อีกหนึ่งข่าวจากสูญเสียตำนานนักเตะวิงแบ๊กซ้ายทีมชาติเยอรมนี อันเดรียส เบรห์เม่
อีกหนึ่งข่าวจากสูญเสียตำนานนักเตะวิงแบ๊กซ้ายทีมชาติเยอรมนี อันเดรียส เบรห์เม่
สำนักข่าวทั่วโลกรายงานว่าสิ้นแล้ว เบรห์เม ตำนานนักเตะทีมอินทรีเหล็กในวัย 63 ปี
ตามรายงานแจ้งว่าคู่ชีวิต ซูซาน เชเฟอร์ บอกกับสำนักข่าว DPA ว่า...
หัวใจวายเฉียบพลัน
นับว่าเป็นอีกหนึ่งตำนานระดับแชมป์ฟุตบอลโลกและประสบความสำเร็จในอาชีพการเป็นนักเตะอย่างยิ่งใหญ่คนหนึ่ง
แม้การสูญเสียนั้นเข้าใจได้ แต่ในวัย 63 ปี อาจสร้างความตกใจให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้อง แม้ตำนานหลายคนที่จากโลกนี้ไปก่อนแล้วอย่าง เซอร์ บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน, เปเล่ , ฟร้านส์ เบ็คเคนบาวเออร์, ลุยจิ ริวา ตำนานดาวยิงอิตาลี นั้นด้วยวัยตามสภาพสังขารร่างกาย พอเข้าใจได้ แต่สำหรับ เบรห์เม่ นั้นทุกคนช็อคอยู่ไม่น้อย
อันเดรียส เบรห์เม่ หรือ แอนดี้ เบรห์เม่ ที่เข้าใจกันนั้น เกิดที่ฮัมบูร์ก ก่อนมาเล่นฟุตบอลกับ ซาร์บรุคเคน และเริ่มสร้างชื่อกับ ไกเซอร์สเลาเทิร์น ทีมดังของบุนเดสลีกา ช่วงปี 1984 ซึ่งตอนนั้น เบรห์เม่ ติดทีมชาติชุดโอลิมปิกแล้ว ก่อนจะก้าวมาเป็นนักเตะทีมชาติชุดใหญ่ของเยอรมันตะวันตกเดิม
จากการที่เป็นนักเตะสามารถเล่นได้ทั้งสองเท้า และหลายตำแหน่ง ทั้งวิงแบ๊ก, มิดฟิลด์ ตัวรับ ทำให้บาเยิร์น มิวนิค กระชากตัวไปร่วมทีม ช่วงนั้นเขาเริ่มปักหลักในทีมชาติแล้ว จนร่วมทีมได้รองแชมป์ฟุตบอลโลก 1986 ที่เม็กซิโก เกมนั้นแพ้อาร์เจนติน่า 3-2 เขาคือตัวหลักของ ฟร้านส์ เบ็คเคนบาวเออร์
จากฟุตบอลโลกที่เมกซิโก ปีต่อมาเขาคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา ปี 1987 กับบาเยิร์น มิวนิค ก่อนที่ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน ดึงไปเสริมทีมในยุคที่ทุกคนรู้จักกันในนามสามทหารเสืออินทรีเหล็ก นอกจากเขายังมี โลธาร์ มัทเธอุส และ เจอร์เก้น คลินส์มันน์ ร่วมมือกันล้มสามทหารเสือดัชท์ ของเอซี มิลาน อย่าง แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด, รุด กุลลิท และ มาร์โก ฟาน บาสเท่น
นัยว่าเป็นการสู้กันอย่างถึงพริกถึงขิงระหว่างสองทีมดังแห่งเมืองมิลาน
ก่อนฟุตบอลโลก 1990 ทีมชาติเยอรมนี กรุยทางจนถึงรอบชิงชนะเลิศกับอาร์เจนติน่า คู่ปรับเก่า ซึ่งเป็น เบรห์เม่ ที่ยิงจุดโทษในช่วงห้านาทีสุดท้ายช่วยให้เยอรมนี เฉือน ฟ้าขาวของ ดีเอโก้ มาราโดนา 1-0 คว้าแชมป์บอลโลกสมัยที่สามไปครอง
จากอินเตอร์เขาย้ายไปเรอัล ซาราโกซา ในสเปน ก่อนกลับมายังไกเซอร์ สเลาเทิร์นทีมที่สร้างชื่อให้กับเขาในตอนเริ่มต้นเล่นฟุตบอล และดูเหมือนว่าเส้นทางนั้นเหมือนเป็นการครบรอบชีวิตนักเตะอาชีพผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง
เขากับทีมเจ้าของฉายา "ปีศาจแดง" แห่งเยอรมนี ตกชั้นลงไปเล่นบุนเดสลีกาสอง ก่อนเลื่อนชั้นขึ้นมาในฐานะแชมป์ แล้วสร้างความยิ่งใหญ่ด้วยการล้มบาเยิร์น มิวนิค ในปีแรกที่เลื่อนกลับมา ภายใต้การนำของ อ๊อตโต้ เรห์ฮาเก้ล นั่นเอง
ขุนพลชุดนั้นแฟนบอลยุค 90 ตอนปลายน่าจะจำกันได้
นอกจาก เบรห์เม่ แล้วยังมี ประตูเมื่อก่อนออกเสียง อันเดรียส รินเค่ บ้าง ไรน์เค่ บ้าง
กองหลัง มิโรสลาฟ คาดเลช ทีมชาติเช็ค มีเจ้าหนุ่ม มิชาเอล บัลลัค ที่เริ่มมีชื่อเสียง
มิดฟิลด์ มาริยาน ฮริสตอฟ, มาร์ติน วากเนอร์ หรือกองหน้า โอลาฟ์ มาร์แชลล์ , พาเวล คูก้า ยังมี ซิริอาโก สฟอร์ซา กองหน้าทีมชาติสวิสเซอร์แลนด์...
