แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีคิวออกซองรายการ ยูโรปา ลีก รับมือ ทเวนเต้ ทีมแกร่งจากลีกดัตช์ ซึ่ง ณ ตอนนี้เป็นที่รู้จักในฐานะต้นสังกัดเก่าของ เอริค เทน ฮาก
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่น่าสนใจสำหรับสโมสรจากเมืองเอ็นเชเด้ ที่ยังมี "คอนเน็กชั่น" ข้องเกี่ยวกับอดีตโค้ชผีแดง ไหนจะพ่อค้าแข้งน่าจับตาอยู่พอประมาณ ติดตามอ่านได้ที่นี่...
- ทีมเก่า เทน ฮาก
เอริค เทน ฮาก สร้างชื่อให้โลกจำจากการสร้างทีม อาแจ็กซ์ ผูกขาดความสำเร็จในแดนกังหันลมช่วงไม่ถึงทศวรรษที่ผ่านมา แต่ถ้าจะมีสักทีมที่มีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นที่สุด ก็จะเป้นทีมไหนไปไม่ได้นอกเสียจาก ทเวนเต้
ย้อนกาลสมัยค้าแข้งช่วงยุค 1990 จนถึงต้นสหัสวรรษใหม่ เทน ฮาก ลงเล่นตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กสังักด ทเวนเต้ ถึง 3 ช่วงเวลา ระหว่างปี 1989-90, 1992-94 และ 1996-2002 เรียกได้ว่าเป็นทั้งสโมสรแรก และสุดท้ายในอาชีพของเขา
กระทั่งแขวนเกือกไปแล้ว เทน ฮาก ยังเริ่มผันตัวสู่อาชีพโค้ชที่อะคาเดมี่ของ ทเวนเต้ เริ่มจากคุมทีม U17 ต่อด้วย U19 จนถึงปี 2006 ถูกอัปเกรดช่วยงานชุดใหญ่ในฐานะผู้ช่วย เป็นจุดเริ่มต้นสู่เส้นทางกุนซือระดับท็อปในเวลาต่อมา
- บิ๊กแม็ค สร้างตำนาน
เทน ฮาก เคยเป็นมือขวาข้างกาย เฟร็ด รุตเท่น ถึง 2 รอบที่ ทเวนเต้ และ พีเอสวี คั่นกลางด้วย สตีฟ แม็คลาเรน อดีตผู้ช่วยของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในทีม แมนฯ ยูไเนเต็ด ชุดประกาศศักดา "เทรเบิลแชมป์" เมื่อปี 1999
หลังแยกทางไปบินเดี่ยวพา มิดเดิ้ลสโบรช์ ปลดล็อกแชมป์ลีก คัพ 2004 ต่อด้วยเข้าชิงยูโรปา ลีก ใน 2 ปีต่อมา "บิ๊กแม็ค" ไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จสักเท่าไร โดยเฉพาะกับทีมชาติอังกฤษชุดอัปยศ ตกรอบคัดเลือกยูโร 2008 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคงต้องยกเว้นไว้กับ ทเวนเต้
แม็คลาเรน รับงานที่ เดอ โกรลช์ เวสเต้ ในซัมเมอร์ปี 2008 และใช้เวลาเพียง 2 ปีปลุกปั้นทีมสู่บัลลังก์แชมป์เอเรดิวิซี่ สมัยแรกสมัยเดียวของสโมสรจนทุกวันนี้
แน่นอนว่า เทน ฮาก คือผู้ช่วยโค้ชยุคนั้น และนั่นเองเป็นจุดเชื่อมโยงนำพา บิ๊กแม็ค คืนถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็น 1 ในทีมงานของนายใหญ่หัวเหม่ง ก่อนแยกทางกันในขวบปีที่ 3 เมื่อไม่นานนี้เอง
