มาเน่ยิงหนึ่งจ่ายสอง!บาเยิร์นสุดโหดถล่มไมนซ์ยับแซงอูนิโอนขึ้นจ่าฝูง

มาเน่ยิงหนึ่งจ่ายสอง!บาเยิร์นสุดโหดถล่มไมนซ์ยับแซงอูนิโอนขึ้นจ่าฝูง
มาเน่ยิงหนึ่งจ่ายสอง! "เสือใต้" โชว์ฟอร์มโหด เปิดบ้านดาหน้ายิงไม่ซ้ำ ถล่มน้อง ไมนซ์ อย่างยับ เก็บสามคะแนนสุดล้ำค่า ทำสถิติเก็บชัยในลีก 3 นัดติด ทะยานแซง อูนิโอน เบอร์ลิน ที่มีคิวลงสนามวันอาทิตย์ ขึ้นจ่าฝูงชั่วคราว ในเกมบุนเดสลีกา เมื่อวันเสาร์ที่ 29 ต.ค. 65

ทัพเสือใต้กำลังคืนฟอร์มเก่งอีกครั้ง หลังจากที่เดือนก่อนเหมือนเจอช่วงมรสุม ไม่ชนะติดต่อกันมาหลายเกม ล่าสุดก่อนลงเตะเกมนี้ ลูกทีมของ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ ชนะมา 5 นัดรวด และไม่แพ้ใครเลยตลอดเดือนตุลาคม  ขณะที่ ไมนซ์ ผู้มาเยือน ฟอร์มช่วงหลังก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน ก่อนบุกมาเยือน อัลลิอันซ์ อารีน่า ลูกทีมของ โบ สเวนส์สัน ชนะมา 3 นัดติด ยิงได้ 10 ประตู และเก็บคลีนชีตได้ทั้งสามเกม

ส่วนการดวลกันนัดนี้ เจ้าบ้านยังไม่มีชื่อของกัปตันทีมอย่าง มานูเอล นอยเออร์ เนื่องจากยังมีอาการเจ็บไหล่ คนเฝ้าเสาจึงเป็นหน้าที่ของ สเวน อูลไรซ์ แทน ส่วนผู้เล่นตัวหลักคนอื่นๆ ยังอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็น จามาล มูเซียล่า, เลออน โกเร็ทซ์ก้า และ ซาดิโอ มาเน่

ทางด้านของ ไมนซ์ เกมนี้คู่หน้ายังคงฝากความหวังไว้ที่ คาริม โอนิซิโว และ ดาวรุ่งทีมชาติเยอรมันอย่าง โยนาธาน บูร์คาร์ดต์  แดนกลางนำมาโดย เจ ซุง ลี และ ซิลวาน วิดเมอร์ ส่วนแนวรับมีกัปตันทีมอย่าง อเล็กซานเดอร์ ฮัค ลงบัญชาการเกม

เริ่มเกมมาได้เพียง 5 นาที เจ้าบ้านได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากการทำประตูของ แซร์จ นาบรี้ โดยเริ่มจาก ซาดิโอ มาเน่ รับบอลจากทางฝั่งซ้ายก่อนจะตบเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ จามาล มูเซียล่า กระโดดข้ามหลอก บอลไหลไปถึง แซร์จ นาบรี้ วิ่งเข้ามาซัดจ่อๆ ระยะไม่ถึง 10 หลา

ไมนซ์ พยายามตั้งรับและเล่นเกมสวนกลับ แต่ยังทำได้ไม่เด็ดขาดพอ เช่นจังหวะสำคัญในนาทีที่ 13 ที่ โยนาธาน บูร์คาร์ดต์ ได้ขึ้นโหม่งเหน่งๆ แต่บอลไปตรงตัวของ สเวน อูลไรซ์

ผู้มาเยือนปล่อยให้เจ้าบ้านเป็นฝ่ายครองบอล โดยอาศัยเกมสวนกลับเร็วจากความผิดพลาดของเจ้าถิ่น  แต่ในช่วง 20 นาทีแรก ทีมเสือใต้แทบไม่แสดงความผิดพลาดออกมาให้เห็นสักเท่าไหร่

นาทีที่ 28 ทีมเสือใต้หนีห่างเป็น 2-0 ได้สำเร็จ จากลูกยิงอันหลักแหลมของ จามาล มูเซียล่า ที่รับบอลต่อจาก เอริค มักซิม ชูโป-โมติง ก่อนหาจังหวะพลิกตัวยิงบอลเรียดเข้าประตูไปอย่างสวยงาม

