เลเวอร์คูเซ่น กับประวัติศาสตร์ใหม่ ทริปเปิลแชมป์ไร้พ่าย

เลเวอร์คูเซ่น กับประวัติศาสตร์ใหม่ ทริปเปิลแชมป์ไร้พ่าย
ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลสโมสรยุโรป ยังไม่เคยมีทริปเปิลแชมป์แบบไร้พ่ายในทุกรายการมาก่อน

ทริปเปิลแชมป์.. มี

ทีมไร้พ่าย.. ก็มี

แต่ทริปเปิลแชมป์แบบไร้พ่ายในทุกรายการ.. ไม่เคยมี

ไม่เคยมีไม่ว่าจะเป็นทริปเปิลแชมป์ใหญ่สุดที่เราคุ้นเคยกันคือ แชมป์ลีก-แชมป์บอลถ้วยในประเทศ-แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)

หรือทริปเปิลแชมป์ที่ย่อมลงมา คือ แชมป์ลีก-แชมป์บอลถ้วยในประเทศ-แชมป์ยูฟ่า คัพ (ยูฟ่า ยูโรปา ลีก) หรือ แชมป์คัพ วินเนอร์ส คัพ

ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เหลือ 4 เกมในบุนเดสลีกาที่ได้แชมป์ไปแล้ว

เหลือ 3 เกมสำหรับแชมป์ยูฟ่า ยูโรปา ลีก

เหลือเกมเดียวสำหรับแชมป์เดเอฟเบ โพคาล ที่เข้าชิงกับ ไกเซอร์สเลาเทิร์น

ทริปเปิลแชมป์แบบไร้พ่ายทุกรายการ.. ไม่เคยมี

อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม - กลาสโกว์ เซลติก - พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - อินเตอร์ มิลาน - บาเยิร์น มิวนิค - บาร์เซโลน่า และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่างก็เคยเป็นทริปเปิลแชมป์มาแล้ว

ไอเอฟเค โกเตเบิร์ก - กาลาตาซาราย - เอฟซี ปอร์โต้ และ ซีเอสเคเอ มอสโก ก็เคยเป็นทริปเปิลแชมป์ (ลีก-ถ้วย-ยูฟ่า คัพ) มาแล้วเช่นกัน

แต่ยังไม่เคยมีทีมไหนไม่แพ้ใครในทุกรายการ..

---------

ฤดูกาลนี้ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เกือบเป็นฝ่ายแพ้อยู่ 6 ครั้ง..

ประตูของ โยซิป สตานิซิซ ช่วงทดเวลา 90+7 ที่ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้ เลเวอร์คูเซ่น ยืดผลงานไม่แพ้ใครติดต่อกันรวมทุกรายการออกไปเป็น 45 เกม ทำลายสถิติเดิมของ ยูเวนตุส อย่างน่าจดจำ

หากมันก็ไม่ใช่การได้มาอย่างไร้อุปสรรค ตรงกันข้ามต้องผ่านการต่อสู้อย่างเลือดตาแทบกระเด็นมาเช่นกัน ยิ่งกับสถิติอันน่าเหลือเชื่อนี้ด้วยแล้ว.. มันไม่ได้ง่ายอย่างที่ภาพความสวยหรูฉายให้เห็น

นั่นล่ะครับ.. ฤดูกาลนี้ เลเวอร์คูเซ่นเคยตกอยู่ในสถานการณ์ที่กำลังจะแพ้อยู่แล้ว 5 ครั้ง

-นาที 90+3 ยังตามหลัง บาเยิร์น มิวนิค 1-2 ยิงตีเสมอนาที 90+4 (บุนเดสลีกา)

-นาที 90+1 ยังตามหลัง คาราบัค 1-2 ยิงตีเสมอนาที 90+2 (ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีม นัดแรก)

-นาที 90+2 ยังตามหลัง คาราบัค 1-2 ยิงตีเสมอนาที 90+3 แล้วต่อด้วยประตูชัย 3-2 นาที 90+7) (ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีม นัดสอง)

-นาที 87 ยังตามหลัง ฮอฟเฟ่นไฮม์ 0-1 ยิงตีเสมอนาที 88 แล้วต่อด้วยประตูชัย 2-1 นาที 90+1 (บุนเดสลีกา)