เบรห์เม ปิดฉากการเล่นฟุตบอลกับ ไกเซอร์สเลาเทิร์น หลังคว้าแชมป์บุนเดสลีกา สมัยที่สองในชีวิต (กับบาเยิร์นหนึ่งครั้ง)
ตลอดชีวิตการเล่นฟุตบอลเขาถือว่าเป็นวิงแบ๊กแถวหน้าของวงการในระบบ 3-5-2
แชมป์บุนเดสลีกา, กัลโช่ เซเรีย อา กับอินเตอร์ แชมป์ยูฟ่า คัพเดิม, เดเอฟเบ โพคาล แชมป์ฟุตบอลโลกกับเยอรมนี ติดทีมชาติ 86 ครั้ง ยิงไป 8 ลูก
หนึ่งใน8 ลูกนั้นสำคัญที่สุด และเป็นประวัติศาสตร์โลกจารึกไปตลอดกาลคือยิงจุดโทษ ด้วยเท้าขวา ทั้งที่เล่นวิงแบ๊กซ้าย ผ่านมือ กอยโคเชีย ประตูฟ้าขาว ให้เยอรมนี
คว้าแชมป์โลกสมัยที่สาม
จะว่าไปมีเกร็ดประวัติศาสตร์เล่าผ่าน โลธาร์ มัทเธอุส เพื่อนเลิฟของเขาอีกคนหนึ่ง
ด้วยเพราะปกติการยิงจุดโทษในเวลาปกติ นั้นมือสังหารของเยอรมนี คือ มัทเธอุส แต่วันนั้น มัทเธอุส มีปัญหากับรองเท้าสตั๊ดในนัดชิงชนะเลิศกับอาร์เจนตินา
"ครึ่งแรก ลิ้นรองเท้ามีปัญหามันขาด ผมเลยต้องใส่รองเท้าคู่ใหม่ในครึ่งหลัง ครั้งแรก เป็นรุ่นใหม่ของอดิดาส ผมไม่เคยใส่มาก่อน ผมเองรู้สึกไม่ค่อยถนัดนัก พอช่วงยิงจุดโทษ ผมเลยเลือก แอนดี้ ซึ่งมีหลายคนของเรายิงได้ดี อย่าง ลิทท์บาร์สกี ก็ยิงได้"
"ผมเลือกเขาเพราะเขาเป็นรูมเมท สนิทกันมาก และเขายิงจุดโทษได้ดีเช่นกัน"
เบรห์เม ยิงด้วยเท้าขวา....เข้ามุมประตูอย่างเฉียบขาด แต่คนก็สงสัยว่าทำไมเขาเล่นวิงแบ๊กซ้าย แต่ยิงจุดโทษเท้าขวา
ครั้งหนึ่ง ฟรานส์ เบ็คเคนบาวเออร์ ผู้ล่วงลับเคยพูดทางเว็บไซด์ของฟีฟา ว่า
"ผมทำงานกับ แอนดี้ มา 20 ปี ไม่แน่ใจว่า เขาถนัดเท้าไหนกันแน่ ซ้ายหรือขวา"
แม้เล่นตำแหน่งวิงแบ๊กซ้าย เตะมุม, ฟรีคิก และครอสบอลเข้าเขตโทษด้วยเท้าซ้าย แต่พอยิงจุดโทษเขากลับเลือกยิงเท้าขวา.....
เท้าขวาที่ส่งบอลซุกก้นตาข่ายนำแชมป์ฟุตบอลโลกให้ชาวเยอรมนี ได้ชื่นชม และนับว่าเป็นอีกหนึ่งนักเตะในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลอินทรีเหล็ก และวงการฟุตบอลโลก แห่งยุค 90 อย่างแท้จริง
RIP ตำนานแชมป์ฟุตบอลโลกผู้จากไปอีกหนึ่งคน
JACKIE