ถ้าไม่ใช่เบอร์หนึ่ง ชาบี อลอนโซ่ ก็อยู่ในกลุ่มโค้ชเนื้อหอมที่มีแต่ทีมอยากได้ไปทำงานด้วย
กับหลายๆ ทีมเขามีชื่อเป็น Top list หรืออันดับสูงสุดที่สโมสรต้องการ ชื่อของเขาเป็นเต็งหนึ่งผู้จัดการทีมคนต่อไปของ ลิเวอร์พูล มาตั้งแต่วันแรกที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ประกาศวางมือล่วงหน้า
เป็นเต็งหนึ่งที่จะเข้าไปกุมบังเหียน บาเยิร์น มิวนิค ถ้าฝ่ายบริหารของทีมเสือใต้ไม่พอใจผลงานของ โธมัส ทูเคิ่ล และปลดเขาออกจากตำแหน่ง
เป็นเต็ง 4 ที่จะได้คุมทีม เชลซี ต่อจาก เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ถ้ากุนซือชาวอาร์เจนไตน์กระเด็นตกเก้าอี้ มีเพียง ฮันซี่ ฟลิค, โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ และ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ได้รับการคาดหมายว่ามีโอกาสมากกว่า
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ อลอนโซ่ จะก้าวขึ้นไปอยู่ตรงนั้น เพราะเขามีคุณสมบัติหลายๆ อย่างที่ทำให้ตนเองพร้อมเป็นตัวเลือก แม้สำหรับทีมใหญ่ๆ ที่ถือเป็นความเสี่ยงไม่น้อยกับการฝากอนาคตของทีมไว้กับเทรนเนอร์ที่เพิ่งจะได้แสดงผลงานแค่หนึ่งปีครึ่งเท่านั้น
การผ่านงานกับผู้จัดการทีมชั้นยอดหลายคนทั้ง ราฟาเอล เบนิเตซ, โชเซ่ มูรินโญ่, คาร์โล อันเชล็อตติ รวมไปถึง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คือการเรียนรู้อันประเสริฐและเป็นพื้นฐานที่ได้เปรียบ
เมื่อผนวกเข้ากับความสำเร็จส่วนตัวที่กวาดมาแล้วแทบทุกแชมป์ใหญ่ของโลกก็เหมือนเป็นแรงบวก แถมยังพ่วงเข้าไปอีกด้วยบุคลิกมีเสน่ห์ น่าเชื่อถือ และท้ายที่สุดคือผลงานที่จับต้องได้ชัดเจน
ความเป็นคนที่เข้าใจฟุตบอลอย่างทะลุปรุโปร่ง คิดและอ่านเกมตลอดเวลา ศึกษาเรียนรู้ไม่หยุดนิ่ง ทั้งยังมีความสามารถในการถ่ายทอดความคิด มีความเป็นผู้นำ มีแรงขับเคลื่อน และชาญฉลาด ทำให้ครั้งหนึ่ง มูรินโญ่ เคยพูดถึงอลอนโซ่สมัยที่ร่วมงานกันที่ เรอัล มาดริด ว่า ในวันข้างหน้านักเตะคนนี้จะเป็นโค้ชที่ดีแน่นอน และอาจจะประสบความสำเร็จยิ่งกว่าสมัยเป็นนักเตะเสียอีก
อลอนโซ่เข้าสู่งานโค้ชแทบจะในทันทีที่เลิกเล่นฟุตบอลเมื่อปี 2017 เขารับงานคุมทีมชุดอายุไม่เกิน 14 ปีของ เรอัล มาดริด ก่อนจะได้รับข้อเสนอจาก เรอัล โซเซียดาด ให้ไปทำทีมชุด B ที่เวลาเล่นอยู่ในลีกาสามของสเปน
เขาพา เรอัล โซเซียดาด B เลื่อนชั้นสู่ลีกาสองได้สำเร็จ แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่มีอยู่ในตัวแม้ทีมจะทานแรงเสียดสีในลีกาสองไม่ไหวต้องตกชั้นในเวลาต่อมาก็ตาม
