ตายยากตายเย็นอย่างแท้จริงสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในนาทีนี้ทั้งๆที่โดน เวสต์แฮม บุกมานำก่อนแท้ๆในเกม เอฟเอคัพ รอบห้าที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันพุธที่ 1 มี.ค. แต่สุดท้ายลูกทีมของ เอริค เทน ฮาก ก็พลิกสถานการณ์กลับมาแซงชนะ 3-1 จนได้
จึงเท่ากับว่าโอกาสลุ้นคว้าสี่แชมป์ของ เร้ด เดวิลส์ ยังเป็นไปได้ แต่ก่อนจะมองไปไกลขนาดนั้น พวกเขาจะต้องเตรียมตัวให้ดีในเกมแดงเดือดที่จะบุกไปเยือน ลิเวอร์พูล ในวันอาทิตย์นี้ซึ่งเชื่อแน่ว่าจะเดือดสมชื่ออีกตามเคย
1. แมนยู โรเตชั่นอื้อซ่า
แมนฯ ยูไนเต็ด ปรับทีมต้อนรับการมาเยือนของ เวสต์แฮม ตามความคาดหมาย แต่เป็นไปอย่างน่าหนักใจพอสมควรเนื่องจาก เอริค เทน ฮาก เลือกเก็บหัวใจสำคัญของทีมเอาไว้หลายราย
จากที่เผยก่อนเกมว่าต้องเช็กความฟิตของ ลุค ชอว์ กับ เฟร็ด ปรากฏว่าแบ็คซ้ายทีมชาติ อังกฤษ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะที่มิดฟิลด์ทีมชาติ บราซิล นั่งเป็นตัวสำรองร่วมกับ กาเซมีโร่ โดยมี สกอตต์ แม็กโทมิเนย์ ประสานงานกับ มาร์เซล ซาบิตเซอร์
และที่สำคัญ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กัปตันทีมได้จับคู่ในแผงหลังกับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ขณะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด มีชื่ออยู่ข้างสนามเช่นเดียวกับ ราฟาแอล วาราน และ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ซึ่งเท่ากับว่ามีการโรเตชั่นทีมมากถึงหกตำแหน่ง
รวมแล้วเจ้าบ้านเหลือขุนพลจากเกมชิงดำ คาราบาวคัพ ที่ได้ออกสตาร์ตเกมนี้คือ ดาบิด เด เคอา , บรูโน่ แฟร์นันด์ส , อันโตนี่ และ เวาท์ เว็กฮอร์สต์ ส่วน เจดอน ซานโช่ หายไปจากทีมเนื่องจากป่วยอีกหนจนได้
2. เวสต์แฮม หมุนทีมสี่ตำแหน่ง
เดวิด มอยส์ นายใหญ่ เดอะ แฮมเมอร์ส พาทีมกลับมาเยือนรังเก่าด้วยการเปลี่ยนทีมตัวจริงสี่รายจากเกม พรีเมียร์ลีก นัดชนะ ฟอเรสต์ 4-0
ที่แน่ๆ แดนนี่ อิงส์ กองหน้าลงเล่นไม่ได้เนื่องจากติดคัพไท รวมทั้งนายทวาร ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ที่กระดูกโหนกแก้มแตก อีกทั้ง วลาดิเมียร์ คูฟาล เดี้ยงมาจากเกมบู๊กับ เจ้าป่า เช่นกัน
สำหรับสี่รายที่ได้ออกสตาร์ตนัดนี้ประกอบไปด้วย อัลฟงส์ อเรโอล่า , เอเมอร์สัน พัลไมรี่ , มิคาอิล อันโตนิโอ และ ปาโบล ฟอร์นัลส์ โดยที่ จาร์รอด โบเว่น นั่งอยู่ในซุ้ม
3. ครึ่งแรก เด เคอา งานชุก
แม้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะเริ่มเกมได้ดูดีทั้งๆที่โรเตชั่นทีมหลายตำแหน่ง แต่ไม่นานเท่าไหร่หลังจาก เวสต์แฮม เริ่มจับจังหวะได้ ดาบิด เด เคอา ก็ต้องออกแรงเซฟมากกว่า อเรโอล่า ซะอีกซึ่งชี้ให้เห็นว่าการปราศจาก กาเซมีโร่ ส่งผลถึงเกมในแดนกลางของ ผีแดง ที่อ่อนด้อยลงไปโดยเฉพาะในรายของ แฟร์นันด์ส ที่ไม่มีบทบาทเอาซะเลยตลอด 45 นาทีแรก
