออีกหนได้ง้างยิงมากกว่า 13:11 ครั้งขณะที่ เรือใบสีฟ้า ส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่า 5:3 ครั้ง

5. อนาคตยอดกัปตัน


อย่างที่รู้กันว่า กุนโดกัน กำลังจะหมดสัญญากับ เรือใบสีฟ้า และมีข่าวลือว่าเขามีใจให้กับ บาร์เซโลน่า ซึ่งมีโอกาสได้เขาไปเสริมทัพแบบไม่มีค่าตัว

กระนั้นก็ดี หลังระเบิดฟอร์มกดสองเม็ดพาทีมซิวแชมป์ เอฟเอคัพ ได้สำเร็จ กวาร์ดิโอล่า ยืนยันว่าทีมกำลังหว่านล้อมให้มิดฟิลด์ชาวเยอรมันต่อสัญญาใหม่ ขณะที่ตัวนักเตะระบุหลังเกมที่ เวมบลีย์ ว่ายังไม่ได้ตัดสินใจอะไรทั้งนั้น

ต่อประเด็นนี้ เชื่อว่าจะได้ข้อสรุปหลังเกมชิงถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก กับ อินเตอร์ มิลาน อย่างแน่นอนโดยเฉพาะหาก กุนโดกัน คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ ได้ เขาก็อาจตัดสินใจอำลาทีม เรือใบสีฟ้า อย่างยิ่งใหญ่หลังไม่หลงเหลือความท้าทายในลีกเมืองผู้ดีอีกต่อไปแล้ว

อย่างไรก็ดี ที่แน่ๆ ณ ขณะนี้อดีตดาวเตะทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้ชื่อว่าเป็นพ่อค้าแข้งอายุมากที่สุดที่ยิงได้สองประตูในเกมชิงถ้วย เอฟเอคัพ (32 ปี 222 วัน) ต่อจากที่ แน็ต ลอฟท์เฮาส์ ผู้ล่วงลับสร้างสถิติเอาไว้ในปี 1958  ซึ่งเขาช่วยให้ โบลตัน พิชิต แมนฯ ยูไนเต็ด เช่นกัน 2-0 ในวัย32 ปี 249 วัน


ที่มาของภาพ : gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport