แมนยู ยังรักษาสถิติไร้พ่ายในเกม ยูโรปา ลีก ได้ต่อไป แถมเป็นการกำชัยตลอดสี่นัดหลังด้วยแม้จะค่อนข้างถูลู่ถูกังเมื่อเปิดบ้านเอาชนะ เรนเจอร์ส ได้แบบเฉียดฉิว 2-1 จากประตูชัยของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส กัปตันทีมในช่วงทดเวลาหลังจาก "เดอะ ไลท์ บลูส์" ซัดตีเสมอได้ในช่วงท้ายเกมจากการฟาดแข้งที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 ม.ค.
1. อโมริม โรเตชั่นอื้อซ่า
รูเบน อโมริม กุนซือทีม แมนฯ ยูไนเต็ด โรเตชั่นทีมหลายตำแหน่งหลังจากทีมโชว์ฟอร์มได้อย่างเลวร้ายในเกม พรีเมียร์ลีก นัดแพ้ ไบรท์ตัน คารัง 3-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาโดยเขาน่าจะเน้นโฟกัสเกมลีกแมตช์บุกไปเยือน ฟูแล่ม หมายกู้สถานการณ์เนื่องจาก ผีแดง มีผลงานที่น่าอุ่นใจในรายการนี้
นายใหญ่โปรตุกีสเลือกส่ง ลิซานโดร มาร์ตีเนซ กลับมาลงสนาม และดร็อป แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ไปนั่งสำรอง ขณะที่ อ็องเดร โอนาน่า เสียตำแหน่งให้กับ อัลตาย บายินดีร์ ตามคาดหลังเล่นพลาดในเกมแพ้ นกนางนวล
ขณะเดียวกัน เจ้าบ้านปรับแดนกลางด้วยการใส่ชื่อ มานูเอล อูการ์เต้ และ ค็อบบี้ เมนู นั่งสำรอง ขณะที่ นุสแซร์ มาซราวี หลุดโผเนื่องจากถูกจับให้พักหลังบาดเจ็บเล็กน้อยโดยเปิดทางให้ คริสเตียน เอริคเซ่น ,โทบี้ คอลล์เยอร์ และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ออกสตาร์ต
อย่างไรก็ดี อันโตนี่ ยังมีชื่อเป็นตัวสำรองอีกเกมแม้จะตกเป็นข่าวจ่อย้ายไปค้าแข้งกับ เรอัล เบติส แบบยืมตัว ขณะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ไม่มีส่วนร่วมเป็นเกมที่สิบแล้วแม้จะได้กลับมาซ้อมกับทีมแบบเต็มสูบ
2. บัตแลนด์ คัมแบ็คโรงละครแห่งความฝัน(ร้าย)
เรนเจอร์ส ส่ง แจ็ค บัตแลนด์ นายทวารวัย 31 ปีกลับมาเฝ้าเสาเป็นเกมแรกในรอบหนึ่งเดือนหลังจากเขามีปัญหาเลือดออกภายในต้นขา และต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล
ก่อนหน้านี้ บัตแลนด์ เคยถูก แมนฯ ยูไนเต็ด ยืมตัวมาจาก คริสตัล พาเลซ ช่วงครึ่งหลังของซีซั่น 2022/23 และแม้จะมีชื่อเป็นตัวสำรอง 20 นัดในทุกรายการ แต่นายทวารซึ่งเป็นแฟนบอล ผีแดง ไม่ได้ลงเฝ้าเสาเลยแม้แต่เกมเดียว
นอกจาก บัตแลนด์ แล้ว เจมส์ ทาเวอร์เนียร์ กัปตันทีม "เดอะ ไลท์ บลูส์" ที่ร้างสนามไปนานพอกันได้กลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงในตำแหน่งแบ็คขวาโดย ริดวาน ยิลมาซ ถูกโยกไปสวมบทกองกลางฝั่งซ้าย
อย่างไรก็ดี แม้เกมในครึ่งแรก บัตแลนด์ จะเซฟลูกอันตรายได้อย่างน่าประทับใจ แต่ต้นครึ่งหลังเขาตกม้าตายชกลูกเตะมุมผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองให้ แมนฯ ยูไนเต็ด นำหน้า 1-0 จึงกลายเป็นการกลับมาเหยียบอดีตต้นสังกัดชั่วคราวด้วยการพบกับฝันร้าย
3. โอนาน่า ส่อตบยุงยาว
แม้เกมใน 45 นาทีแรกจะเป็นไปอย่างน่าเบื่อเนื่องจากเกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไร้พิษสงไม่เปลี่ยนแปลง และถูกคู่แข่งตั้งรับดักทางได้ไม่ยาก แต่อย่างน้อยพวกเขาก็พอจะหาโอกาสทำเสียวได้เช่นเดียวกับ เรนเจอร์ส