นอกจากนี้ คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟอย่าง แม็กไกวร์ กับ ลินเดอเลิฟ ต่างก็ไม่มีความคล่องตัว และส่งผลให้ ขุนค้อน สบโอกาสสร้างปัญหาให้นายทวารสแปนิชหลายหน แม้จังหวะสับไกของทีมเยือนจะไม่ได้น่ากลัวมากนัก แต่ก็ทำให้เจ้าของสถิติคลีนชีตของ ผีแดง ต้องทำหน้าที่ป้องกันประตูอย่างแข็งขัน
จบครึ่งแรก ปีศาจแดง ครองบอลได้มากกว่า 59:41% และได้ส่องยิงมากกว่าก็จริง 7:6 ครั้ง แต่อย่างที่บอกว่า เด เคอา ต้องปัดป้องลูกยิงอย่างน่าเสียวไส้เนื่องจาก ขุนค้อน ส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่า 4:2 ครั้ง
4. ลำบาก กาเซมีโร่ จนได้
เริ่มครึ่งหลัง เทน ฮาก แก้เกมทันทีด้วยการเปลี่ยน กาเซมีโร่ ลงไปแทน แม็กโทมิเนย์ ที่พึ่งพาไม่ได้ แถมมีใบเหลืองติดตัวด้วย
อย่างไรก็ตาม ขุนค้อน มั่นใจเต็มเปี่ยมแล้ว และนาทีที่ 55 ก็มาได้ประตูออกนำจากฝีเท้าของ ซาอิด เบนราห์มา จนส่งผลให้ แรชฟอร์ด ต้องลุกออกมาวอร์มทันที ก่อนลงไปแทน อันโตนี่ ที่ไร้พิษสง ขณะที่ ลินเดอเลิฟ ก็โดนเปลี่ยนออกให้ มาร์ติเนซ ลงสนาม
แม้เกมของทีมเยือนจะยังเหนือกว่า แต่ ผีแดง หวิดทวงคืนได้จากลูกโขกของ กาเซมีโร่ ที่ถูกวีเออาร์โมฆะเนื่องจากล้ำหน้า แต่ยังเฮงเหลือหลายที่มาได้ นาเยฟ อาเกิร์ด ขุนพลทีมเยือนโขกผิดเหลี่ยมสกัดลูกเตะมุมเข้าประตูตัวเองในนาทีที่ 77 ช่วยตีเสมอให้เจ้าบ้านซะอย่างนั้น
เท่านั้นไม่พอ นาทีสุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด มาได้ทีเด็ดจาก การ์นาโช่ ปั่นบอลจากกราบซ้ายเสียบเสาสองงดงามให้ ผีแดง แซงนำ 2-1 ก่อนที่ เฟร็ด ตัวสำรองจะลงมายิงลูกตอกฝาโลงช่วงทดเวลาให้ ผีแดง ทะลุเข้ารอบแปดทีมได้อย่างเหลือเชื่อด้วยชัยชนะ 3-1 พกความมั่นใจเต็มกระเป๋าก่อนบุกไปเยือน ลิเวอร์พูล ในเกมแดงเดือดวันอาทิตย์นี้
5. เสียดายแทน ขุนค้อน
ไม่เพียงแต่ มอยส์ หรอก แต่ใครที่เป็นกองเชียร์ เวสต์แฮม ย่อมต้องเสียดายไม่น้อยที่เกมนี้พวกเขามีโอกาสบุกมาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่เหมือนกันเนื่องจากได้ประตูนำก่อน และมีโอกาสทำเสียวแบบจะแจ้งหลายหน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มิคาอิล อันโตนิโอ น่าตำหนิอย่างแรงที่พลาดโอกาสทองในจังหวะหลุดเดี่ยวถึงสองครั้งโดยยิงไปติดเซฟ เด เคอา อย่างน่าเบิร์ดกระโหลกทั้งหมดซึ่งหากทั้งสองจังหวะเป็นประตูก็เชื่อได้เลยว่า แมนฯ ยูไนเต็ด หนีไม่พ้นต้องร่วงตกรอบคารังแน่
ดังจะเห็นว่าจากสถิติหลังเกม 90 นาที เดอะ แฮมเมอร์ส มีโอกาสเช็กบิลเข้ากรอบมากถึง 7 ครั้ง สูสีกับ ผีแดง ที่ยิงเข้ากรอบ 8 ครั้งจากโอกาสทั้งหมด 22 ครั้ง ขณะที่ เวสต์แฮม มีโอกาส 10 ครั้งแม้การครองบอลจะยังเป็นเจ้าบ้านที่เหนือกว่า 60:40
ฉะนั้นแล้ว หากจะมองกันที่การส่งบอลเข้ากรอบซึ่ง เวสต์แฮม ทำได้ดีมากในเกมนี้ แต่ผ่านมือ เด เคอา หนเดียวก็นับเป็นเกมที่แฟนบอล เดอะ แฮมเมอร์ส คงกลับบ้านเข้านอนในคืนนี้ไม่หลับแน่