-นาที 88 ยังตามหลัง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-1 ยิงตีเสมอนาที 89 (ยูโรปา ลีก รอบ 8 ทีม นัดสอง)

-นาที 81 โดนดอร์ทมุนด์ขึ้นนำ 1-0 ยิงตีเสมอนาที 90+7 (บุนเดสลีกา)

หรือถ้าจะรวมเกมที่ตกเป็นฝ่ายตามหลัง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ ไบ อารีน่า จนถึงนาทีที่ 79 กว่าจะยิงตีเสมอได้เข้าไปด้วยก็เท่ากับ 7 เกม

7 เกมที่กำลังจะแพ้.. 6 เกมในจำนวนนั้นคือเกือบมาก ๆ

แต่ เลเวอร์คูเซ่น กลับมาได้ทั้งหมด

นี่คือความตายยากของพวกเขา

เหล่านี้ยังไม่รวมเกมที่กำลังจะเสมอแต่เร่งยิงประตูชัยอีกมากมาย รัว 3 ประตูตั้งแต่นาที 85 ใส่ซานด์เฮาเซ่น (ชนะ 5-2) ยิงประตูโทนนาที 90+4 ใส่คาราบัค (ชนะ 1-0)..

ยิงประตูโทนนาที 90+4 ใส่เอาก์สบวร์ก (ชนะ 1-0) ยิงประตู 3-2 แซงชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก นาที 90+1 ยิงประตู 3-2 แซงชนะสตุ๊ตการ์ท ยิงประตูขึ้นนำ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด นาที 83 (ชนะ 2-0)

ใครที่ได้ดูเกมของทีมห้างขายยาในฤดูกาลนี้คงเห็นเหมือนกันนะครับ เวลาที่พวกเขาโหมบุกนั้นมาเป็นพายุจริง ๆ มาทุกทิศทาง มาทุกรูปแบบ

โหมเข้าไป บุกเข้าไป เสียบอลก็รีบแย่งคืนมาแล้วก็บุกเข้าไปใหม่ ถูกเตะทิ้งเก็บบอลจังหวะสองได้ก็รีบเอามาบุกเข้าใส่ต่อ บอลออกข้างรีบเอามาทุ่ม บอลออกหลังรีบเอามาเตะมุม

เร่งเครื่องแบบไม่ถอนคันเร่ง เหยียบมิดตลอดเวลา ดูเลเวอร์คูเซ่นไล่บดแหลกเพื่อเอาประตูที่ต้องการทีไรก็เหนื่อยแทนคู่แข่ง เราเองเป็นคนดูยังหายใจไม่ทัน

เหนื่อย แต่ก็ประทับใจ คุณจะหลงรักฟุตบอลของพวกเขาแน่ ๆ

และถึงวันนี้ พวกเขาก็ยังไม่แพ้ใครในทุกรายการ

ตำแหน่งแชมป์บุนเดสลีกาตัดสินไปแล้ว แต่ยังมีภารกิจต้องลงเล่นให้ครบโปรแกรม 34 เกม เช่นเดียวกับอีก 2 นัดเป็นอย่างน้อย 3 นัดเป็นอย่างมากในยูฟ่า ยูโรปา ลีก และอีก 1 เกมในนัดชิงเดเอฟเบ โพคาล

พวกเขายังมีเส้นชัยที่ต้องไปให้ถึงอยู่ แน่นอนเป้าหมายอันดับหนึ่งคือการได้แชมป์ในอีก 2 รายการที่เหลือ

แต่บางทีมันก็อาจจะมีอีกเป้าหมายหนึ่งรองลงมาด้วยเช่นกัน

ทริปเปิลแชมป์แบบที่ไม่แพ้ใครเลยตลอดทั้งฤดูกาลที่ยังไม่เคยมีทีมไหนในโลกทำได้..