อย่างไรก็ดี ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุที่ตาข่ายของทั้งสองฝ่ายยังไม่ขาดเป็นเพราะว่า บายินดีร์ โชว์ฟอร์มเซฟทีมได้อย่างน่าพอใจโดยเขาไม่ยอมปล่อยให้อาคันตุกะคลำเป้าได้ง่ายๆเช่นเดียวกับ บัตแลนด์ ซึ่งดีแตกในต้นครึ่งหลัง
จากผลงานของ บายินดีร์ โดยเฉพาะช่วงครึ่งแรกที่ เรนเจอร์ส ยังมีจังหวะสับไกอยู่บ้างน่าจะทำให้ อโมริม ตัดสินใจมอบตำแหน่งประตูมือหนึ่งให้เขาทำหน้าที่แทน โอนาน่า อย่างถาวรได้แล้วเนื่องจากนายทวารเติร์กมีความรัดกุมในการเฝ้าประตูมากกว่า และเชื่อว่ากองเชียร์ เร้ด อาร์มี่ น่าจะเห็นดีเห็นงามด้วยอย่างแน่นอนหลังจากพวกเขาต้องทนเห็นผู้รักษาประตูทีมชาติ แคเมอรูน สร้างคอนเทนต์มามากพอแล้ว
จนในที่สุดในช่วงท้ายเกม แม้ บายินดีร์ จะเสียประตูตีเสมอ 1-1 แต่มันไม่ใช่ความผิดของเขาเนื่องจาก แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ตัวสำรองก่อความผิดพลาดเต็มเปา มือกาวชาวเติร์กจึงสมควรยึดตำแหน่งมือหนึ่งของทีมอย่างถาวร
4. แม็กไกวร์ คืนฟอร์ม(ห่วย)
ผ่านมาถึงวันนี้ แม็กไกวร์ ยังสลัดภาพกองหลังจอมเฟอะฟะไม่ได้ และ แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบทำแต้มหล่นก็เพราะเขาแท้ๆจากจังหวะโขกสกัดลูกฟรีคิกพลาดจนโดน ไซริล ดอสเซอร์ส เก็บไปตะบันผ่าน บายินดีร์ ซึ่งหมดสิทธิ์เซฟด้วยประการทั้งปวง
จากการเสียประตูตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 88 ทั้งๆที่ตลอดทั้งเกมทีมจากลีกวิสกี้แทบไม่มีวี่แววว่าจะแบ่งแต้มได้ มันจึงถือเป็นความผิดพลาดส่วนบุคคลของกองหลังทีมชาติ อังกฤษ ซึ่งเขาไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้เลย
ทั้งๆที่ ผีแดง คว้าเขามาจาก เลสเตอร์ ด้วยค่าตัวมหาศาล แต่จนแล้วจนรอด แม็กไกวร์ ไม่อาจโชว์ฟอร์มของกองหลังระดับท็อปได้สักทีเนื่องจากเขาไม่มีความคงเส้นคงวา และยากที่ทีมจะฝากความหวังเอาไว้ได้
อีกทั้งด้วยวัย 31 ปี แม็กไกวร์ จึงอยู่ในช่วงขาลงที่ไม่มีทางพัฒนาตัวเองได้อีกแล้ว อโมริม จึงหนีไม่พ้นต้องคิดหนักว่าจะใช้งานเขาในสถานภาพไหนจึงจะเหมาะสมที่สุด
5. แฟร์นันด์ส ยิงฉลองนัดที่ 50
จากการลงเล่นเกมนี้ทำให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้ลงสนามในเกม ยูโรปา ลีก เป็นนัดที่ 50 ของเขาพอดี แถมกัปตันทีมชาวโปรตุกีสได้ฉลองนัดที่สำคัญอีกต่างหากด้วยการเป็นฮีโร่ซัดประตูชัยให้ทีมได้ในช่วงทดเวลา
แม้ตลอดทั้งเกม สตาร์เลือดฝอยทองจะเล่นได้ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ แต่ในที่สุดเขาก็ระเบิดทีเด็ดให้ทีมในช่วงเวลาที่คับขันได้อีกครั้งกับการพาทีมเก็บสามแต้มได้ชนิดที่ไม่เปิดโอกาสให้ เรนเจอร์ส ได้แก้ตัวอีก
หลังซัดประตูให้ ผีแดง ซิวชัยได้สำเร็จ แฟร์นันด์ส สร้างผลงานสอยตาข่ายในรายการนี้ได้เป็น 21 ประตูแล้วบวกกับ 17 แอสซิสต์ซึ่งทำให้เขานับเป็นเจ้าพ่อฟุตบอลรายการนี้อย่างแท้จริง
อย่างไรก็ดี มิดฟิลด์ ผีแดง ยังเป็นรองนักเตะหนึ่งรายในรายการนี้ในแง่ของการสอยตาข่ายเนื่องจาก ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมย็อง ซัดประตูในรายการนี้ได้ 34 เม็ดและ 6 แอสซิสต์