นอกรังพังอีกแล้ว! เลสเตอร์ ฟอร์มสะดุดต่อเนื่องหลังบุกพ่าย พลีมัธ ทีมท้ายตาราง 0-1 ทำให้ "เดอะ ฟ็อกซ์" แพ้สองนัดติดแถมไม่ชนะเกมเยือน 4 นัดติดแล้ว แม้จะนำเป็นจ่าฝูงแต่แต้มหยุดที่ 88 คะแนน มีสิทธิ์หล่นบัลลังก์ไปอยู่ที่ 3 หากพรุ่งนี้ อิปสวิช และลีดส์ ต่างคว้าชัย
การแข่งขัน ฟุตบอล แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ เมื่อวันศุกร์ที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา พลีมัธ ทีมท้ายตารางเปิดบ้านรับมือจ่าฝูง เลสเตอร์ ซิตี้
โดยสถานการณ์ล่าสุดของทั้งสองทีม พลีมัธ ลงเล่นมาแล้ว 42 เกม มี 45 คะแนน รั้งอันดับที่ 20 ของตาราง โดยพวกเขามีแต้มเหนือกว่าโซนตกชั้นแค่สองแต้มเท่านั้น
ขณะที่ "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" เลสเตอร์ ซิตี้ ฟอร์มสะดุดพ่ายในเกมล่าสุดแต่ยังนำเป็นจ่าฝูงเหมือนเดิมหลังมี 88 คะแนนเท่ากับ อิปสวิช ที่สะดุดเช่นกัน แต่ "เดอะ ฟ็อกซ์" ลูกได้เสียดีกว่า และแข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด หลังเล่นไป 41 แมตช์ โดยหลังแข่งขันครบ 46 เกมแล้ว แชมป์และรองแชมป์ (อันดับ 1 และ2) จะได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกโดยอัตโนมัติ ส่วนอันดับ 3-6 ต้องไปเพลย์ออฟเพื่อหาผู้ชนะคว้าโควต้าสุดท้ายขึ้นลีกสูงสุดของอังกฤษต่อไป
เกมในครึ่งเวลาแรกทีมเยือน เลสเตอร์ เป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่าและมีโอกาสลุ้นหลายครั้งทว่ายังไม่เฉียบขาดพอ
และกลายเป็นเจ้าบ้านที่ใช้โอกาสไม่เปลืองแค่สับไกยิงหนแรกเป็นประตูขึ้นนำทันที ในนาทีที่ 21 จากจังหวะที่ อดัม ฟอร์ชอว์ ไหลออกซ้ายให้ มุสตาฟา บุนดู ลากตัดเข้าไปในกรอบก่อนปั่นหนีมือ เฮอร์มันเซ่น เสียบเสาไกลอย่างงดงามให้ พลีมัธ ออกนำ เลสเตอร์ 1-0 ก่อนที่ครึ่งแรกจะจบลงด้วยสกอร์นี้
เข้าสู่ครึ่งหลังทัพ "จิ้งจอก" ยังโหมบุกอย่างหนักแต่ไร้ความเฉียบคมซัดหลุดกรอบออกไป
เลสเตอร์ ยังบุกโจมตีอย่างหนักแต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คมพอ จบเกม พลีมัธ เปิดบ้านเบียดเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0 เก็บสามแต้ม พร้อมกระโดดขึ้นรั้งอันดับ 16 ของตาราง มี 48 คะแนน หนีโซนตกชั้น 5 แต้ม ส่วน "เดอะ ฟ็อกซ์" แพ้สองนัดติดแถมไม่ชนะเกมเยือน 4 นัดติดแล้ว แม้จะนำเป็นจ่าฝูงแต่แต้มหยุดที่ 88 คะแนน มีสิทธิ์หล่นบัลลังก์ไปอยู่ที่ 3 หากพรุ่งนี้ อิปสวิช และลีดส์ ต่างคว้าชัย
รายชื่อ 11 ผู้เล่นทั้งสองทีม
พลีมัธ (3-4-2-1) : ไมเคิ่ล คูเปอร์ - ฮูลิโอ เปลกูเซโล่, แดน สการ์, เบรนแดน กัลโลเวย์ - มิเกล มิลเลอร์, อดัม แรนเดลล์, อดัม ฟอร์ชอว์, บาลี มุมบ้า - มอร์แกน วิตเทเกอร์, ไรอัน ฮาร์ดี้ - มุสตาฟา บุนดู
เลสเตอร์ ซิตี้ (4-2-3-1) : มัดส์ เฮอร์มันเซ่น - ริคาร์โด้ เปเรยร่า, เวาต์ ฟาส, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, เจมส์ จัสติน - แฮร์รี่ วิงค์ส, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ - อับดุล ฟาตาวู, เคียร์แนน ดิวส์เบอรี่-ฮอลล์, สตีฟี่ มาวิดิดี้ - แพ็ตสัน ดาก้า