เสือใต้มีเสียว บุกนำก่อนถึง 3 ลูก ก่อนโดน หญิงชรา ตีตื้นไล่มาแบบหายใจรดต้นคอ บุกเชือดหวิวไปอย่างสุดมันส์ ชูโป-โมติง เบิ้ลสองประตู พา บาเยิร์น มิวนิค เฮ 3 แต้ม พร้อมแซง อูนิโอ เบอร์ลิน ขึ้นนำจ่าฝูงอีกครั้ง ขณะที่ เสือเหลือง โชว์ฟอร์มโหดต่อเนื่อง เปิดรังถล่มยับ โบคุ่ม เละ แซง ไฟรบวร์ก ขึ้นที่ 3 เรียบร้อย ในศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน เมื่อวันเสาร์ที่ 5 พ.ย.65
แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 2-3 บาเยิร์น มิวนิค
สนาม : โอลิมเปีย สตาดิโอน
แฮร์ธ่า เบอร์ลินลงเตะในบ้านรับแข้งทีมแกร่งบาเยิร์น มิวนิค เจ้าถิ่นวางดาวี่ เซลเค่ ยืนหน้าเป้า ส่วนพี่เสือนำมาโดยเจมาล มูเซียล่า, ซาดิโอ มาเน่ และ เอริค มักซิม ชูโป-โมติง ในแนวรุก
แค่ 12 นาที ทีมเยือนก็ออกนำอย่างรวดเร็ว ซาดิโอ มาเน่ พาบอลเข้ากรอบ ก่อนไหลออกขวาให้เจมาล มูเซียล่า สอดมากดด้วยขวาเต็มข้อตุงตาข่าย บาเยิร์น มิวนิคนำ 1-0
ทีมเยือนครองเกมได้เหนือกว่า ก่อนจะหนีไปเป็น 2-0 นาที 37 จากจังหวะต่อบอลกันขึ้นมาอย่างสวยงาม ก่อนที่เลออน โกเร็ตซ์ก้าจะซัดไปติดบล็อกกองหลัง แต่บอลยังเด้งมาเข้าทางเอริค มักซิม ชูโป-โมติง ที่ล้มตัวซ้ำดาบสองเข้าไป
และถัดมานาทีเดียว บาเยิร์นฉีกหนีไปไกลเป็น 3-0 มาเน่กระชากขึ้นมา แล้วป้ายออกขวาให้แซร์ช นาบรี้เปิดเข้ามากลางประตูติดบล็อกแนวรับเจ้าถิ่น แต่ก็ยังเด้งมาเข้าทางชูโป-โมติง ล้มตัวซ้ำดาบสองเข้าไปเหมือนเดิม
เจ้าถิ่นไม่ยอมง่ายๆตีไข่แตกสำเร็จนาที 40 มาร์โก ริคเตอร์ ตักบอลจากกราบขวาเข้ามาในกรอบ ให้โดดี ลูเกบากิโอ แปเน้นๆด้วยขวาผ่านมือมานูเอล นอยเออร์เข้าไปอย่างเด็ดขาด
เท่านั้นไม่พอนาทีสุดท้าย หญิงชราก็ไล่มาเป็น 2-3 หลังจากเบนฌาแม็ง ปาวาร์ไปอัดดาวี่ เซลเค่ล้มลงในกรอบ ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์ก่อนเป่าให้เป็นจุดโทษ และเป็นเซลเค่ที่รับหน้าที่สังหารเองไม่พลาด หมดครึ่งแรกแฮร์ธ่าตามหลัง 2-3
ครึ่งหลังนาที 53 พี่เสือเกือบได้เม็ด 4 จากการต่อบอลกันขึ้นมาสวยงามและจบที่มูเซียล่ายิงไปติดเซฟโอลิเวอร์ คริสเตนเซ่น ก่อนที่แนวรับแฮร์ธ่าจะหวดทิ้งออกไป
ถัดมา 4 นาที ทีมเยือนพลาดโอกาสอีกครั้ง จากจังหวะชุลมุนในกรอบ บอลหลุดมาถึงมูเซียล่าที่ตวัดจากริมเส้นด้านขวาเข้ามาหน้าประตู ก่อนที่บอลจะไปโดนปลายสตั๊ดของอกุสติน โรเคล เปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเอง แต่สุดท้ายโดนวีเออาร์ริบ เพราะมีจังหวะที่อัลฟงโซ่ เดวิส ถูกจับล้ำหน้าเสียก่อน
จากนั้นก็ทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกมบาเยิร์น มิวนิคบุกมาเชือดแฮร์ธ่า เบอร์ลินหวุดหวิด 3-2 เก็บ 3 แต้มเต็ม พร้อมขยับแซงอูนิโอน เบอร์ลินขึ้นมายึดฝูงชั่วคราว
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
แฮร์ธ่า เบอร์ลิน : โอลิเวอร์ คริสเตนเซ่น, จอนโจ เคนนี่, อกุสติน โรเกล, มาร์ค โอลิเวอร์ เคมป์ฟ, มาร์วิน พลัตเท่นฮาร์ดท์, ซูอัต เซอร์ดาร์, ลูก้าส์ ตูซาร์, มาร์โก ริคเตอร์, โดดี ลูเกบากิโอ, ฌอง โบติอุส, ดาวี่ เซลเค่
บาเยิร์น มิวนิค : มานูเอล นอยเออร์, นุสแซร์ มาซราอุย, เบนฌาแม็ง ปาวาร์, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, อัลฟงโซ่ เดวิส, โยชัว คิมมิช, เลออน โกเร็ตซ์ก้า, แซร์ช นาบรี้, เจมาล มูเซียล่า, ซาดิโอ มาเน่, เอริค มักซิม ชูโป-โมติง