- ความสำเร็จอื่นๆ
นอกเหนือจากแชมป์ลีกดัตช์ ทเวนเต้ ยังได้ชื่อเป็นรองแชมป์ลีก 3 หนในซีซั่น 1973/74, 2008/09 (ปีแรกของ แม็คลาเรน) และ 2010/11 หลังจาก บิ๊กแม็ค อำลาแล้วได้ มิเชล พรูดอมม์ ตำนานมือกาวทีมชาติเบลเยียมเข้ามารับช่วงคุมต่อ
ฤดูกาล 2010/11 พวกเขายังได้แชมป์ดัตช์ คัพ สมัยที่ 3 ถัดจาก 1976/77, 2000/01 และเป็นโทรฟี่ใบสุดท้ายของสโมสรจวบจนกระทั่งปัจจุบัน
นอกนั้นยังได้สัมผัสโล่แชมป์ โยฮัน ครัฟฟ์ ชิลด์ หรือดัตช์ ซูเปอร์คัพ อีก 2 หนในปี 2010 และ 2011
- กุนซือปัจจุบัน
โจเซฟ ออสติ้ง เข้ามาทำทีม ทเวนเต้ ตั้งแต่ซัมเมอร์ปี 2023 พร้อมฝากผลงานจับต้องได้ทันทีด้วยการจบอันดับ 3 ตีตั๋วลุยแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือก น่าเสียดายหน่อย ๆ ที่พ่าย เร้ด บูลล์ ซัลซ์บวร์ก หล่นลงมาเล่นยูโรปา ลีก
สำหรับประวัติความเป็นมาของโค้ชวัย 52 ปีคนนี้ เคยค้าแข้งตำแหน่งมิดฟิลด์ ระหว่างปี 1988-2006 ให้กับ เฟมดัม และ เอ็มเมน สโมสรระดับรอง เรียกว่าไม่เด่นดังสักเท่าไร
กระทั่งหลังจากแขวนเกือกทำงานโค้ชเบื้องหลังให้กับ วิเทสส์ ก่อนตัดสินใจบินเดี่ยวคุม อาร์เคซี วาลไวค์ ในปี 2021 นี่เองที่เริ่มปล่อยของ พาทีมเล็ก ๆ ความจุสนามเหย้าเพียง 7,508 ที่นั่ง อยู่รอดสบาย ๆ ในลีกท็อปไฟลท์ จบที่ 10 และ 9 ตามลำดับ
- ดาวดังต้องระวัง
ทเวนเต้ ชุดนี้มีจุดเด่นที่เกมรุกยิงไปแล้ว 12 จาก 6 เกมแรกลีกดัตช์ สูงสุดอันดับ 3 เป็นรองแค่ 2 ทีมหัวตารางอย่าง พีเอสวี และ อาแซด โดยในจำนวนประตูดังกล่าวมี เซ็ม สไตน์ ตัวรุกวัย 22 ปีรับสัมปทานไป 6 เม็ด หรือคิดเป็น 50 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว!
อย่างเกมล่าสุดบุกถล่ม อัลเมียร์ ซิตี้ 5-0 สไตน์ ก็ซัดคนเดียวถึง 2 เม็ด นอกจากนี้ยังมี แซม แลมเมอร์ส กองหน้าอีกรายที่น่าจับตา เพิ่งย้ายมาจาก เรนเจอร์ส รวมถึงเคยค้าแข้งในเซเรีย อา กับ อตาลันต้า มาก่อนด้วย
ริคกี้ ฟาน โวล์ฟสวิงเคิ่ล เป็นอีกชื่อที่น่าจะคุ้นหูไม่มากก็น้อย อดีตเคยล่าตาข่ายให้กับ นอริช ซิตี้ ในพรีเมียร์ลีก 2013/14 ปัจจุบันเป็นกองหน้าอะไหล่วัย 35
อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายสำหรับ ทเวนเต้ ที่จะหมดสิทธิ์ใช้งาน มิชาล ซาดิเล็ค มิดฟิลด์ตัวประสบการณ์ดีกรีทีมชาติเช็ก ที่พักยาวหลังจากโชคร้ายตกรถจักรยานขณะเตรียมความพร้อมก่อนเข้าร่วมยูโร 2024