------------

อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม - กลาสโกว์ เซลติก - พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - อินเตอร์ มิลาน - บาเยิร์น มิวนิค - บาร์เซโลน่า และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้.. 8 ทีมนี้ต่างก็เคยเป็น ทริปเปิลแชมป์ มาแล้ว

บาเยิร์น กับ บาร์เซโลน่า เคยทำได้ 2 หน รวมแล้วทั้งหมดจึงเป็น 10 ครั้งที่ฟุตบอลยุโรปมีทริปเปิลแชมป์ (ลีก-ถ้วย-ยูโรเปี้ยน คัพ)

ถ้ารวม ไอเอฟเค โกเตเบิร์ก - กาลาตาซาราย - เอฟซี ปอร์โต้ (2 ครั้ง) และ ซีเอสเคเอ มอสโก ที่เคยเป็น ทริปเปิลแชมป์เล็ก (ลีก-ถ้วย-ยูฟ่า คัพ) มาแล้วเช่นกันเข้าไปด้วยก็จะเท่ากับ 15 ครั้ง

ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลยุโรปเคยมีทริปเปิลแชมป์เกิดขึ้นทั้งหมด 15 ครั้ง เป็นทริปเปิลแชมป์ใหญ่ 10 ครั้ง และทริปเปิลแชมป์เล็กอีก 5 ครั้ง

แต่ยังไม่เคยมีทีมไหนที่ทำผลงานไร้เทียมทานไม่แพ้ใครในทุกรายการที่ลงเตะฤดูกาลนั้นเลย

อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม ของ สเตฟาน โควัคส์ กุนซือชาวโรมาเนียที่มี โยฮัน ครัฟฟ์ เป็นตัวชูโรงเมื่อฤดูกาล 1971/72 ใกล้เคียงกับการทำ "Invincible Treble" ที่สุดเมื่อแพ้เพียงแค่ โกอเฮด อีเกิ้ลส์ ทีมเดียวเท่านั้นตลอดฤดูกาล

โกอเฮด อีเกิลส์ เป็นเพียงทีมระดับกลางตารางในลีกพรีเมียร์ดัตช์ เกมที่ 27 ของซีซั่นเมื่อเดือนเมษายน ปี 1972 เกมนั้นจบครึ่งแรก อาแจ๊กซ์ ยังนำ 2-1 ด้วยซ้ำ แต่กลับมาแพ้ 2-3

อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม ฤดูกาล 1971/72 เตะ 48 เกม แพ้ 1 เกม

ทริปเปิลแชมป์ทีมอื่น ๆ ที่เหลือในหน้าประวัติศาสตร์ต่างก็แพ้ไม่น้อยกว่า 3 เกมด้วยกันทั้งหมด..

กลาสโกว์ เซลติก ฤดูกาล 1966/67 (แชมป์ 4 รายการ) เตะ 59 เกม แพ้ 3 เกม

พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ฤดูกาล 1987/88 เตะ 49 เกม แพ้ 3 เกม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 1998/99 เตะ 62 เกม แพ้ 4 เกม

บาร์เซโลน่า ฤดูกาล 2008/09 เตะ 62 เกม แพ้ 7 เกม

อินเตอร์ มิลาน ฤดูกาล 2009/10 เตะ 56 เกม แพ้ 6 เกม

บาเยิร์น มิวนิค ฤดูกาล 2012/13 เตะ 53 เกม แพ้ 3 เกม

บาร์เซโลน่า ฤดูกาล 2014/15 เตะ 60 เกม แพ้ 6 เกม

บาเยิร์น มิวนิค ฤดูกาล 2019/20 เตะ 51 เกม แพ้ 4 เกม

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฤดูกาล 2022/23 เตะ 60 เกม แพ้ 6 เกม

---------

กับทริปเปิลแชมป์เล็ก ยังไม่เคยมีทริปเปิลแชมป์ลีก-แชมป์บอลถ้วย-แชมป์คัพ วินเนอร์ส คัพ มาก่อน แต่เคยมีทริปเปิลแชมป์ลีก-แชมป์บอลถ้วย-แชมป์ยูฟ่า คัพ (ยูโรปา ลีก) มาแล้ว

มันเคยเกิดขึ้น 5 ครั้งจากทั้งหมด 4 ทีม เอฟซี ปอร์โต้ แห่งโปรตุเกสทำได้ 2 ครั้งในยุค โชเซ่ มูรินโญ่ 2002/03 กับ อังเดร วิลลาช-โบอาช 2010/11

แต่ยังไม่เคยมีทีมไหนทำทริปเปิลแชมป์ไร้พ่าย Invincible Treble เช่นกัน..