ดอร์ทมุนด์ 3-0 โบคุ่ม
สนาม : ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค
ดอร์ทมุนด์ ได้ มาร์โค รอยส์ ฟิตกลับมาเป็นสำรอง โดยแนวรุกยังเป็น ยุสซูฟา มูโกโก้, ดอนเยลล์ มาเล่น, ยูเลี่ยน บรันด์ท และ โจวานนี่ เรย์น่า ประสานงานร่วมกัน ด้านทีมเยือน โบคุ่ม วาง ฟิลิพพ์ โฮฟมันน์ ล่าตาข่าย
เริ่มเกมมา 8 นาทีแรก ดอร์ทุนด์ ขึ้นนำเร็ว 1-0 เมื่อ ยุสซูฟา มูโกโก้ เบียดชนะตัวประกบหน้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนพลิกแล้วกดเต็มข้อส่งบอลพุ่งเช็ดคานเข้าไปอย่างสวยงาม
สกอร์ขยับเป็น 2-0 ในอีก 4 นาทีถัดมาเมื่อเสือเหลืองได้จุดโทษในจังหวะที่ วาซิลิออส ลัมโปรปูลอส ไปทำฟาวล์ ดอนเยลล์ มาเล่น ก่อนเป็น โจวานนี่ เรย์น่า รับหน้าที่ยิงเข้าไปไม่พลาด
โบคุ่ม สามารถส่งบอลตุงตาข่ายได้ในนาที 26 ดานิโล่ โซอาเรส โยนบอลจากซ้ายไปถึง ฟิลิพพ์ โฮฟมันน์ เอาบอลงก่อนดีดหลังเท้าข้ามตัว เกรกอร์ โคเบล เข้าไปอย่างสวยงาม แต่ว่ามีการเช็กวีเออาร์ก่อนชี้ขาดว่าล้ำหน้า ทีมเยือนจึงไม่ได้ประตู
ท้ายครึ่งแรกมีจังหวะปะทะกันของ ดานิโล่ โซอาเรส ที่ชนกับ โจวานนี่ เรย์น่า ในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษในตอนแรกก่อนไปเช็กวีเออาร์พบว่าจังหวะของ ดานิโล่ โซอาเรส ลื่นล้มก่อนชนกัน ไม่ได้ตั้งใจเข้าทำฟาวล์ จึงเปลี่ยนคำตัดสินยกเลิกจุดโทษ
แต่ช่วงทดเจ็บ ดอร์ทมุนด์ ก็มาหนีเป็น 3-0 จนได้จากจังหวะเคลียร์บอลยาวของ นิโค่ ชลอทเทอร์เบ็ค ที่สาดโด่งขึ้นหน้า บอลตกใส่เส้นเท้าของ ดานิโล่ โซอาเรส ก่อนตกตรงหน้า ยุสซูฟา มูโกโก้ ที่ตัดสินใจซัดข้ามตัว มานูเอล รีมันน์ ที่ออกมาไกลจากพื้นที่ตัวเองแล้วกลับไม่ทัน บอลลอยฮุกก้นตาข่ายเข้าไป ทำให้จบครึ่งแรกที่สกอร์นี้
เริ่มครึ่งหลังมา 2 นาทีแรก โบคุ่ม น่าจะได้ประตูตีไข่แตกเมื่อ เควิน สเตอร์เงอร์ จ่ายบอลให้ จอร์ดี้ โอเซย่-ตูเต้ หลุดไปยิงด้วยซ้ายแฉลบขา โคเบล ก่อนชนเสาอย่างน่าเสียดาย
นาที 67 ดอร์ทมุนด์ เปลี่ยนตัว มาร์โค รอยส์ ที่เพิ่งหายเจ็บลงสนามแทน โจวานนี่ เรย์น่า ขณะที่ คาริม อเดเยมี่ ก็ได้เล่นแทน ดอนเยลล์ มาเล่น
อีก 3 นาทีถัดมา เกมหยุดพักใหญ่เมื่อ มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ หัวไปโขกกันเองกับ นิโค่ ชลอทเทอร์เบ็ค ในจังหวะขึ้นโหม่งเคลียร์บอล แต่หลังปฐมพยาบาลก็กลับมาเล่นต่อได้
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเกิดขึ้น จบเกม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เปิดรังถล่ม โบคุ่ม 3-0
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ดอร์ทมุนด์ : เกรกอร์ โคเบล - นิคลาส ซือเล่, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, นิโค่ ชลอทเทอร์เบ็ค, ราฟาเอล เกร์เรยโร่ - ซาลีห์ เอิซชาน, จู๊ด เบลลิงแฮม - ดอนเยลล์ มาเล่น, ยูเลี่ยน บรันด์ท, โจวานนี่ เรย์น่า - ยุสซูฟา มูโกโก้
โบคุ่ม : มานูเอล รีมันน์ - คริสเตียน กัมโบอา, วาซิลิออส ลัมโปรปูลอส, อิวาน ออร์เดตส์, ดานิโล่ โซอาเรส - อ็องโตนี่ โลซิลล่า - เควิน ชเตอเงอร์, คอนสแตนตินอส สตาฟิลิดิส - จอร์ดี้ โอเซยี่-ตูตู้, ฟิลิพพ์ โฮฟมันน์, ซิมอน ซอลเลอร์
ผู้ตัดสิน : โทเบียส สตีเลอร์