และเมื่อโอกาสมาถึงที่ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เขาก็ไม่รีรอที่จะคว้ามันไว้ ถ้าทีมห้างขายยาพร้อมจะเสี่ยงกับเขา เขาก็พร้อมจะลุยไปด้วยกัน
อลอนโซ่จัดเป็นผู้จัดการทีมรุ่นใหม่ เข้ากระแสความนิยมในฟุตบอลเวลานี้ กุนซือหนุ่มไฟแรงมีแนวคิดของตัวเองและกล้าที่จะกระชากอะไรบางอย่างออกไปจากความเคยชิน
แนวทางการเล่นทันสมัย เขาเปลี่ยนเลเวอร์คูเซ่นจากทีมเซื่องๆ จมอยู่อันดับรองสุดท้ายของตารางบุนเดสลีกาให้กลับไปเล่นฟุตบอลในแบบที่ทีมใหญ่ควรจะเล่น นั่นคือครองบอลเปิดเกมบุกเข้าใส่คู่ต่อสู้ ถ้าเสียบอลก็รีบแย่งกลับมาด้วยการรุมกดดันแดนบนเข้มข้น ไม่ได้เล่นแบบรอโดน ความวิตกกังวลแผ่ซ่านเหมือนที่เป็นอยู่
เมื่อได้รับมอบอำนาจเต็มเข้าไปดูแลทีมในเดือนตุลาคม ปี 2022 อลอนโซ่เปลี่ยนระบบการเล่นจาก 4-2-3-1 เป็น 3-4-2-1 เพื่อขันเกมรับให้แน่นขึ้น เขาต้องการพื้นฐานตรงนี้ก่อนแล้วค่อยๆ สร้างทีมด้วยรูปแบบการเข้าทำที่สมดุลกับการป้องกัน เติมความเชื่อมั่นให้นักเตะในทีม
มีทั้งศาสตร์ลูกหนังที่อัดแน่นพร้อมปลดปล่อยและจิตวิทยาที่ดี ผู้เล่นอย่าง ลูคัส ฮราเด็คกี้, โจนาธาน ทาห์ และ เอดมอนด์ แท็ปโซบา ที่ฟอร์มตกอย่างหนักจนสื่อเยอรมันคาดว่า อลอนโซ่ ไม่เก็บเอาไว้แน่ กลับได้รับความไว้วางใจจากเขา พูดคุยหาหนทางแก้ไขจนเรียกความมั่นใจกลับมา
เวลานั้นทั้ง ฮราเด็คกี้, ทาห์ และ แท็ปโซบา คือหัวใจสำคัญในเกมรับของทีม คนแรกเป็นกัปตันทีมคอยเฝ้าปากประตู อีกสองคนผนึกกำลังกับ โอดีลอน คอสซูนู เป็น 3 ประสานในตำแหน่งเซนเตอร์แบ๊ก เป็นกำแพงเหล็กให้กับทีม
จากตำแหน่งรองบ๊วยตอนเข้าไปคุมทีม อลอนโซ่พาเลเวอร์คูเซ่นปีนขึ้นไปจบฤดูกาลที่อันดับ 6 ตีตั๋วไปเล่นฟุตบอลสโมสรยุโรปอีกครั้ง ทั้งยังตะลุยไปถึงรอบรองชนะเลิศยูฟา ยูโรปา ลีก ก่อนไปแพ้ โรม่า ของมูรินโญ่เจ้านายเก่า
หลายคนจับตามองฤดูกาลที่สองของอลอนโซ่ ฤดูกาล 2023/24 นี้จะเป็นการทำงานเต็มตัวของอลอนโซ่ เขาได้เตรียมทีมตั้งแต่ช่วงก่อนเปิดฤดูกาล ได้ทำงานร่วมกับผู้อำนวยการกีฬาเพื่อเฟ้นหานักเตะใหม่มาเสริมทัพ ได้วางแผน กำหนดทิศทาง ประชุมทีมและนำทัพเข้าสู่ซีซั่นใหม่
เป็นฤดูกาลของเขาแบบเต็มตัว
อลอนโซ่กล้าขาย มุสซา ดิยาบี้ กองหน้าริมเส้นคนสำคัญไปให้ แอสตัน วิลล่า แต่เงิน 55 ล้านยูโรที่ได้กลับมานั้นเอาไปแลกมาด้วยนักเตะที่เติมเต็มในจุดอื่นๆ อย่าง วิคเตอร์ โบนิเฟซ, กรานิต ชากา, โยนาส ฮอฟมันน์, อเล็กซ์ กริมัลโด้ และ เนธาน เทลล่า
สี่คนแรกคือตัวจริงของทีมในฤดูกาล 2023/24 โดย กริมัลโด้ กลายเป็นการซื้อแห่งฤดูกาล (ความจริงคือได้มาฟรีๆ จากเบนฟิก้า) อดีตเด็ก ลา มาเซีย วัย 28 มีจุดเด่นที่การเล่นลูกนิ่งทุกชนิด เป็นจอมฟรีคิกปลิดวิญญาณคนใหม่ของวงการ ขณะที่เทลล่าเป็นจิ๊กซอว์เสริมที่ปล่อยลงสนามไปเมื่อไหร่ก็พร้อมเป็นทีเด็ดอย่างเกมล่าสุดที่เหมายิงทั้งสองประตูในเกมบุกทุบดาร์มสตัดท์ 2-0