ไอเอฟเค โกเตเบิร์ก ฤดูกาล 1981/82 เตะ 46 เกม แพ้ 5 เกม

กาลาตาซาราย ฤดูกาล 1999/2000 เตะ 56 เกม แพ้ 6 เกม

เอฟซี ปอร์โต้ ฤดูกาล 2002/03 เตะ 53 เกม แพ้ 5 เกม

ซีเอสเคเอ มอสโก 2004/05 เตะ 45 เกม แพ้ 6 เกม

เอฟซี ปอร์โต้ ฤดูกาล 2010/11 เตะ 47 เกม แพ้ 2 เกม

ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในฤดูกาลนี้ยังมีโอกาสเป็นทริปเปิลแชมป์เล็กนี้

ถ้าทำได้ พวกเขาจะกลายเป็นทีมที่ 5 และเกิดขึ้นเป็นหนที่ 6

แต่กับสถิติเตะ 44 เกม ชนะ 38 เสมอ 6 แพ้ 0 ในเวลานี้ ทีมห้างขายยายังมีโอกาสทำ Invincible Treble ได้เป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ด้วย

---------

ไม่เพียงแค่เรื่องของทริปเปิลแชมป์เท่านั้น แต่สำหรับบรรดาแชมป์ไร้พ่ายในลีกอย่าง เอซี มิลาน ฤดูกาล 1991/92 อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม ฤดูกาล 1994/95 อาร์เซน่อล ฤดูกาล 2003/04 หรือ ยูเวนตุส ฤดูกาล 2011/12 ก็เช่นกัน ไม่เคยมีทีมไหนไม่แพ้ใครตลอดทางในทุกรายการฤดูกาลนั้น ๆ เลย

เอซี มิลาน 1991/92 ที่มี รุด กุลลิท มาร์โก แวน บาสเท่น แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด เปาโล มัลดินี่ ดานิเอเล่ มาซซาโร่ มาร์โก ซิโมเน่ คว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา แบบไร้พ่ายด้วยสถิติ เตะ 34 ชนะ 22 เสมอ 12

แต่ทีมปีศาจแดงดำไปแพ้ ยูเวนตุส ในรอบรองชนะเลิศ โคปปา อิตาเลีย (นัดแรกเสมอ 0-0 นัดที่สองแพ้ 0-1)

ฤดูกาลนั้น เอซี มิลาน ลงเตะ 42 เกมใน 2 รายการ แพ้ 1 เกม

อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม 1994/95 ของ หลุยส์ ฟาน กัล เขย่ายุโรปด้วยขุนพลอย่าง ยารี่ ลิตมาเน่น คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ เอ๊ดการ์ ดาวิดส์ พาทริก ไคลเวิร์ต ฟินิดี้ จอร์จ แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด คว้าแชมป์พรีเมียร์ดัตช์และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แบบไร้พ่าย

แต่ในฟุตบอลถ้วย ดัตช์ คัพ อาแจ๊กซ์ ถูกไม้เบื่อไม้เมาตลอดกาลอย่าง เฟเยนูร์ด ร็อตเตอร์ดัม บุกกะซวกถึงถิ่นตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย พลาดโอกาสเป็นทริปเปิลแชมป์อย่างเจ็บปวด

ฤดูกาลนั้น อาแจ๊กซ์ลงเตะ 48 เกมใน 3 รายการ แพ้ 1 เกม

อาร์เซน่อลของ อาร์แซน เวนเกอร์ เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2003/04 ด้วยสถิติเตะ 38 ชนะ 26 เสมอ 12 ไม่แพ้ใคร แต่ตกรอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ด้วยการพ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-1 และยังแพ้ มิดเดิลสโบรช์ แบบไป-กลับ (0-1 กับ 1-2) ในรอบตัดเชือกฟุตบอลลีก คัพ ด้วย

ขณะที่ในถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อาร์เซน่อลแพ้ อินเตอร์ มิลาน คาบ้าน 0-3 กับแพ้ ดินาโม เคียฟ 1-2 ในรอบแบ่งกลุ่ม ก่อนจะแพ้ เชลซี ต่อหน้ากองเชียร์ของตัวเองอีก 1-2 ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดที่สอง ตกรอบอย่างเจ็บปวดด้วยประตูสุดแสบของ เวย์น บริดจ์ 

