หลังจากที่เด็กผีทุกหมู่เหล่าสะใจแบบสุดขีดคลั่งกันไปแล้ว วันนี้มาว่ากันถึง 'ความจริง' ที่เกิดขึ้นในค่ำคืนแห่งความบ้าระห่ำบ้างดีกว่า
1. มันเป็นการพลิกนรกกลับมาที่โคตรสาแก่ใจ แต่มันเป็นฟอร์มการเล่นที่ไม่น่าประทับใจเอาเสียเลยนะครับ ขอโทษ
แท้จริงมันคือชัยชนะที่ทุลักทุเลสุดๆ
เกมรับยังคงเสียประตูง่ายๆ และดื้อๆ กองหลังทั้งแผงไม่ได้เหนียวแน่นอะไรมากนักหรอก โดยไม่เว้นแม้แต่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์
มิเท่านั้น อ็องเดร โอนาน่า ที่เซฟลูกอันตรายไป 2-3 ครั้ง มันก็ยังไว้ใจไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ
ขณะที่เกมรุยังคงไม่มีความเด็ดขาด แม้นจะยิงได้ถึง 5 ประตูก็เถอะ
ที่น่าเกลียดคือเกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นรองคู่แข่งทั้งที่มีตัวผู้เล่นมากกว่า
2. ลองนึกดูนะครับว่าในทางกลับกัน
ถ้าเป็น ลียง ที่มีผู้เล่น 11 ตัว แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด เหลือผู้เล่น 10 ตัว
ผมกล้าพูดเลยครับว่า...ตายหยังเขียด !!!
3. ปีศาจแดงมีปัญหาในการ 'ปิดเกม' ยามที่ตัวเองได้เปรียบคู่แข่งอย่างแรง
ย้อนกลับไปในเกมแรกที่ ฝรั่งเศส - พวกเขาควรจะกลับออกมาพร้อมชัยชนะ เพื่อให้ตัวเองไม่ลำบากมากเกินไปในกมที่ 2 แต่ก็พลาดจนได้
เกมล่าสุดนำ 2-0 โดยมีโอกาสตอกตะปูปิดฝาโลง พวกเขาดันเอาค้อนที่ถืออยู่ในมือโยนทิ้งลงถังขยะซะอย่างนั้น !!!
และแน่นอนว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้
4. อาการของ ราสมุส ฮอยลุนด์ ยังคงโคม่าอย่างจงหนัก
จังหวะพิงกองหลัง เพื่อพักบอล เขามักจะเกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง แล้วก็เสียหลักล้ม
วิ่งช่องหาตำแหน่ง และพื้นที่ว่างไม่เป็น แต่กลับแสดงอาการหัวเสียเตะเสาประตูที่เพื่อนไม่ยอมผ่านบอลมาให้ซะอย่างนั้น
เกมล่าสุดมีเวลาในสนามถึง 87 นาที โดยหาจังหวะสับไกไม่ได้เลยสักครั้ง
ถามจริงๆ กองหน้าแบบนี้น่ะหรือที่จะช่วยให้ทีมพุ่งเข้าชนและวิ่งเข้าใส่ความสำเร็จ ???
5. การตามหลัง 4-2 แล้วกะซวกรวดเดียว 3 ดอก ในเวลาแค่ 7 นาทีจนพลิกกลับมาเป็นผู้ชนะแบบโคตรดราม่า
หลายคนชื่นชมว่า...นี่แหละสปีริตของปีศาจแดง United will never die แต่ผมกลับเห็นต่าง
ตอนทีมเยือนขึ้นนำ ด้วยสกอร์ 4-2 ภาษากายที่นักเตะพันธุ์อสูรแสดงออกมาคือ 'กูยอม' นะครับ
ขนาดกัปตันทีมนักสู้อย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ยังทำหน้าเหมือน 'ปลาตาย' พลางส่ายหัวช้าๆ
ทว่าเพราะ ลียง นี่แหละที่ทำร้ายตัวเอง เมื่อดันระเริงกันมากเกินไป คิดว่าตัวเองจะเป็นผู้มีชัยแน่ๆ แล้วเลินเล่อทำเสียจุดโทษแบบดื้อๆ ต่างหากที่เป็นตัวจุดประกายความหวังให้พลพรรคปีศาจแดงที่ถอดใจไปเรียบร้อย
โบนัส แทร็ค: บางทีฟุตบอลมันก็บ้าๆ บอๆ แบบนี้แหละ แต่การคัมแบ็คที่พิสดารแบบนี้ มิได้การันตีว่าคุณจะเป็นแชมป์อย่างแน่นอน
ความมหัศจรรย์ มันไม่เกิดขึ้นบ่อยๆ กับทีมที่ฟอร์มกระท่อนกระแท่นนะครับ
ล่าสุด บริษัทพูลที่เมืองหลวงลูกหนังปรับอัตราใหม่ให้ สเปอร์ส ขึ้นเป็น 'เต็งหนึ่ง' เหตุเพราะเจอคู่แข่งในรอบตัดเชือกอย่าง โบโด กลิมต์
บิลเบา คือ 'เต็งสอง' แมนฯ ยูไนเต็ด เป็น 'เต็งสาม' และนี่คือความจริง !!!
"บอ.บู๋"