การซื้อตัวที่ตรงตามความต้องการ ตอบโจทย์แนวทางการเล่นของทีมยิ่งทำให้เลเวอร์คูเซ่นพุ่งทะยานไปอย่างน่าจับตามอง ถึงตอนนี้เตะกันมาเกินครึ่งซีซั่นแล้วทีมของอลอนโซ่ยังคงเป็นทีมเดียวใน 5 ลีกใหญ่ยุโรปที่ยังไม่แพ้ใครเลยในการลงสนามทุกรายการ 30 เกมเข้าไปแล้ว
ได้ดูบทวิเคราะห์ทั้งหลายเกี่ยวกับสไตล์การเล่นของเลเวอร์คูเซ่นในยุคอลอนโซ่แล้วก็ยิ่งทึ่ง แนวคิดหลักของทีมคือฟุตบอลเกมรุกที่เน้นการครองบอล ตั้งเกมจากแดนหลัง ผ่านบอลด้วยความแม่นยำ เคลื่อนที่ให้ฉลาด และมีการโจมตีที่หลากหลาย
หลักการที่เป็นแก่นของทีมคืออย่างนั้น แต่ในรายละเอียดการเล่นเลเวอร์คูเซ่นยังมีวิธีการอีกมากมาย
-รูปแบบ 5-5 คือเล่นเกมรับ 5 คน เล่นเกมรุก 5 คน ซึ่งจะช่วยให้ทีมมีความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนเกมรับเป็นเกมรุกและเปลี่ยนเกมรุกเป็นเกมรับอย่างราบรื่น
-การเล่นร่วมกันแบบสี่เหลี่ยมไดมอนด์ทั้งทางฝั่งซ้ายโดยเซนเตอร์แบ๊กด้านซ้าย กองกลางตัวซ้าย วิงแบ๊กซ้าย และกองหน้าด้านซ้าย และฝั่งขวาคือเซนเตอร์แบ๊กด้านขวา วิงแบ๊กขวา กองกลางตัวขวา และกองหน้าฝั่งขวา
-การถอนตัวลงมาเล็กน้อยของ ชากา และ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ เพื่อเชื่อมเล่นบอลสั้นเป็นการทำชิ่งซิกแซกกับบอลจากเซนเตอร์แบ๊กขึ้นไปถึงการได้จบสกอร์
-รูปแบบการยืนตำแหน่งที่ขยับได้ตลอดเวลา เมื่อทีมได้บอลทำเกมบุก เฌเรมี่ ฟริมปง วิงแบ๊กขวาจะพุ่งขึ้นไปเล่นแดนบนเป็นตัวรุกคนที่ 4 กริมัลโด้จะถอยมายืนแบ๊กซ้าย แท็ปโซบาฉีกไปยืนแบ๊กขวาในรูปแบบ 4-2-4 และเมื่อรุกเต็มพื้นที่ กริมัลโด้ จะเติมขึ้นไปกดแดนบนอีกคนเป็นตัวที่ 5 ในรูปแบบ 3-2-5
-บอลจากริมเส้นจะมีเพื่อนมารอที่จุดนัดพบ 2 จุด จุดแรกคือตรงกลางประตู จุดที่สองคือเสาสอง เป็นรูปแบบนี้เสมอ และไม่ว่านักเตะคนนั้นจะเป็นใคร
-เมื่อเสียบอล นักเตะ 5 คนนำโดย กองหน้าตัวเป้า (โบนิเฟซ) มิดฟิลด์คู่บน (เวิร์ตซ์ กับ ฮอฟมันน์) และมิดฟิลด์คู่ล่าง (ชากา กับ เอเซเกล ปาลาซิออส) จะรีบดันขึ้นไปบีบพื้นที่เพื่อแย่งบอลกลับมาให้เร็วที่สุด
การทำอย่างนี้เพื่อผลต่อเนื่องที่ตามมาคือได้บอลกลับมาครองในแดนคู่แข่ง แต่ที่สำคัญกว่านั้นแม้จะแย่งบอลมาไม่ได้แต่บอลโต้กลับของฝ่ายตรงข้ามจะถูกบีบให้ต้องผ่านบอลออกด้านข้าง ไม่สามารถเจาะทะลุขึ้นมาตรงๆ ได้ ทำให้เกมโต้ถูกบังคับให้ช้าลง
เลเวอร์คูเซ่นเป็นทีมเดียวที่ยังไม่เสียประตูจากการเล่นโต้กลับของคู่แข่งเลยในฤดูกาลนี้..