ฤดูกาลนั้น อาร์เซน่อลลงเตะ 58 เกมใน 4 รายการ แพ้ทั้งหมด 6 เกม

ยูเวนตุส ฤดูกาล 2011/12 ที่มีทั้ง จานลุยจิ บุฟฟ่อน อันเดรีย ปีร์โล่ อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ได้แชมป์กัลโช่ เซเรีย อา ด้วยสถิติเตะ 38 ชนะ 23 เสมอ 15 แพ้ไม่เป็น แต่กลับปราชัย นาโปลี 0-2 ในนัดชิงโคปปา อิตาเลีย ด้วยประตูจาก มาเร็ค ฮัมซิค และ เอดินสัน คาวานี่

ฤดูกาลนั้น ยูเวนตุสลงเตะ 43 เกมใน 2 รายการ แพ้ 1 เกม

เปรูจาของอิตาลีก็เคยทำสถิติไม่แพ้ใครในลีกอย่างน่าเหลือเชื่อเมื่อฤดูกาล 1978/79 กลาสโกว์ เซลติกก็เป็นทีมไร้พ่ายทุกรายการในประเทศเมื่อฤดูกาล 2016/17 หรือ ปอร์โต้ 2010/11 ของ วิลลาช-โบอาช ก็ไม่แพ้ใครตลอดซีซั่นฟุตบอลลีกทั้งยังก้าวไปถึงการคว้าทริปเปิลแชมป์เล็ก ลีก-ถ้วย-ยูโรปา ลีก

เช่นเดียวกับทีมอื่น ๆ อีกมากมายทั้ง เบนฟิก้า พานาธิไนกอส สเตอัว บูคาเรสต์ ดินาโม บูคาเรสต์ เบซิคตัส กาลาตาซาราย ชัคตาร์ โดเน็ตสค์ ปาร์ติซาน เบลเกรด เร้ดสตาร์ เบลเกรด ฯลฯ ที่ต่างก็เคยทำผลงานไร้พ่ายในลีกมาแล้วด้วยกันทั้งนั้น

แต่ยังไม่เคยมีทีมไหนได้ 3 แชมป์แบบไร้พ่ายมาก่อนเลย

---------

แน่นอนครับ จนถึงวันนี้ฤดูกาลของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น กลายเป็นหนึ่งในฤดูกาลประวัติศาสตร์ไปแล้ว แต่ภารกิจของพวกเขายังไม่จบ

เหลืออีก 4 เกมในบุนเดสลีกา อีก 2 หรือ 3 เกมในยูโรปา ลีก และอีกเกมเดียวในเดเอฟเบ โพคาล

จะได้แค่แชมป์เดียว.. ก็ยิ่งใหญ่

จะได้ 2 แชมป์ หรือทะลุไปถึง 3 แชมป์.. ก็ยิ่งใหญ่น่าจดจำเช่นกัน

แต่มันจะยิ่งเป็นความสำเร็จครั้งมหึมาระดับปรากฏการณ์ถ้า ชาบี อลอนโซ่ พาทีมคว้าแชมป์ทั้ง 3 รายการโดยไม่แพ้ใครเลยตลอดการแข่งขัน

มันจะไปสุดทางที่ 53 เกมทุกรายการ..

จริงอยู่ครับมันยังไม่ใช่ทริปเปิลแชมป์ใหญ่ แชมป์ลีก-แชมป์บอลถ้วย-แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ/ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่มันก็คือ ทริปเปิลแชมป์ที่มีถ้วยสโมสรยุโรปให้ได้ฉลอง และเพียงแค่คุณมองดูผลงานของพวกเขาตลอดฤดูกาลมันก็คู่ควรต่อการปรบมือให้แล้ว

ผมเองก็รอดูว่า อลอนโซ่ และ เลเวอร์คูเซ่น จะจบซีซั่น 2023/24 ด้วยผลงานอย่างไร อดตื่นเต้นไปกับพวกเขาด้วยไม่ได้จริง ๆ ครับ

-ตังกุย-


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : ตังกุย
ณัฐพล ดำรงโรจน์วัฒนา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport