รูเบน อโมริ กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คาดหวังจะใช้ทีมชุดที่ดีที่สุดในแมตช์คุมทีมลงเล่นที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ครั้งแรก
โบโด กลิมท์ เตรียมยกพลมาเยือน "โรงละครแห่งความฝัน" ในศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบ ลีก เฟส วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายนนี้ และงานนี้ทัพ "ปีศาจแดง" ต้องการชัยชนะอย่างมากเพื่อโอกาสในการผ่านเข้าไปเล่นในรอบน็อกเอาต์
สำหรับ อโมริม กำลังมองหาชัยชนะแรกในฐานะผู้จัดการทีมแมนยูไนเต็ด หลังเดบิวต์ด้วยผลงานไม่ค่อยหรูหราเท่าไหร่เมื่อทำได้แค่เสมอ อิปสวิช ทาวน์ 1-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้นการพบกับ โบโด จึงเป็นโอกาสดีที่จะคว้าชัยชนะเพื่อเอาฤกษ์เอาชัย
ที่สำคัญ กุนซือชาวโปรตุกีส ได้รับข่าวดีอย่างต่อเนื่องเพราะผู้เล่นที่มีปัญหาบาดเจ็บทยอยกลับมาเรื่อยๆ รวมทั้ง ลุค ชอว์ และ เมสัน เมาท์ ซึ่งเพิ่งได้ลงเป็นตัวสำรองในเกมที่พอร์ทแมน โร้ด ฉะนั้นมีแววที่ทั้งคู่จะได้ลงเล่นตัวจริงในเกมนี้
ขณะที่ ลีซานโดร มาร์ติเนซ และ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ก็กลับมาลงซ้อมกับทีมได้แล้ว แต่คาดว่า อโมริม ยังไม่เสี่ยงใช้งานในทันที ส่วนในรายของ ค็อบบี้ เมนู กับ ไทเรลล์ มาลาเซีย น่าจะต้องดูเหมือนร่วมทีมอยู่ข้างสนามไปอีกสักพัก เพราะพักไปนานด้วยเหตุนี้จึงไม่ต้องรีบเร่งส่งพวกเขาลงสนามในทันที
ดังนั้น อโมริม ค่อนข้างจะมีออปชั่นในการเลือกทีมไม่ค่อยมากนัก แต่เชื่อว่าด้วยขุมกำลังที่มีอยู่น่าจะเพียงพอในการปราบ โบโด ซึ่งชื่อชั้นเป็นรอง "ปีศาจแดง" พอสมควร
ผู้รักษาประตู : อ็องเดร โอนาน่า
สำหรับตอนนี้คงไม่มีใครที่ทำผลงานได้คงเส้นคงวาเท่ากับ โอนาน่า อีกแล้ว โดยเฉพาะในแมตช์ล่าสุดที่โชว์ซูเปอร์เซฟช่วยไม่ให้ทีมเสียประตูได้อย่างสุดยอด ดังนั้นนี่คือตำแหน่งที่ อโมริม ไว้วางใจได้ที่สุด และไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเปลี่ยน เพราะในเวลานี้ทีมต้องการความแน่นอนในเกมรับ ด้วยเหตุนี้การมี นายทวารชาวแคเมอรูน อยู่เฝ้าเสาประตูย่อมทำให้เพื่อนร่วมทีมอุ่นใจอย่างยิ่ง
กองหลัง : นุสแซร์ มาซราวี, มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์, ลุค ชอว์
แม้ว่า มาร์ติเนซ กับ แม็กไกวร์ จะหายเจ็บกลับมาลงซ้อมได้แล้ว แต่ดูเหมือนว่า อโมริม ยังไม่ต้องการเสี่ยงใช้งานทั้งสองคนเป็นตัวจริง ดังนั้นตัวเลือกในตำแหน่งแนวรับคงมีการปรับแค่นิดหน่อย โดยให้ ชอว์ ลงเป็นตัวจริงแทน จอนนี่ อีแวนส์ แน่นอนว่าการได้แบ็กซ้ายชาวอังกฤษ กลับมาประจำการน่าจะทำให้เกมรุกของทีมโดดเด่นมากขึ้น ในขณะเดียวกันเกมรับก็มีความเหนียวแน่นด้วยเช่นกัน