นี่เป็นเพียงตัวอย่างจากการวิเคราะห์แนวทางการเล่นของอลอนโซ่ซึ่งยังมีรายละเอียดซับซ้อนมากกว่านี้ การคิดหาวิธีการเล่นที่หลากหลายนั้นยากระดับหนึ่งแต่การทำให้นักเตะทุกคนเข้าใจแนวคิดนั้นและสามารถเล่นแบบอัตโนมัติได้ยิ่งยากขึ้นไปอีก กระนั้นอดีตกองกลางทีมชาติสเปนวัย 42 ปีก็ทำให้เห็นแล้วว่าเขาถ่ายทอดฟุตบอลของตัวเองไปให้กับลูกทีมได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ทุกคนต้องอ่านจังหวะของเกมอย่างชาญฉลาดว่าจังหวะนั้นควรจะเล่นแบบไหน การเข้ามาของ กรานิต ชากา ช่วยตรงนี้ได้มากด้วยประสบการณ์และความเยือกเย็นของเขา
ทุกอย่างเริ่มต้นจาก ชาบี อลอนโซ่ แล้วกระจายออกไปเป็นวงกว้าง ฉุดดึงคนรอบตัวให้ตื่นเต้นกับความท้าทายครั้งนี้ด้วยกัน นี่คือภาพที่กำลังเกิดขึ้นที่ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
อลอนโซ่ยังมีภาพที่ทาบทับของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และ ซีเนดีน ซีดาน ในฐานะอดีตนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมาทุกอย่างและก้าวขึ้นสู่งานโค้ชทีมชุดใหญ่แบบก้าวกระโดด แม้ความยิ่งใหญ่ของ บาร์เซโลน่า กับ เรอัล มาดริด จะทำให้การตัดสินใจของพวกเขามีความเสี่ยงมหาศาลมากกว่า ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่เลือกเสี่ยงกับอลอนโซ่ก็ตาม
Fast and free-flowing football ของ ชาบี อลอนโซ่ กำลังอาละวาดในบุนเดสลีกา ทั้งนักวิจารณ์ยังบรรยายเกมโต้กลับสุดโหดของพวกเขาว่า deadly on the counter-attack!
จาก "Never-kusen" สู่ "Never-Broken" ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น คือทีมเดียวในลีกใหญ่ทั้งห้าของยุโรปที่ยังไม่แพ้ใครแม้แต่เกมเดียวในทุกรายการซีซั่นนี้
คืนพรุ่งนี้เที่ยงคืนครึ่ง อลอนโซ่และทีมของเขาจะลงเตะเกมสำคัญที่สุดของฤดูกาล
บาเยิร์น มิวนิค มาเยือน ไบ อารีน่า
ไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาเป็นอย่างไร ผมก็ยังมั่นใจว่ามันไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อ ชาบี อลอนโซ่ เลย เขาจะยังคงเป็นโค้ชเนื้อหอมที่มีแต่ทีมอยากได้ไปทำงานด้วยเหมือนเดิม
น่าสนใจมากจริงๆ ครับ อลอนโซ่จะพาเลเวอร์คูเซ่นไปสู่ฝั่งฝันได้ไหม และเส้นทางของเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปในช่วงซัมเมอร์..
ตังกุย