จิ้งจอกสะดุดพ่ายเสียสถิติชนะ 11 นัดรวดทุกรายการ ทั้งที่ได้จุดโทษขึ้นนำแต่ อับดุล ฟาตาวู ถูกไล่ออกกลายเป็นจุดเปลี่ยนโดน โคเวนทรี รัวแซง 3 เม็ดท้ายเกม 3-1 ส่งผลให้ช่องว่างจ่าฝูงแชมเปี้ยนชิพยังคาอยู่ 10 แต้ม ก่อน อิปสวิช รองจ่าฝูงแข่งคู่ดึกรับมือ ซันเดอร์แลนด์
ครึ่งแรกต่อกรกันสูสีสมราคาดาร์บี้แมตช์บนถนนสาย M69 แต่แล้วก่อนพักครึ่งมีจุดเปลี่ยน 2 เหตุการณ์เริ่มด้วย เคียร์แนน ดิวส์เบอรี่-ฮอลล์ เรียกจุดโทษจากจังหวะโดน บ็อบบี้ โธมัส ทำฟาวล์แล้วลุกมาซัดเอง 1-0 ในนาทีที่ 44 แต่ถัดมาช่วงทดเวลา อับดุล ฟาตาวู ปีกขวากานาไปสอยโฉ่งฉ่างใส่ เจค บิดเวลล์ รับใบแดงทันทีส่งผลให้ เลสเตอร์ พักครึ่งขึ้นนำแต่เสียเปรียบตัวผู้เล่น
ต่อครึ่งหลัง เอ็นโซ่ มาเรสก้า นายใหญ่ทีมเยือนรีบแก้เกมส่ง เคซี่ย์ แม็คเอเทียร์ ลงแทนที่ สตีฟี่ มาวิดิดี้ เพื่ออุดพื้นที่ด้านขวาพร้อมกับถอย ทอม แคนน่อน จากหน้าเป้ามาอยู่ฝั่งซ้าย แต่แล้วเข้าท้ายเกมนาที 79 ทำนบแตกจนได้จากการประสานงานของ 2 ตัวสำรอง เอลลิส ซิมม์ส กับ เจย์ ดาซิลวา ก่อนจ่ายให้ คัลลั่ม โอแฮร์ ตะบันระยะ 10 หลาตีเสมอ 1-1
ไม่พอนาที 88 แนวรับจิ้งจอกเคลียร์เตะมุมไม่พ้นอันตราย บอลตกใส่เท้า มิลาน ฟาน เอไวค์ แบ็กขวาชาวดัตช์ซัดเรียดเสียบมุมตาข่าย ทดเวลาบาดเจ็บสกอร์ไหลไปสามเมื่อ โอแฮร์ คนเดิมวอลเลย์เข้าไปอย่างสุดสวยเป็นประตูย้ำชัยพา โคเวนทรี คัมแบ็กเฮ 3-1 หยุดสถิติ เลสเตอร์ ไร้พ่ายทุกรายการไว้ที่ 11 นัดพร้อมด้วยช่องว่างจ่าฝูงแชมเปี้ยนชิพค้างอยู่ที่ 10 แต้มก่อน อิปสวิช ทาวน์ มีคิวรับมือ ซันเดอร์แลนด์ ในแมตช์คู่ดึกวันเดียวกัน
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
โคเวนทรี : แบร็ดลี่ย์ คอลลินส์ - มิลาน ฟาน เอไวค์, บ็อบบี้ โธมัส, เลียม คิตชิ่ง, เจค บิดเวลล์ (เจย์ ดาซิลวา น.67) - ทัตซึฮิโระ ซากาโมโตะ, เบน ชีฟ, จอช เอ็คเคิลส์ (เจมี่ อัลเลน น.67), เคซี่ย์ พาลเมอร์ (เอลลิส ซิมม์ส น.79) - คัลลั่ม โอแฮร์ - แม็ตต์ ก็อดเด้น
เลสเตอร์ : มัดส์ เฮอร์มันเซ่น - ริคาร์โด้ เปเรยร่า, เวาต์ ฟาส, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, เจมส์ จัสติน - เชซาเร่ คาซาเดอี, แฮร์รี่ วิงค์ส - อับดุล ฟาตาวู, เคียร์แนน ดิวส์เบอรี่-ฮอลล์, สตีฟี่ มาวิดีดี้ (เคซี่ย์ แม็คเอเทียร์ น.46) - ทอม แคนน่อน (ฮัมซ่า เชาดรี้ น.83)