วิงแบ็ก : อาหมัด ดิยัลโล่, ดีโอโก้ ดาโลต์
ผลงานของ ดิยัลโล่ กับบทบาทใหม่ในยุคของ อโมริม ค่อนข้างโดดเด่นมากๆ โดยเฉพาะความเร็วและความคล่องตัวของนักเตะมีส่วนสำคัญในการช่วยทำให้ทีมได้ประตูตั้งแต่ไก่โห่ในแมตช์กับ อิปสวิช ทาวน์ ฉะนั้นการที่ให้แข้งรายนี้ลงเป็นตัวหลักในเกมรับมอื โบโด น่าจะเป็นโอกาสดีที่จะได้เห็นเกมรุกแบบสายฟ้าแลบของ แมนยู ขณะที่ ดาโลต์ ฟอร์มกำลังดีวันดีคืน และจะยิ่งช่วยทำให้ระบบการเล่นของ อโมริม มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
กองกลาง : มานูเอล อูการ์เต้, กาเซมีโร่
กาเซมีโร่ ทำผลงานได้น่าประทับใจภายใต้การคุมทัพของ อโมริม บทบาทในการคุมจังหวะการเล่น และการเชื่อมเกมยังคงไว้วางใจได้ แต่กระนั้นถ้าหาก เมนู สามารถเรียกความฟิตได้เต็มร้อย งานนี้ก็อาจต้องลุ้นว่า ดาวเตะชาวบราซิเลียน จะได้เล่นจนครบ 90 นาทีหรือเปล่า ขณะที่ อูการ์เต้ ต้องบอกว่าเป็นนักเตะคู่บุญของ กุนซือแดนฝอยทอง ตั้งแต่สมัยที่ทั้งคู่ร่วมงานกันที่ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ฉะนั้น สตาร์ทีมชาติอุรุกวัย ยังคงไว้วางใจได้ในการรับบทบาทกองกลางตัวรับ
แนวรุก : บรูโน่ แฟร์นันด์ส, อเลฮานโดร การ์นาโช่
หนึ่งในนักเตะที่ แมนยู ขาดไม่ได้เลยก็คือ บรูโน่ แม้ฟอร์มในเกมล่าสุดกับ อิปสวิช อาจจะดูไม่ค่อยโดดเด่น เพราะยังไม่ชินกับระบบใหม่ แต่คาดว่าด้วยศักยภาพของเขายังไงก็ต้องลงเป็นตัวจริง เนื่องจากคุณภาพในการผ่านบอลที่แม่นยำ จะเป็นตัวแปรสำคัญในการยิงประตู ส่วน การ์นาโช่ แม้จะโดนตำหนิเรื่องการใช้โอกาสเปลือง และการเล่นที่ขาดทีมเวิร์กไปบ้าง แต่หากมองในมุมบวก ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ คือผู้เล่นที่หาพื้นที่ว่าง และสร้างโอกาสในการยิงประตูได้เยอะมาก และถ้าเพิ่มความเฉียบคมเข้าไปคงจะทำให้ แมนยู ได้ประโยชน์อีกเยอะ
หน้าเป้า : ราสมุส ฮอยลุนด์
อโมริม แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด ไม่เหมาะกับการยืนหน้าเป้า ด้วยเหตุนี้จึงเลือกที่จะดร็อป "แรชชี่" เพื่อให้นักเตะได้พัก และรวบรวมสมาธิให้พร้อมสำหรับเกมพรีเมียร์ลีก ช่วงสุดสัปดาห์ ฉะนั้นนี่จึงเป็นโอกาสที่ ฮอยลุนด์ จะได้ลงไปกระซวกตาข่ายคู่แข่ง หลังฟอร์มฝืดไปหลายเกม และการพบกับทีมที่ค่อนข้างห่างชั้น จึงน่าจะทำให้ กองหน้าทีมชาติเดนมาร์ก มีสิทธิ์ได้เรียกความเฉียบคม และความมั่นใจกลับคืนมา
ทอมเม้ง