อีก 2 นาทีต่อมา เจ้าบ้านรอดจากการเสียประตูอย่างเหลือเชื่อ จากจังหวะที่ไมนซ์สาดยาวขึ้นมาจากแดนหลัง คาริม โอนิซิโว่  รับบอลจังหวะแรกแล้วตบเข้าในให้ อันทอน ชตัค วิ่งมายิงชนคานสนั่น จากนั้นบอลเด้งออกมาได้ซ้ำอีกครั้ง แต่ก็ยังอุตส่าห์ไปชนเสาอีก ทำให้พลาดประตูตีไข่แตกอย่างน่าเสียดาย

ช่วง 5 นาทีสุดท้ายก่อนจบครึ่งแรก ทั้งสองทีมมาได้คนละหนึ่งจุดโทษ โดยบาเยิร์น มิวนิค หนีเป็น 3-0 จากจังหวะที่ ซาดิโอ มาเน่ กระชากขึ้นมาทางกราบซ้าย ก่อนจะลากจี้เข้ากรอบและถูกกองหลังของไมนซ์ สไลด์ล้มลง  ทีแรกผู้ตัดสินไม่ได้เป่าจุดโทษ แต่หลังจากที่ดู VAR แล้วก็ได้เปลี่ยนแปลงคำตัดสิน  และสุดท้ายเป็นดาวยิงทีมชาติเซเนกัลที่ลุกขึ้นมาปิดบัญชีด้วยตัวเอง  แม้จังหวะแรกจะยิงไปติดเซฟของ โรบิน เซนท์เนอร์ แต่ยังดีที่บอลเด้งออกมาให้ซ้ำดาบสอง   จากนั้นอีก 2 นาทีต่อมา กลายเป็นผู้มาเยือนที่ได้จุดโทษบ้าง จากจังหวะที่ สเวน อูลไรซ์  ออกมากระโดดชกบอล แต่กลับไปโดนผู้เล่นของไมนซ์ ผู้ตัดสินวิ่งไปดู VAR พร้อมกับชี้ให้เป็นลูกจุดโทษแก่ผู้มาเยือน  โยนาธาน บูร์คาร์ดต์ ดาวรุ่งทีมชาติเยอรมัน เป็นคนรับหน้าที่สังหาร แต่เจ้าตัวยิงไปเซฟ ยังดีที่ ซิลวาน วิดเมอร์ มาโหม่งตีไข่แตกได้สำเร็จจากจังหวะต่อเนื่องที่ได้เปิดมุม 

จบ 45 นาทีแรก เป็น บาเยิร์น มิวนิค ออกนำ ไมนซ์ อยู่ 3-1 

เริ่มครึ่งหลังมา 7 นาที ทัพเสือใต้เกือบได้เฮเร็วอีกครั้งจากจังหวะที่ นูส์แซร์ มาซราอูย ปาดเข้ากลางมาให้ เอริค มักซิม ชูโป-โมติง ได้แตะหลบประตู แต่ยิงไปชนเสา

ต่อมานาทีที่ 57 เจ้าถิ่นได้ประตูนำเป็น 4-1 สำเร็จ จากการโหม่งของ เลออน โกเร็ทซ์ก้า โดยบอลมากเริ่มจากทางกราบซ้าย ซาดิโอ มาเน่ เปิดเข้าไปยังจุดนัดพบในกรอบเขตโทษให้ โกเร็ทซ์ก้า วิ่งเข้ามากระโดดโหม่งเข้าไปสบายๆ

จากนั้น นาทีที่ 79 บาเยิร์น มิวนิค ยิ่งเล่นง่ายขึ้น เพราะมาได้ประตูนำห่างเป็น 5-1 จากการลากตัดเข้าในแล้วยิงหักข้อของ มาติส เทล ตำสำรองดาวรุ่งที่เพิ่งเปลี่ยนลงมา

แต่อย่างไรก็ตาม ใครจะไปเชื่อว่าถัดมาแค่ 2 นาที ทีมเยือนจะยิงคืนได้อย่างทันควัน จากการแจกโชคของ สเวน อูลไรซ์ ที่ส่งบอลพลาดหน้าโกลตัวเอง ทำให้ถูก มาร์คุส อิงวาร์ตเซ่น ยิงไล่มาเป็น 6-2

เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยสกอร์นี้ แต่แล้วนาทีที่ 86 ก็มีประตูปิดกล่องเกิดขึ้นอีกประตู จากการยิงของ  เอริค มักซิม ชูโป-โมติง

จบ 90 นาที เป็นบาเยิร์น มิวนิค ที่โชว์แกร่ง เปิด  อัลลิอันซ์ อารีน่า ไล่อัด ไมนซ์ ยับเยิน 6-2  และสามแต้มสำคัญนี้ ช่วยให้ทัพเสือใต้ขึ้นไปนั่งเป็นจ่าฝูงของตารางทันที แม้จะเพียงชั่วคราวก็ตาม  ขณะที่ ไมนซ์ ความพ่ายแพ้ในเกมนี้ ส่งผลให้พวกเขาหล่นลงไปอยู่อันดับที่ 8 ของตาราง


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport